ขบวนยิ่งใหญ่เดินทางมาถึงภูเขาหมื่นพุทธ ปีนมาถึงทะเลสาบจิ้ง พวกซาลาเปาดีใจอย่างมาก กว่าจะได้ออกมาเที่ยว ตื่นเต้นกันอย่างมาก จะเที่ยวเล่นให้ทั่วภูเขาถึงจะพอใจ
หยวนชิงหลิงร้อนใจจะพาพวกเขาไปทะเลสาบจิ้ง แต่ฟ้ามืดค่ำแล้ว ทางด้านทะเลสาบจิ้งก็มีลมแล้ว พวกเด็กๆเล่นขนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว ไปแล้วถูกลมพัดกลัวจะไม่สบาย จึงนอนพักหนึ่งคืนก่อน รอพรุ่งนี้ค่อยไปแต่เช้า
ที่วัดรู้สถานะของพวกเขา นักพรตจึงต้อนรับพวกเขาอย่างดีที่สุด อาหารมื้อนี้ทานอย่างอุดมสมบูรณ์ ผักอาหารแห้ง ทานอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนอาหารล้ำค่า
ตอนกลางคืนนอนกันตั้งแต่เช้า อยู่ในภูเขาที่เงียบสงบ การนอนเป็นสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ บวกกับรีบขึ้นดอยมาอย่างรีบร้อนจนเหนื่อยล้า นักพรตเตรียมน้ำชาให้ หยู่เหวินเห้าก็ดื่มเพียงไม่เท่าไหร่ ก็กลับไปสู่แดนฝันกับเจ้าหยวน
เช้าวันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่างก็ตื่นขึ้นมา หยู่เหวินเห้าเขย่านางอย่างตื่นเต้น บอกว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หยวนชิงหลิงเห็นว่ากว่าจะได้ขึ้นเขามาสักครั้ง ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นว่าจะสวยไหม? หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองสามีภรรยาแอบหนีออกไป
หยู่เหวินเห้าพานางมาถึงจุดสูงสุด ที่จริงอยู่ที่วัดก็สูงมากแล้ว แต่เขาคิดว่า ยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดดูพระอาทิตย์ขึ้นถึงจะสวยที่สุด
บนเขามีหมอกมาก หยู่เหวินเห้าเตรียมการแต่แรกแล้ว สวมเสื้อผ้ามาเกินหนึ่งตัว หลังจากถอดออกมาแล้วก็ปูบนพื้นหญ้า มองดูขอบฟ้าที่ปรากฏสีขาวเหมือนดั่งกระเพาะปลา
หยวนชิงหลิงพิงหัวไว้บนไหล่ของเขา หยู่เหวินเห้าโอบกอดเอวของนางไว้ จูบใบหน้าที่เย็นเฉียบของนาง พร้อมพูดขึ้นอย่างค่อนข้างตื่นเต้นว่า “เจ้าหยวน พวกเราเหมือนไม่เคยดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่”
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนพวกเรายังมีเรื่องมากมายที่ยังไม่เคยทำด้วยกัน”
“เดี๋ยวกลับไปเจ้าเขียนรายการมา แล้วพวกเราไปทำด้วยกัน” ภายใต้คิ้วเข้มของหยู่เหวินเห้า สายตาเต็มไปด้วยความเสน่หา
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้”
ตรงขอบฟ้า ปรากฏเป็นสีส้มอ่อนๆ ยังไม่เห็นพระอาทิตย์ แต่หยู่เหวินเห้ากลับตื่นเต้นเหมือนอย่างกับเด็ก พร้อมพูดขึ้นว่า “รีบดู”
สีส้มค่อยๆ ถูกย้อมเป็นสีแดงเข้ม เมฆตรงขอบฟ้าถูกย้อมเป็นผ้าทอ ชั้นสีส้มถูกย้อม ค่อยๆ กลายเป็นสีแดง
ไม่ช้า ก็มองเห็นส่วนโค้งของดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่ออกมา ก้อนเมฆเปลี่ยนไป ถูกแสงสีทองปกคลุม สวยงามตระการตา
รอเมื่อพระอาทิตย์ออกมาแล้วทั้งดวง ตอนที่แขวนอยู่ตรงขอบฟ้า แสงสว่างจ้า ทะลักเข้าสู่โลก
ทั้งสองคนจับมือกันไว้ อยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ คิดถึงความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดของอนาคต แต่ในใจเหมือนมั่นใจแล้ว นั่นก็คือ วันที่นับไม่ถ้วนของพวกเขาที่จะมาถึง ล้วนจะอยู่ด้วยกัน
ท้องฟ้าสีครามสดใส มีครุฑหรือนกอินทรีบินผ่าน บทตัวพวกมันเหมือนมีแสงสีทองส่องลงมา มองไปแวบหนึ่ง เหมือนมองเห็นนกเทพโบยบิน
หยวนชิงหลิงมองดูนกพวกนั้นบินข้ามฟากฟ้า แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
“หัวเราะอะไร?” หยู่เหวินเห้าจ้องมองมุมปากของนางที่ยิ้มหัวเราะ อย่างหลงใหล ต่างก็พูดว่าเป็นสามีภรรยาอยู่ด้วยกันนาน เห็นหน้ากันทุกวันคืน ก็จะไม่มีความประหลาดใจหรือชอบเหมือนตอนแรก แต่เขากลับกลับกัน ตอนนี้เขามองนางทุกครั้ง ยิ่งรู้สึกเหมือนนางสวยยิ่งกว่าเมื่อวาน เขารู้สึกยิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างนางไม่ได้
พวงแก้มหยวนชิงหลิงแฝงไปด้วยแสงสีทอง รูขุมขนเล็กบนใบหน้าขาวสะอาดที่แทบจะมองไม่เห็น พูดขึ้นว่า “คิดถึงคำพูดของเสด็จปู่ ที่เคยพูดว่าไทเฮาหลงของแคว้นต้าโจว จะให้หงส์น้อยแก่พวกเรา”
หยู่เหวินเห้าจับมือของนางไว้ สิบนิ้วประสานกัน พร้อมพูดขึ้นว่า “มีหมาป่าหิมะกับเจ้าเสือก็พอ”
หยวนชิงหลิงคิดว่าแผ่นดินสงบแล้ว อยากที่จะมีลูกสาวสักคน แต่เรื่องพวกนี้ต้องแล้วแต่วาสนา ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มวิกฤตให้กับชีวิตที่สงบสุขแล้ว
อย่างน้อย เจ้าห้าคิดว่า การมีลูกเป็นอันตรายอย่างมากอย่างหนึ่ง
ทั้งสองจูงมือกันลงมาจากดอย กลับมาถึงวัด พวกลูกๆตื่นขึ้นมาแล้ว วิ่งไล่กันอยู่กับหมาป่าหิมะและเจ้าเสือในลาน พระอาทิตย์ย้อมหยาดเหงื่อของพวกเขาเป็นสีทอง
“พ่อ แม่” เห็นพวกเขากลับมา เด็กทั้งสามวิ่งมาอย่างเร็ว หยู่เหวินเห้ากลัวพวกเขาชนถูกหยวนชิงหลิง กางมือรั้งไว้ อุ้มขึ้นมาข้างล่ะคน เหลือข้าวเหนียวน้อย หยวนชิงหลิงรีบอุ้มข้าวเหนียวน้อยขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...