เซียวเหยากงอดไม่ได้ที่จะพูดเตือนว่า “นั่นเพราะองค์ชายรัชทายาทเสนอแนะ”
“มาตรการนโยบายหลายอย่างล้วนเป็นเหล่าขุนนางเสนอแนะ แต่ต้องดูว่าฮ่องเต้มีความกล้าที่จะนำไปปฏิบัติไหม” ไท่ซ่างหวงพูดขึ้น
เซียวเหยากงพยักหัว มองไป กลับเห็นซาลาเปาถือตำราเล่มหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก กำลังฟังอยู่อย่างหลงใหล จึงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “พระราชนัดดาองค์ใหญ่ มาแล้วทำไมไม่บอกล่ะ?”
ซาลาเปาค่อยได้สติกลับมา หอบหนังสือเข้ามาถวายบังคมไท่ซ่างหวง แล้วค่อยทำความเคารพเซียวเหยากง
“ทำไมถึงมาเวลานี้? โสวฝู่ล่ะ?” สายตาไท่ซ่างหวงเปลี่ยนเป็นเอ็นดูขึ้นมาทันที แล้วก็ยื่นมือลูบหัวเขา
ซาลาเปาเงยหัวขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “โสวฝู่ท้องเสีย น้องๆไปเล่นแล้ว ข้ากลับมาท่องหนังสือ โสวฝู่บอกว่าตอนค่ำจะให้ท่องหนังสือ”
“อืม ซาลาเปาว่าง่าย ทานขนมไหม?” ไท่ซ่างหวงรีบโบกมือ สั่งคนไปเอาขนมมา
ซาลาเปาพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า “กิน”
เขาวางหนังสือไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ไท่ซือ เงยหัวมองดูไท่ซ่างหวง ลูกตาดำสองดวงฉายแววประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “เสด็จปู่ทวด ข้าคิดว่าเมื่อกี้ที่ท่านพูดถึงเสด็จปู่ ค่อนข้างไม่ถูกต้อง”
“อ๋า? ไม่ถูกตรงไหน?” ไท่ซ่างหวงอึ้งไปสักพัก มองดูเขาอย่างแปลกใจ
ซาลาเปาพูดว่า “ข้าคิดว่าเสด็จปู่ไม่ได้กลัวการต่อสู้ แต่ว่าตอนนี้เป่ยถัง ยังมีปัญหาภายในที่ต้องแก้ไขมากมาย อย่างเช่นปัญหาภัยน้ำท่วมในทุกปี อย่างเช่นปัญหาภัยแล้งทางภาคเหนือ อย่างเช่นพื้นที่ยากจนหลายพื้นที่มากมากที่ขาดแคนอาหาร ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม เสด็จปู่อยากจัดการภายในก่อนแล้วค่อยจัดการภายนอก ตามหลักการแล้ว แบบนี้ไม่ผิด เพียงแต่ว่า เสด็จปู่เพิกเฉยไปหนึ่งอย่าง หากศัตรูภายนอกจับตามองดูอยู่ตลอด ปล่อยนานไปจะกลายเป็นปัญหาร้ายแรง ยังจะเป็นการทำให้ประชาชนเข้าใจว่าราชสำนักอ่อนแอ ราชสำนักไม่แข็งแกร่งประชาชนอ่อนแอ แล้วจะมีความสงบสุขเจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร?”
ไท่ซ่างหวงมองดูเขา มองอยู่เนิ่นนาน คำพูดพวกนี้พูดออกมาจากปากเด็กอายุเพียงไม่กี่ขวด ทำให้ไม่น่าตกใจได้อย่างไร?
เขาพยักหัวให้กับซาลาเปา น้ำเสียงก็ค่อนข้างแหบ พร้อมพูดขึ้นว่า “ซาลาเปาพูดถูก”
เขาหันไปมองดูเซียวเหยากง พร้อมพูดขึ้นว่า “คราวนี้เจ้ารู้หรือยัง ทำไมข้าถึงไม่ยอมให้ใครทำอันตรายองค์ชายรัชทายาท? ต่อไปซาลาเปาของข้าก็จะต้องเป็นฮ่องเต้”
องค์ชายรัชทายาทมีความสามารถ แต่ซาลาเปาเป็นคนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุด
ใครก็จะมาสั่นคลอนจุดนี้ไม่ได้ สั่นคลอนตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์ เท่ากับเป็นการทำให้ประเทศชาติสั่นคลอน เขาจะสนใจว่าใครน่าสงสารหรือไม่น่าสงสารทำไม?
ซาลาเปาเริ่มท่องหนังสือแล้ว ท่าทีจริงจังทะมัดทะแมง
ฮ่องเต้หมิงหยวนมาที่ตำหนักฮู่เฟย พูดคุยไปเรื่อยอยู่ตั้งนาน แต่ก็ไม่สามารถพูดเรื่องเลือกพระสนมออกมาได้
แต่ฮู่เฟยคิดเดาได้เองแล้ว จึงพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้กำลังเครียดเรื่องเลือกพระสนมหรือ?”
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองดูนาง พร้อมถามขึ้นว่า “เจ้าถือสาเรื่องนี้ไหม?”
ฮู่เฟยพูดขึ้นอย่างสงบว่า “เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ว่าช้าหรือเร็ว ตอนที่ข้าเข้าวังก็ทำใจเรื่องนี้ไว้แล้ว”
ฮ่องเต้หมิงหยวนจับมือของนาง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “มีบ่อยครั้งที่ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...