ราชบุตรเขยหลิวพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เปิดโรงหมอในนามของข้า แต่เรื่องภายในโรงหมอ ข้าเคยแสดงความคิดเห็นอะไรไหม? เจ้าเคยฟังความคิดเห็นของข้าไหม? หากไม่ใช่เพราะเจ้าต้องการใช้ความสัมพันธ์ของท่านพ่อกับรู้เรื่องยาเป็นอย่างดี เจ้าจะให้ท่านพ่อมีส่วนร่วม? ตอนที่เพิ่งเปิดโรงหมอ ท่านพ่อร่วมทุนสามหมื่น หลายปีที่ผ่านมา หลายปีมานี้ยังช่วยคิดวางแผนให้เจ้า เปิดขยายโรงหมอกับโรงผลิตยา สุดท้ายเจ้าทำยังไงกับท่าน? แม้แต่ร้านสักแห่งเจ้าก็ไม่แบ่งให้เขา เจ้าลืมไปแล้วว่าใครช่วยเหลือเจ้า เจ้าโหดเหี้ยมเด็ดขาด ทำให้คนอื่นเสียความรู้สึก ข้าไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงแบบนี้ต่อไปได้ ต่อให้เจ้าจะฆ่าข้า ข้าก็จะไม่ยอมกลับไปอีก”
“ไม่ว่ายังไง” สายตาเกลียดแค้นของนางมองดูเมียน้อยที่อยู่ด้านข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าถูกหญิงแพศยาทำให้หลงเสน่ห์ ข้ออ้างของเจ้า คืออยากให้ข้าไม่เอาเรื่องเจ้าหรือ? ฝันไปเถอะ ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าทั้งคู่แน่”
ราชบุตรเขยหลิวพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “แล้วแต่เถอะ เจ้าหญิงไปฟ้อง ไปแจ้งความได้เลย แต่ในราชสมัยเป่ยถัง ราชบุตรเขยล้วนสามารถมีสนมได้ เจ้าหญิงไม่ให้สนมของข้าเข้าจวน ข้าจึงต้องมีอยู่ข้างนอก หากที่ทำการปกครองที่ลงโทษ ต้องถูกโบย ต้องติดคุก ข้าก็ยอมรับ”
คำพูดพวกนี้ เหมือนดั่งมีดเล่มคม ทิ่มแทงกลางใจของฮุ่ยผิง ทำให้นางเจ็บปวดใจอย่างสุดจะทน นางพยายามยืดเอวตรง น้ำตาเอ่อ กลับไม่ให้น้ำตาไหลออกมาสักหยด นางพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ดี ดี เจ้าคอยดู เจ้าเอาเงินที่ขายร้านไป ข้าจะฟ้องเจ้าแน่ เจ้าจะเพียงแค่ถูกโบยติดคุกหรือ? ข้าจะให้เจ้าตายอย่างไร้ที่ฝัง เจ้าทำตัวเจ้าเอง เจ้าอย่ามาเสียใจทีหลัง”
นางสะบัดแขนเสื้อ จากไปด้วยความโกรธแค้นเต็มอก
ราชบุตรเขยหลิวมองดูเงาหลังของนาง ใบหน้าขาวสะอาด ค่อยๆเผยยิ้มขมขื่นอย่างจนใจ องค์หญิงฮุ่ยผิงจากไปได้ไม่นาน ทังหยางเดินออกมาจากข้างหลังจวน
ทังหยางมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “หวังว่าราชบุตรเขยจะสามารถทำได้อย่างที่พูด”
ราชบุตรเขยหลิวล้วงเอาใบฝากเงินออกมาจากในกระเป๋า ยื่นให้กับทังหยาง พร้อมพูดขึ้นว่า “สามล้านตำลึงล้วนอยู่ในนี้ บริจาคให้กับโรงหมอหลวงในนามของเจ้าหญิง ไม่เสียใจแน่นอน”
ทังหยางรับใบฝากเงินมา มองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ความจริงแล้ว ราชบุตรเขยเอาเงินพวกนี้ แล้วพาภรรยาอีกคนจากไปให้ไกลโพ้น หลายล้านตำลึง สามารถทำให้พวกเจ้าใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต”
ราชบุตรเขยหลิวส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “เป็นสามีภรรยากันมา ข้าจะทำกับนางเช่นนี้ไม่ได้ สามล้านนี้เจ้าเอาไป และขอให้ท่านรักษาคำพูด ไม่ต้องฟ้องนางเรื่องที่นางก่อเหตุไฟไหม้ ฆ่าคนตาย”
“วางใจ องค์ชายรัชทายาทพูดแล้ว ขอเพียงราชบุตรเขยหลิวยอมบริจาคเงินพวกนี้ให้กับโรงหมอหลวง องค์ชายรัชทายาทจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก” ทังหยางอมยิ้ม เอาใบฝากเงินใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
จะไม่พูดแน่นอน เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานเลยด้วยซ้ำ ผู้ถูกกระทำพวกนั้นไม่ยอมพูดอะไรเลย ต่อให้พูด ก็เป็นแค่เพียงการสันนิษฐานว่าคนร้ายคือฮุ่ยผิง ไม่มีหลักฐานชัดเจน ตอนนั้นที่พูดแบบนั้น เพียงเพื่อข่มขู่ราชบุตรเขยหลิวเท่านั้นเอง
ราชบุตรเขยหลิวเริ่มดำเนินการขายร้าน ทังหยางก็เริ่มตีสนิทเขา เอาเรื่องที่เขามีเมียน้อยกับเรื่องที่เจ้าหญิงฆ่าคนข่มขู่ ทำให้ราชบุตรเขยหลิวขายร้านในราคาถูก และนำเงินที่ได้จากการขาย บริจาคให้กับโรงหมอหลวง
สภาพจิตใจราชบุตรเขยหลิวไม่แน่วแน่ จึงถูกทังหยางหลอกให้ตกใจ แต่จะบริจาคเงินสามล้านนี้ออกไป เจ้าหญิงจะต้องเป็นปรปักษ์กับเขาแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นปรปักษ์ก่อน พาเมียน้อยมาซื้อบ้านอยู่ที่นี่ ต่อไปก็จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ รับท่านพ่อมาอยู่ด้วย ทิ้งทุกอย่างในเมืองหลวง ช่วยนางปิดบังเรื่องนี้ต่อหน้าองค์ชายรัชทายาท เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาทำให้นาง
ทุกคำพูดที่เขาพูดกับเจ้าหญิงเมื่อกี้ พูดจากใจทุกคำ ซึ่งเขาเจ็บปวดจนใจเย็นชาไปแล้วจริงๆ
ก่อนที่ทังหยางจะไป ราชบุตรเขยหลิวถามขึ้นว่า “โรงหมอพวกนั้น องค์ชายรัชทายาทซื้อหรือท่านชายสี่เหลิ่งซื้อ?”
ทังหยางเอามือทั้งคู่ล้วงกระเป๋า พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ใครซื้อก็ไม่สำคัญ สุดท้ายล้วนจะบริจาคให้กับราชสำนัก เพื่อใช้เปิดเป็นโรงหมอ” ทังหยางพูดเสร็จ แล้วก็ก้าวเดินจากไป
ฮุ่ยผิงกลับมาถึงเมืองหลวง พาคนไปหายอดหมอหลิว กลับได้รู้ว่า ยอดหมอหลิวจากไปแต่แรกแล้ว ส่วนไปที่ไหน ไม่มีใครรู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...