หลังจากหลิวจิ้งหยิบตั๋วเงินแล้ว ก็ซ่อนไว้ในอุโมงค์ใต้ดินจวนตามที่อาหลิวบอก รอจนขายสถานพยาบาลกับยาที่กักตุนเรียบร้อยแล้วก็ออกจากเมืองหลวง
ทว่าวันนี้พี่น้องของหลิวจิ้งได้เงินก้อนโต ทั้งไม่อยากไปจากเมืองหลวง คืนวันนั้นจึงนัดกันไปเที่ยวที่หอสามบุปผา
หลังจากพวกเขาออกไปในตอนกลางคืนแล้วก็อาศัยยามราตรีออกไปด้วย
เมื่อเขาถึงที่นั่งชั้นดีในโรงน้ำชา สองด้านของที่นั่งชั้นดีปิดสนิท ด้านข้างใช้ผ้าม่านกั้นไว้ ด้านหน้ามีระเบียงบันได หันหน้าไปทางนักเล่าเรื่องที่อยู่กลางโรงน้ำชา จุดนี้เป็นที่นั่งของแขกระดับสูง นั่งตรงนี้ น้ำชากาหนึ่งต้องจ่ายถึงหนึ่งตำลึงสองตำลึง
เขาสั่งน้ำชามากาหนึ่ง นั่งฟังการเล่าเรื่อง เมื่อฟังจบก็เรียกคนขายใบชามา ให้รางวัลนักเล่าเรื่องสิบสองตำลึง กล่าวเรียบ “เชิญคนเล่าเรื่องมาให้ข้าหน่อย!”
พอคนขายใบชาเห็นเงินสิบสองตำลึง ลูกตาก็แทบจะถลน เขาไม่เคยพบเห็นแขกที่มือเติบเช่นนี้มาก่อน เอ่ยขอบคุณพลัน จากนั้นก็ไปตามนักเล่าเรื่องด้วยความเร็วรี่
เมื่อนักเล่าเรื่องตบรางวัลถึงสิบสองตำลึงก็ตามคนขายใบชามายังที่นั่งชั้นดี
เปิดม่านเข้าไปแล้วนักเล่าเรื่องก็รีบโค้งตัวขอบคุณ
อาหลิวช้อนตาเรียบ “นั่ง!”
“เออ...” นักเล่าเรื่องเห็นแขกไม่เหมือนคนชั้นสูง แต่กลับมือเติบตบรางวัลให้เช่นนี้แล้วก็นั่งลงตามที่บอก ปรนนิบัติน้ำท่าอย่างระมัดระวัง “เชิญขอรับ!”
อาหลิวไล่ให้คนขายใบชาออกไป จากนั้นก็ล้วงตั๋วเงินจากแขนเสื้อออกมาใบหนึ่ง ดันออกไปช้าๆ
เมื่อนักเล่าเรื่องเห็นมูลค่าตั๋วแลกเงินพันตำลึง ก็ตกใจจนตาตั้ง “ท่าน นี่คือ?”
“ทำงานให้ข้า เรียบร้อยแล้วยังมีค่าเหนื่อยอีกสองเท่า!” อาหลิวมองเขาพลางเอ่ย
นักเล่าเรื่องไม่ได้รับไว้ในทันที แต่เอ่ยถามก่อน “ไม่ทราบท่านต้องการให้ข้าน้อยทำเรื่องอะไรหรือขอรับ?”
อาหลิวมองเขา ยิ้มน้อยๆ “วางใจเถอะ ไม่ยากหรอก แค่เรื่องไม่กี่ประโยคเท่านั้น การเล่าเรื่องในวันพรุ่งนี้ ข้าต้องการให้เจ้าเล่าเรื่องเรื่องหนึ่ง เล่าเรื่องนี้จบแล้วเจ้าก็เก็บข้าวของออกเมืองหลวงทันที ข้าจะรอเจ้าที่ประตูเมือง เอาตั๋วเงินที่เหลือให้”
นักเล่าเรื่องเอ่ยถาม “เป็นเรื่องอะไรหรือขอรับ? ข้าน้อยต้องฟังดูก่อน”
อาหลิวยื่นมือออกไปเกี่ยวนิ้ว “เข้ามาสิ!”
นักเล่าเรื่องเงี่ยหูไป “เชิญท่านกล่าวมาได้!”
“เรื่องนี้ก็คือองค์รัชทายาทในตอนนี้วางแผนให้ร้ายเจ้าหญิงฮุ่ยผิว ทำให้นางตายแล้วก็หลอกบุตรชายเจ้าหญิงฮุ่ยผิงขายโรงงานยา แย่งเงินครึ่งหนึ่ง...”
เมื่อเขาพูดไปครึ่งหนึ่งแล้วก็หยุด มองมีดสั้นเย็นเฉียบตรงลำคอ แล้วเงยหน้ามองนักเล่าเรื่องอีกครั้ง นักเล่าเรื่องจับมีดสั้น ใบหน้ามีรอยยิ้มเย็นชา “แต่งเรื่องให้องค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันหรือ? เจ้าเป็นใคร?”
สายตาอาหลิวแวบความตกใจ แต่กระนั้นก็ยังสงบ “แล้วเจ้าเป็นใคร?”
นักเล่าเรื่องหัวเราะชืดๆ “ข้าเป็นใครเจ้าไม่ต้องสนใจ แต่เจ้าต้องไปกับข้า!”
อาหลิวยิ้มเย็น “แล้วถ้าข้าว่าไม่ล่ะ?”
“เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้ว!” นักเล่าเรื่องยกมีดสั้นที่อยู่ในมือ “ถ้าไม่อยากให้บนคอมีรูเพิ่ม งั้นก็ไปกับข้า”
แต่อาหลิวกลับเบี่ยงศีรษะ มีดสั้นของนักเล่าเรื่องเคลื่อนออกไป ความไวไม่เท่าเขา ล้วงมีดสั้นออกมาจากแขนเสื้อโจมตีนักเล่าเรื่อง นักเล่าเรื่องชะงัก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นวรยุทธ์ หลบไปอย่างรีบร้อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...