บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1308

พระชายาซุนเพ่งมองนาง “ทำไม? เจ้าจะแต่งกับใคร?”

“ทำไม? ท่านไม่ดีใจแทนข้าหรือ?” จวิ้นจู่จิ้งเหอยิ้มแล้วเอ่ยถาม

พระชายาซุนร้อนใจเป็นที่สุด “ข้าดีใจบ้าอะไร ข้าจะดีใจอะไรล่ะ? เจ้าแต่งกับใคร? เป็นคนของตระกูลใด? ลักษณะนิสัยเป็นอย่างไร? คนในจวนซับซ้อนหรือไม่? แม่สะใภ้เป็นคนเรื่องมากหรือไม่? พี่สาวน้องสาวของสามีเจ้าเล่ห์ร้ายหรือไม่? ฝ่ายตรงข้ามเคยแต่งงานหรือเปล่า? มีลูกชายลูกสาวไหม?”

คำถามเป็นพวงติดกันถูกพ่นออกมาจากปากของพระชายาซุน เรียงกันทีละอย่างๆ ชัดเจนไร้ที่เปรียบ และเป็นจริงมากที่สุด ฟังออกได้ว่านางเป็นคนที่ห่วงใยจวิ้นจู่จิ้งเหอที่สุด จะแต่งงานของนางประโยคเดียว นางก็ได้ช่วยนางฉวยจับปัญหาที่สำคัญที่สุดแล้ว

เดิมทีจิ้งเหอมองดูนางแบบหยอกล้อ ได้ยินนางถามเช่นนี้ ตะลึงงันไปชั่วขณะ นัยน์ตามีหมอกชั้นหนึ่งพรั่งพรูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เบ้าตาแดงเล็กน้อย “ท่านพี่สะใภ้รอง ขอบคุณท่านมาก!”

“เจ้ายังรู้จักเรียกข้าว่าท่านพี่สะใภ้รองคำหนึ่ง เจ้า......เฮ้อ เจ้าแต่งงานเช่นนี้แล้ว น้องสามจะทำอย่างไรล่ะ?” พระชายาซุนร้อนใจจนกระทืบเท้า

“ไม่ใช่ว่าท่านรู้สึกว่าเขาไม่ดีต่อข้ามาตลอดหรือ ไม่ยอมที่จะสนใจเขาหรือเพคะ?” จิ้งเหอกล่าว

พระชายาซุนเองพูดพลางเบ้าตาก็แดงแล้ว “เมื่อก่อนเขาไม่ดีกับเจ้าจริงๆ ไม่สมควรได้รับการอภัยจริงๆ แต่......ตอนนี้เจ้ากำลังจะแต่งงานนี่ เจ้าเป็นการเอาชีวิตเขาเชียวนะ ในจิตใจของเขาคิดอย่างไร ข้ารู้ดี ก็เพราะรู้ว่าเขารักเจ้า แต่กลับทำเรื่องเช่นนั้นออกมาเพื่อทำร้ายเจ้า ข้าจึงไม่ให้อภัยเขา แต่ในโลกนี้ ก็หาคนผู้หนึ่งที่รักเจ้าเช่นนี้ไม่ได้แล้วจริงๆ”

คำพูดนี้ของพระชายาซุน พูดจนจิตใจของทุกคนล้วนเป็นทุกข์อย่างที่สุด แม้แต่ฮู่เฟยที่ไม่ค่อยได้ไถ่ถามถึงเรื่องราวของพวกเขาทั้งสองมากนัก ได้ยินแล้วก็เบ้าตาแดงขึ้นมา

โดยเฉพาะพระชายาอานรู้สึกทุกข์ใจเป็นพิเศษ หลบหน้าไปเช็ดน้ำตา อ๋องเว่ยและจวิ้นจู่จิ้งเหอตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งหมดล้วนเกิดจากน้ำมือของเจ้าสี่

จิ้งเหอกล่าวเบาๆคำหนึ่ง “ในเมื่อท่านไม่เห็นด้วยที่ข้าจะกลับมาอยู่กับเขาอีกครั้ง เช่นนั้นท่านคือต้องการให้ข้าอยู่คนเดียวจนแก่เฒ่าหรือเพคะ?”

“เช่นนั้นไม่ได้!” พระชายาซุนแหงนหน้ามองนางทันที น้ำเสียงค่อนข้างหนักแน่น “อยู่คนเดียวจนแก่เฒ่าไม่ได้ ดูฮูหยินเหยาเช่นนั้น ช่างน่าสงสารนัก ทุกครั้งที่ข้าพบนาง ข้ารู้สึกกระทั่งว่านางกำลังจะขึ้นราแล้ว”

จวิ้นจู่จิ้งเหอเหลือบมองนาง “เช่นนั้นท่านจะให้ข้าทำอย่างไรเพคะ?”

พระชายาซุนพูดไม่ออกชั่วขณะ!

จวิ้นจู่จิ้งเหอหัวเราะเจื่อนๆเสียงหนึ่ง “สถานการณ์ของข้าในตอนนี้ทำตัวไม่ถูกเป็นที่สุด ข้าแต่งงานไม่ได้ คืนดีไม่ได้ เหงาไม่ได้ เช่นนั้นข้าจะต้องจัดการตัวเองอย่างไรล่ะเพคะ? หลายวันมานี้ข้าอยู่ในจวน ผู้อาวุโสในตระกูลมองข้าด้วยสายตาสงสารทุกวัน ลองหยั่งเชิงทั้งทางตรงทางอ้อมว่าข้าควรจะแต่งงานแล้ว ถึงกระทั่งมองหาตัวเลือกที่เหมาะสมให้ข้า หากข้าออกจากจวนไปสำนักแม่ชี เงียบสงบก็เงียบสงบ แต่สุดท้ายจิตใจข้าก็ไม่สงบนี่ ข้าตัดใจทิ้งครอบครัวไม่ลง ออกจากเมืองหลวง.......บอกตามตรง ข้าเหนื่อยล้าแล้ว เดินไปแห่งใดก็ล้วนเป็นคนแปลกหน้า อยากหาคนคุยด้วยสักคนก็ไม่ได้ ความเหงาแบบนั้น ท่านรู้หรือไม่? ว่าเป็นการเปล่งออกมาจากในวิญญาณ เมื่อครู่ท่านพี่สะใภ้รองบอกว่าฮูหยินเหยากำลังจะขึ้นราแล้ว ข้าคิดว่าเป็นข้าที่ใกล้จะขึ้นราแล้วจริงๆ บางครั้งข้าอยากไปหาพวกท่านเพื่อพูดคุยเป็นอย่างมาก แต่เมื่อข้าไปหาพวกท่าน สายตาที่พวกท่านมองข้า ข้ารู้สึกเหมือนเป็นการมองลูกสุนัขที่บาดเจ็บตัวหนึ่ง แม้แต่พูดจาก็ต้องระมัดระวัง กลัวเพียงอย่างเดียวว่าหากพูดผิดไปประโยคหนึ่งจะทำให้ข้าเป็นทุกข์ใจ ข้าซาบซึ้งใจเป็นที่สุดที่พวกท่านดีต่อข้า แต่ว่า ทำเหมือนข้าเป็นคนปกติ บางที ทุกคนก็อาจจะไม่ได้กดดันขนาดนี้ก็ได้เพคะ”

คำพูดนี้ ทำให้ทุกคนน้ำตาเอ่อขึ้นมาแล้ว ทำให้คนเป็นทุกข์ใจมาก เมื่อคิดว่านางใช้ชีวิตด้วยความลังเลกระวนกระวายเช่นนี้ ทุกคนก็ล้วนอัดอั้นตันใจอย่างอธิบายไม่ออกจริงๆ

พระชายาอานพยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ โดยปกติแล้วนางรู้จักวางตัว งานเฉลิมฉลองวันนี้ ไม่สามารถหลั่งน้ำตาโดยง่ายดายได้ กล่าวสะอึกสะอื้น “โล่โล่ ขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้าสี่ จริงๆข้า......ข้าไม่สามารถแก้ตัวให้เขาได้ เพราะเขาทำร้ายจนพวกท่านสามีภรรยาเป็นอย่างวันนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน