ตอน บทที่ 119 เจ้ามีเมียทาสกี่คนกันแน่ล่ะ จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 119 เจ้ามีเมียทาสกี่คนกันแน่ล่ะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ครึ่งชั่วยามต่อมา หยู่เหวินเห้าก็ใช้สายตาโหดๆ มองดูผู้หญิงไร้ยางอายที่นั่งอยู่บนโต๊ะ
เสื้อผ้าถูกเปิดออกไปครึ่งหนึ่ง มือทั้งสองข้างตะกายไปทั่วทั้งที่คอ ที่กระดูกไหปลาร้า...แล้วออกแรงเกาไม่หยุด
มีรอยแดงบนใบหน้า บนกระดูกไหปลาร้า ลำคอ และแม้แต่บนหน้าอกที่เปิดเผยครึ่งหนึ่ง ก็มีตุ่มสีแดงขึ้นเรียงกันเป็นแถบๆ
บนพื้นมีชาม ตะเกียบและบรรดาอาหารหกเลอะเทอะ แม่นมสี่กับลู่หยาถูกไล่ให้ออกไปข้างนอกแล้ว ฝ่ายแม่นมสี่ผู้ฉลาดหลักแหลม ก็ตัดสินใจที่จะซ่อนตัวเพื่อทำซุปแก้อาการเมาค้างแบบเงียบๆ
แม้แต่เจ้าตอเป่า ก็หลบหนีเผ่นแน่บจากพายุฝนที่ทำท่าตั้งเค้า สามารถเอาตัวรอดออกไปก่อนได้สำเร็จ ตั้งแต่ที่ชามใบแรกหล่นกระแทกพื้นโน่นแล้ว
แค่เหล้าผสมดอกหอมหมื่นลี้จอกเดียว เขาสาบานได้ ว่าแค่จอกเดียวจริงๆ
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วถอยหลังไปช้าๆ
หยวนชิงหลิงหยิบคทาขึ้นมา แล้วเคาะลงไปกับโต๊ะอย่างรุนแรง แผดเสียงตะโกนสุดเสียงว่า "เจ้าอยากลองสักหน่อยหรือไม่"
หยู่เหวินเห้าบังเกิดแรงกระตุ้น ที่อยากจะฆ่านางไปเสียให้พ้นๆ ขึ้นมาทันที
ในชีวิตนี้ของเขา สิ่งที่เกลียดที่สุด ก็คือการถูกคนข่มขู่คุกคามนี่แหละ
หยวนชิงหลิงคันคะเยอไปทั้งตัวจนแทบบ้า ครั้งแรกที่นางดื่มเหล้าก็ยังแค่เมา แต่ก็ไม่มีอาการแพ้อะไร ทำไมครั้งนี้นางถึงเกิดอาการแพ้ได้ล่ะ
นางยังคงมีสติรับรู้แจ่มชัด แต่แค่ทนไม่ได้กับอาการคันที่มันลึกไปถึงกระดูกแบบนี้ มันเหมือนกับว่าเจ้าอาการคันนี้มันไหลเวียนอยู่ในเลือดของนางอย่างไรอย่างนั้น พอกวาดสายตามองหายาในกล่อง แต่ก็ไม่พบยาที่สามารถใช้รักษาอาการภูมิแพ้ได้
นางแทบอดรนทนไม่ไหว คิดอยากจะแล่เนื้อถลกหนังตัวเองออกไป เพื่อให้หายคันเลยทีเดียว
ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เขายังกล้าคิดจะหลบลี้หนีหน้าไปอีกอย่างนั้นรึ
"หลังของข้ามันคันจะตายอยู่แล้ว ข้าเกาไม่ถึง" หยวนชิงหลิงใช้ขาทั้งสองข้างทุบโต๊ะอย่างบ้าคลั่ง สองมือก็พยายามจะเอื้อมตะกายไปเกาข้างหลัง
"หมอหลวงอยู่ไหน" หยู่เหวินเห้าร้องเสียงดังอย่างดุเดือด แต่ก็ยังไม่ลืมเข้าไปช่วยเกาหลังที่คันคะเยอของนาง
หลังของนางร้อนเผ่า ร้อนจนขั้นลวกมือได้เลยทีเดียว ยามที่ปลายนิ้วสัมผัสโดน ก็ร้อนราวกับว่าถูหลังด้วยลูกประคบร้อนมาอย่างไรอย่างนั้น
นี่เจอเรื่องซวยของจริงแล้ว
ผิวนางร้อนลวกถึงขนาดนี้ ทำไมนางจะไม่ลุกเป็นไฟล่ะ
หมอหลวงรีบมาถึงอย่างรีบร้อน หยู่เหวินเห้าดึงเสื้อผ้าของนางขึ้นมาปิด หันมาพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ไม่รู้จักเคาะประตูก่อนหรืออย่างไรกัน"
หมอหลวงหันกลับไปมองประตูซึ่งเหลือเพียงบานเดียว ส่วนอีกบานหนึ่งลงไปนอนบุบเบี้ยว เอียงกระเท่เร่อยู่บนพื้นอย่างน่าอนาถ เคาะประตูรึ
เขาไม่กล้ามองหน้าท่านอ๋อง รอยที่แก้มซ้ายสาม แก้มขวาสามที่เด่นหราๆ นั่น หากใครไม่รู้อาจคิดว่าเขาเป็นแมวได้เลยทีเดียว
"ยังไม่รีบเข้ามาดูอีกว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือ" ความอดทนของหยู่เหวินเห้า ถูกช่วงชิงไปจนหมดไม่มีเหลือแล้ว จะมีใครนึกสงสาร ไอ้รอยข่วนลายพร้อยบนหน้าเขาเหล่านี้บ้างหรือไม่ล่ะนี่
หมอหลวงรีบเข้าไปทันที ไม่ต้องตรวจอาการอะไรก็ออกใบสั่งยามาชุดหนึ่ง "โรคเรื้อนจากการแพ้สุรา ดื่มยาสักชามก็ไม่เป็นไรแล้ว ข้าน้อยจะรีบไปเคี่ยวยาให้เดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ "
"ข้าจะไปเคี่ยวเอง" หยู่เหวินเห้าคว้าใบสั่งยาด้วยมือข้างเดียว กัดฟันพูดหน้าตาเคร่งเครียดสุดขีด
หมอหลวงตกใจจนผงะ ถอนหายใจเฮือก ดูสภาพแล้ว ท่านชายจอมเย่อหยิ่งกลายร่างเป็นแมวบ้านเชื่องๆ ไปแล้วอย่างนั้นรึ
คนที่ดื่มเหล้าไม่ได้ ให้หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร ก็ไม่สามารถแตะต้องเหล้าได้แม้แต่หยดเดียวจริงๆ
กว่าอาการแพ้ของหยวนชิงหลิงจะเริ่มบรรเทาลงได้ เวลาก็ล่วงเลยไปค่อนคืนแล้ว
หยู่เหวินเห้าเหนื่อยมาก จนผล็อยหลับไปที่หอเฟิ่งหยีทั้งอย่างนั้นเลยทีเดียว
สภาพภายในห้อง ก็วุ่นวายเละเทะไม่มีชิ้นดี
หยวนชิงหลิงลงไปนั่งกับพื้น ดื่มน้ำอั๊กๆ เข้าไปแก้วใหญ่ รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งฟื้นคืนจากความตายขึ้นมาได้อย่างไรอย่างนั้น
นางขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เงียบๆ แล้วเริ่มคิดทบทวนถึงอาการเมาในครั้งนี้
ไม่เพียงแต่อาการเมาในครั้งนี้เท่านั้น แต่ทุกครั้งที่นางหายจากอาการบาดเจ็บ นางจะรู้สึกว่าจิตใจของตัวเองแจ่มใส รวมถึงประสาทสัมผัสก็จะว่องไว กระปรี้กระเปร่าอย่างมาก
ตัวอย่างเช่นในเวลานี้ นางสามารถได้ยินเสียงที่ดังมาจากที่ไกลๆ ทั้งยังสามารถมองเห็นสวนที่มืดมิดผ่านทางประตูบานที่พังเสียหายไปได้อีกด้วย ถึงขั้นที่ว่ามองเห็นทุกๆ อย่างในสวนนั้นได้อย่างชัดเจนทุกประการ
เห็นได้ชัดจนเหมือนมองในเวลากลางวัน
คล้ายดั่งว่า นางจะได้ยินเสียงเซลล์ในสมองของตัวเองแบ่งตัวแตกออกจากกัน และเซลล์ประสาทก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
นางหยิบกล่องยาออกมา ปลดล็อกแล้วพูดขึ้นว่า "สเตรปโตมัยซิน"
เมื่อเปิดออกดูช้าๆ ก็พบว่ามียาสเตรปโตมัยซินชนิดฉีดสองกล่อง อยู่ในกล่องยาจริงๆ
นางปิดกล่องลง
คนที่เมาจนอาละวาด มักไม่มีจิตสำนึกที่ชัดเจนมากพอ ไม่รู้จักความหนักเบาในเวลาขาดสติ
นางรู้สึกผิดเหลือเกินแล้ว "ข้าขอโทษนะ"
หยู่เหวินเห้ามองไปที่แพขนตาที่หลุบลง ทั้งหลับตาอย่างรู้สึกผิดของนาง ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก พูดขึ้นว่า "ครั้งนี้ก็ช่างมันไปเถอะ แต่วันหลังอย่าได้ฝึกดื่มเหล้าอีกก็พอ"
"ไม่ดื่มแล้วล่ะ จะเป็นคนคอแข็งได้ คงไม่ได้มาจากการฝึกฝนจนเป็นจริงๆ นั่นแหละ" ช่างขายหน้าขายตา ดอกเตอร์สุดอัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดผู้สง่างามเช่นนางแท้ๆ พอทะลุมิติมาถึงยุคโบราณแล้ว กระทั่งสมองก็ยังถดถอยด้อยลงตามไปด้วยหรือนี่
"ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องไปจวนอ๋องหวยอีก" หยู่เหวินเห้ารู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก ยามเมื่อได้ยินคำพูด และความประพฤติที่ว่าง่ายเชื่อเช่นนี้จากนาง
หยวนชิงหลิงนอนลง พลางพูดเบาๆ ว่า "ตอนนี้ข้ามั่นใจเกินครึ่งแล้ว ว่าจะรับมือกับอาการป่วยของอ๋องหวยได้"
หยู่เหวินเห้าร้อง "หา" ออกมาเสียงดัง หันขวับไปมองนางอย่างตกตะลึง "เจ้ายังไม่ได้วินิจฉัยตรวจสอบอาการเลยด้วยซ้ำ เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจว่าตนเองจะรับมือได้ล่ะ"
"ข้ารู้แล้วว่าเขาป่วยเป็นอะไร พี่รองเคยเล่าให้ฟังแล้ว"
"แต่เมื่อคืนนี้เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าต้องไปตรวจอาการดูก่อนถึงจะรู้ได้ไม่ใช่หรือ"
หยวนชิงหลิงหาวหวอด "ข้าเคยพูดอย่างนี้ด้วยหรือ"
"เจ้าเคยพูด" หยู่เหวินเห้าตอบอย่างจริงจังมาก
เช่นนั้นแสดงว่าข้าพูดผิดเองแหละ
"เจ้า...เรื่องเช่นนี้ก็พูดผิดได้ด้วยรึ ที่ว่ามั่นใจเกินครึ่งว่ารับมือได้นั้น จงอย่าได้พูดออกไปอย่างคึกคะนองปากเด็ดขาด โดยเฉพาะต่อหน้าเจ้าหก" หยู่เหวินเห้าพูดอย่างขุ่นเคือง
ผู้หญิงคนนี้ไม่สามารถชมนางได้จริงๆ นั่นแหละ ต่อให้ชมในใจแบบเงียบๆ ก็ไม่ได้
"ข้าจะไม่พูดอย่างแน่นอน" หยวนชิงหลิงรับปาก
หยู่เหวินเห้าดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมทั้งสองคน "นอนซะ"
"เจ้าไม่กลับไปแล้วหรือ" ดวงตาของหยวนชิงหลิงลุกวาบเป็นประกาย ท่ามกลางแสงไฟสลัวในห้องนอน
"ขี้เกียจวิ่งไปวิ่งมา " หยู่เหวินเห้าตอบกลับ
หยวนชิงหลิงร้อง "อ๋อ" ออกมาเสียงหนึ่ง กลั้นความอยากรู้ไว้ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็อดใจไม่ไหว ถามออกไปว่า "เจ้ามีเมียทาสกี่คนหรือ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...