บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1345

หลังจากว่าราชการเสร็จ เหลิ่งจิ้งเหยียนถูกฮ่องเต้หมิงหยวนเรียกไปที่ห้องทรงพระอักษร ร่วมประชุมกับพวกบัณฑิตเน่ย์เก๋อ

ในฐานะที่เป็นโสวฝู่ที่อายุน้อยที่สุดในรัชสมัยนี้ เขาไม่ได้แสดงท่าทีร่าเริงดีใจแต่อย่างไร ยังคงสุขุมเหมือนอย่างเช่นเคย ตอนที่ค่อยๆนั่งลงบนเก้าอี้ไท่ซือของโสวฝู่ในเน่ย์เก๋อ ริมฝีปากของเขาค่อยเผยยิ้มเล็กน้อย

ออกมาจากในวัง พระอาทิตย์ส่องแสงตลอดทาง กิ่งก้านและใบไม้ที่แผ่ออกมาจากกำแพงวังทั้งสองข้างค่อย ๆ ถอยออกไปพร้อมกับฝีเท้าของเขา ตลอดทางที่มีทหารรักษาพระองค์เดินลาดตระเวนผ่าน ต่างยกมือประสานทำความเคารพ พร้อมพูดว่า “โสวฝู่เหลิ่ง”

เขาเม้มริมฝีปาก อมยิ้ม ฝีเท้ายิ่งอยู่ยิ่งมั่นคง

เพิ่งเดินออกมาถึงหน้าประตูวัง เขาหยุดฝีเท้า ใบหน้ายกสูง แล้วก็เห็นร่างคนคนหนึ่งกระโดดลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับความโกรธเคือง แขนโอบรอบคอของเขาอย่างรวดเร็ว พาเขาไปข้างหน้า ความเยือกเย็นราวกับฆาตกรรมก็เผยขึ้นมาอย่างกะทันหัน เสียงดุร้ายดังแว่วเข้ามาในหูว่า “เลี้ยงฉลอง”

สายตาเขาเรียบเฉย นิ้วมือสัมผัสผ่านเสื้อประจำการอย่างร้อนผ่าว ดวงตาโตเงยขึ้น หางตาเย็นชาอย่างสุดจะพรรณนา พร้อมพูดขึ้นว่า “กรรโชกโสวฝู่ รู้ไหมว่าต้องโทษสถานใด?”

หยู่เหวินเห้าเปลี่ยนมือที่คล้องคอมาจับไหล่แล้วดันสองที พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังวางมาดโสวฝู่กับองค์ชายรัชทายาท ระดับไหนเชียว ข้าถามเจ้า จะเลี้ยงไหม? ถ้าไม่เลี้ยง พวกพี่น้องไม่ปล่อยเจ้าแน่”

เขายื่นมือชี้ แล้วก็เห็นทางด้านหวู่เหมินมีกลุ่มคนเดินเรียงรายมาหลายคน มีอ๋องฉีอ๋องซุนอ๋องหวยเดินนำ กู้ซือกับแม่ทัพหลู่หม่างพี่ซูหลงตามอยู่ข้างหลัง กำลังก้าวเท้ายาวเดินมาทางพวกเขา ลมพัดปลิวสะบัดชายผ้า ดูมีสง่าน่าเกรงขามอย่างไม่อาจบรรยาย เป็นทีมใหญ่อลังการ

เหลิ่งจิ้งเหยียนอมยิ้มที่มุมปาก ตาคิ้วเป็นประกายระยิบระยับ พร้อมพูดขึ้นว่า “ทั้งองค์ชายรัชทายาท ทั้งอ๋องฉิน ยังมากันเยอะขนาดนี้ จะรัดคอข่มขู่ทำไม ข้าไม่เลี้ยงได้หรือ”

หยู่เหวินเห้าผิวปาก หันไปตะโกนพูดกับกู้ซืออย่างดีใจว่า “กู้ซือ เจ้าไปตามเจ้าหงกับเจ้าลู่สองสามีภรรยามาเจอกันที่จวนอ๋องฉู่ ดื่มกันสักสามวันสามคืน”

กู้ซือพูดขึ้นอย่างคิดไม่ทันว่า “เจ้าลู่สองสามีภรรยา”

“ลู่หยวนกับเสี้ยวหงเฉิง” อ๋องฉีหัวเราะพร้อมพูดอธิบายว่า “พวกเขากลับมาจากค่ายทหารแล้ว”

“ยังไม่แต่งงานไม่ใช่หรือ?” กู้ซือบ่นพึมพำ

“ไป” หยู่เหวินเห้าโบกมือ คนทั้งกลุ่มควบขี่ม้าไปยังจวนอ๋องฉู่อย่างคึกคัก พี่ซูหลงก็ขี่ม้าไปอย่างนกพิราบส่งสาร ไปตามเรียกเพื่อน

วันนี้จวนอ๋องฉู่ไม่ครึกครื้น ถึงแม้จะไม่ได้จัดงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ แต่อาหารเลิศรสสุราอย่างดีต่างมีครบ ทังหยางจัดการเตรียมงาน สวีอีขนสุราอย่างดีออกมา ภายในห้องโถงคึกคักเริงร่า แม้แต่ท่านชายสี่ที่ไม่ชอบร่วมงานสนุกสนานยังมาด้วย

ลู่หยวนกับเสี้ยวหงเฉิงเข้ามาแล้วสักพัก หงเย่เพิ่งมาถึง เขากับฮุ่ยเทียนมาถึงหน้าประตูจวนพร้อมกัน แล้วก็เข้ามาด้วยกัน ฮุ่ยเทียนสวมชุดสีดำ แลดูโหดเหี้ยมอย่างสุดขั้ว ส่วนหงเย่ยังคงสวมชุดแดงเช่นเคย ในมือยังหอบสุราเฝินไว้หนึ่งไห จอนผมยาวมัดไว้ข้างหลัง ท่าทีสบายเป็นกันเอง เขามองเห็นเหลิ่งจิ้งเหยียนที่ถูกล้อมรอบอยู่ตรงกลางอย่างไกลๆ หน้าตาหล่อเหลา อ่อนโยนเหมือนดั่งหยก มุมปากอมยิ้มเล็กน้อย

เขากำลังคิดว่า เหลิ่งจิ้งเหยียนคนนี้ อยู่ดีๆก็ได้เป็นโสวฝู่ของเป่ยถัง น่าจะเป็นโสวฝู่ที่อายุน้อยที่สุดของเป่ยถังแล้วมั้ง? สุดยอดจริงๆ

“เจ้าหง เอาสุราดีอะไรมา?” หยู่เหวินเห้าตาดีเห็นหงเย่หอบไหสุราเข้ามา จึงร้องเรียกขึ้นมาอย่างดีใจในทันที เขาคิดอยู่ตลอดว่า นอกจากจวนอ๋องฉู่ของเขา ใครๆต่างก็มีของดีๆมาด้วย

“วันก่อนได้สุราเฝินมาหนึ่งไห เดิมคิดว่าจะหาโอกาสดื่มกับพวกเจ้า คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องยินดีแล้วจริงๆ” หงเย่เดินเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ ยื่นไหสุราให้กับกู้ซือ จากนั้นมองดูเหลิ่งจิ้งเหยียน พร้อมพูดชมอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกว่า “ขอแสดงความยินดีกับใต้เท้าเหลิ่งได้เลื่อนตำแหน่งเป็นโสวฝู่”

เหลิ่งจิ้งเหยียนเอนหลังพิงเก้าอี้ ดวงตากลมโต มองดูหงเย่ รอยยิ้มเบ่งบานบนริมฝีปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณเจ้าพระยา”

กู้ซือยื่นมือลากหงเย่มา พร้อมพูดขึ้นว่า “มานั่งลง มาสายต้องดื่มสามถ้วย”

พูดพร้อมกับกดเขานั่งลงบนเก้าอี้ หลู่หม่างโยนถ้วยมา หลังจากกู้ซือรับไว้แล้ว ก็วางบนโต๊ะ จับไหสุราขึ้นมาแล้วเทใส่ถ้วยให้หงเย่ พร้อมพูดขึ้นว่า “ดื่ม”

หงเย่ขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า “ใช้ถ้วยดื่มสุรา? ข้าใช้ถ้วยมรกตมาตลอด ใช้ถ้วยดื่มหยาบคายเกินไป เสียภาพพจน์หมด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน