หยวนชิงหลิงคิดไม่ถึงว่าเสด็จพ่อก็ไม่สนับสนุนเขาด้วย มิน่าล่ะขุนนางราชสำนักถึงได้คัดค้าน
ที่จริง มีคนมากมายที่กลัวสงคราม เมื่อเปิดศึกแม่น้ำภูเขาก็จะทลายเป็นเสี่ยง พสกนิกรต้องพลัดพราก หวาดเกรงไม่เป็นสุข โดยเฉพาะตอนนี้ทุกคนต่างคิดว่าสงบสุขรุ่งเรือง การทำสงครามในเวลานี้จะทำให้แคว้นไม่อาจกลับมาเป็นดังเดิมได้อีก
แต่การยั่วยุของเป่ยโม่เคยหยุดที่ไหน? แรกเริ่มร่วมมือกับต้าโจว ที่จริงเป่ยโม่ไม่ถือว่าเข้าร่วมสงครามจริงๆ พวกเขาแค่สะสมกองกำลังเท่านั้น
ส่วนต้าโจวที่มีกองกำลังเกรียงไกร สองปีก็ไม่ผ่อนปรน สร้างความแข็งแกร่งทางชายแดนของตัวเอง พัฒนาเศรษฐกิจภายในมาตลอด ตอนนี้สามีภรรยาเฉินจิ้งถิงอยู่ที่เมืองเม่า เฝ้าชายแดนกับเซียนเปย ทว่าที่ห่างจากเมืองเท่านับร้อยลี้คือเมืองหลิ่งเก๋อของเป่ยโม่ ถือเป็นตำแหน่งสำคัญทางการทหารของเป่ยโม่เช่นกัน
ต้าโจวไม่เคยผ่อนกำลัง แต่เป่ยถังกับชะล่าใจ เป่ยโม่ไม่สู้กับเขาแล้วจะสู้กับใคร?
แต่เรื่องเหล่านี้นางไม่อาจช่วยได้ เห็นเจ้าห้าที่เครียดจนหงุดหงิดจิตใจว้าวุ่นแล้วก็ได้แต่พูดปลอบเสียงเบาเท่านั้น
หยู่เหวินเห้ากุมมือนาง ปรับอารมณ์เอ่ย “เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว กินข้าวเป็นเพื่อนเจ้า วันนี้ไม่กลับที่ทำการปกครองแล้ว”
“อื่ม!” หยวนชิงหลิงรับคำ แล้วเดินออกไปกับเขา
ทังหยางกับสวีอีที่อยู่ด้านนอกก็ตามไปด้วย หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ ทังหยางก็เข้าห้องหนังสือกับหยู่เหวินเห้า
ช่วงเย็น หยู่เหวินเห้าเขียนจดหมายหาอ๋องเว่ย ให้เขาเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของเป่ยโม่
ผ่านไปหลายวัน เหลิ่งจิ้งเหยียนก็ส่งข่าวกลับมา บอกว่าใกล้จะเจรจากับหมอผีของเจียงเป่ยแล้ว หากราบรื่น ก็มีหวังว่าจะยุติสงครามได้ แต่เงื่อนไขที่เจียงเป่ยเอ่ยมา เรื่องอื่นพอว่าได้ แต่มีเพียงเรื่องเดียว นั่นคือต้องละเว้นภาษีของเจียงเป่ยตลอดไป ห้ามตรึงกำลังทหาร ห้ามตั้งจวนส่งขุนนางมา หรือก็หมายถึงเจียงเป่ยยังคงปกครองตนเอง และไม่อยู่ในการควบคุมของราชสำนัก
ฮ่องเต้หมิงหยวนไม่อาจยอมรับ ให้เหลิ่งจิ้งเหยียนไปเจรจา อย่างมากคือละเว้นภาษีได้สามปี ต้องมีการตรึงกำลังทหาร แต่เจียงเป่ยต้องอยู่ในการปกครองควบคุมของอ๋องหนานเจียง
นี่คือที่สุดแล้ว ดูว่าเหลิ่งจิ้งเหยียนจะไปเจรจาอย่างไร
ในช่วงเวลาสำคัญ ท่านชายสี่เหลิ่งมายังจวนอ๋องฉู่ อีกทั้งครั้งนี้ยังพาหยู่เหวินเห้าเข้าห้องหนังสือไปทันที
หยวนชิงหลิงเห็นเขาเดินเข้ามา ชีวิตนี้นางไม่เคยเห็นท่านชายสี่เหลิ่งเดินจ้ำเร็วเช่นนี้มาก่อน ที่แล้วมาล้วนเอามือไพร่หลัง ท่าทางยุรยาตรอย่างกับผู้เฒ่าเลี้ยงนก ทว่าวันนี้กลับว่องไวฉับๆ เป็นพิเศษ ทั้งหรงเยว่ก็ตามมาด้วย แต่นางไม่ได้เข้าห้องหนังสือ
หยวนชิงหลิงลากหรงเยว่เข้าห้อง “เกิดอะไรขึ้น?”
หรงเยว่ให้ลู่หยาออกไปก่อน ปิดประตู แล้วหันมามองหยวนชิงหลิง เอ่ยอย่างหนักใจ “เทียนตี้ทงของสำนักเหลิ่งหลังได้ข่าวมา บอกว่ามีคนให้เงินหนึ่งล้านตำลึงทองซื้อศีรษะองค์รัชทายาท”
“อะไรนะ?” หยวนชิงหลิงระทึกถึงที่สุด หนึ่งล้านตำลึงทอง เช่นนั้นหากแลกแล้วก็มากกว่าเงินขาวสิบล้านก้อน
“ผู้ใดกัน?” หยวนชิงหลิงถามไปโดยไม่ทันคิด ใบหน้าซีดเผือด
“วางเงินหนึ่งล้านตำลึงทองได้ ย่อมไม่ใช่ผู้ใดก็ได้” หรงเยว่มองนางนิ่ง “มีเพียงแคว้นเดียวที่มีทรัพย์มากขนาดนี้ แน่นอน ไม่ใช่ว่าพ่อค้าก็มีเงินจำนวนนี้ได้ แต่พ่อค้าไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพย์สินทั้งหมดมาต่อกรกับองค์รัชทายาท”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...