ทังหยวนอดไม่ได้ที่จะบอกกับเขาว่า “พ่อ เรื่องเล่าไม่นิยมเขียนเช่นนี้กันนานแล้ว”
หยู่เหวินเห้าอึ้งพูดขึ้นว่า “ไม่นิยมเช่นนี้? งั้นนิยมแบบไหน?”
ทังหยวนให้เขานั่งลง พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ข้าจะบอกเจ้า นี่เป็นเรื่องเล่าแบบเก่านานมากแล้ว ตอนนี้ไม่เขียนแบบนี้แล้ว บัณฑิตคนนี้หลังจากมาสอบที่เมืองหลวง สอบติดจอหงวน เข้ารับตำแหน่งขุนนาง แต่เพราะฐานะยากจน ไม่มีใครสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ตกเป็นเป้าหมายถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกกีดกัน ถูกกลั่นแกล้ง ถูกหลอกใช้ ต่อมาเมื่อผู้หญิงคนนี้รู้ข่าว ก็ขายทรัพย์สมบัติเดินทางมาเมืองหลวง แน่นอนว่า ระหว่างทางมาเมืองหลวงได้ศึกษาเรียนรู้ความสามารถมาบ้าง อย่างเช่นฝีมือการต่อสู้ต่างๆ จากนั้นหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้มาถึงเมืองหลวง ก็ช่วยจอหงวนเจอเทพ ฆ่าเทพ เจอพระ ฆ่าพระ สุดท้ายกำจัดคนที่รังแกพวกเขาจนหมด ตอนจบใกล้จะแต่งงานกันแล้ว ตอนนี้ข้าจะรีบดูพวกเขาแต่งงานกัน อย่ากีดขวางข้า”
หยู่เหวินเห้าเม้มริมฝีปาก หันไปมองหยวนชิงหลิงอย่างทำอะไรไม่ถูก พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่....แค่ระหว่างทางมาเมืองหลวง คนอื่นยังสามารถฝึกวิชาการต่อสู้ได้ เจ้าฝึกฝีมือการต่อสู้กับท่านชายสี่มาตั้งนาน เรียนได้อะไรบ้าง?”
หยวนชิงหลิงทำท่าแทงคอของเขาด้วยมือ พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “พอรับมือกับเจ้าได้”
หยู่เหวินเห้าไอ๊หยาหนึ่งที ล้มลงบนเตียง ทับบนขาของหยู่เหวินเย่ มืออ้วนน้อยของหยู่เหวินเย่จับใบหน้าของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ เจ้าสู้แม่ไม่ไหวหรือ?”
“สู้ไม่ไหว ชั่วชีวิตนี้พ่อก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแม่” หยู่เหวินเห้าลุกขึ้นนั่ง อุ้มหยู่เหวินเย่ขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นว่า “แน่นอน พ่อต้องยอมให้กับนาง ตามความสามารถจริงๆแล้ว พ่อแค่ใช้ปลายนิ้วมือก็สามารถบี้นางให้แบนได้”
หยู่เหวินเย่ขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “พ่อ ความจริงแล้ว พวกเราก็ใช้แค่นิ้วมือก็สามารถบี้พ่อให้แบนได้”
หยู่เหวินเห้าวางเขาลง พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ครอบครัวเดียวกัน พูดเรื่องต่อสู้อะไรกัน? จำอักษรของเจ้าไป จำถึงอักษรตัวไหนบ้างแล้ว?”
ทุกครั้งที่พูดถึงความสามารถ ศักดิ์ศรีของเขาก็ถูกเหยียบย่ำทิ้งอยู่บนพื้น
หยู่เหวินเย่พูดขึ้นว่า “พี่ชายกำลังสอนชือ เม่ย หวั่ง หลาง(ปีศาจและสัตว์ประหลาด) ก็คือคำที่มีอักษรผีเยอะหลายคำนั่น พ่อรู้จักไหม?”
หยู่เหวินเห้าพูดขึ้นอย่างรังเกียจว่า “รู้ รู้ ชือ เม่ย หวั่ง หลาง ไม่รู้ได้ยังไง? จำคำศัพท์ต่อไป”
พวกลูกๆต่างก็มีสิ่งที่ต้องทำ เขาดูเป็นเหมือนส่วนเกิน อยู่สักพักแล้วก็รู้สึกน่าเบื่อ จึงดึงพาหยวนชิงหลิงออกไปแล้ว
ออกจากประตูมา เขาหันไปมองไม่เห็นลูกๆตามออกมา จึงแอบถามขึ้นว่า “ชือ เม่ย หวั่ง หลาง เขียนยังไงหรือ? ข้าจำไม่ได้แล้ว”
หยวนชิงหลิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่มั้ง? อนาคตเจ้าจะต้องเป็นฮ่องเต้นะ”
หยู่เหวินเห้าอธิบายทั้งหน้าแดงว่า “ข้ารู้จักคำศัพท์พวกนั้น แค่จำไม่ได้ว่าเขียนยังไง อีกอย่าง เป็นฮ่องเต้ก็ใช่ว่าจะต้องมีความรู้อะไรมากไม่ใช่หรือ? ฮ่องเต้ในรัชสมัยมากมาย อ่านหนังสือไม่ออกเยอะแยะ ก็ยังดำรงตำแหน่งได้เป็นอย่างดี ข้าอ่านออกเขียนได้ และก็เข้าใจ เหตุผลข้าล้วนต่างก็รู้ หลักการเป็นกษัตริย์ที่ดีข้าก็รู้ แค่ตอนเด็กไม่ชอบเรียนหนังสือ ฝึกแต่ฝีมือการต่อสู้”
หยวนชิงหลิงตบบ่าของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “รู้ เข้าใจ”
“ไม่ใช่ เจ้าจะบอกว่าข้าลืมชือ เม่ย หวั่ง หลาง เขียนยังไง แล้วเห็นว่าค่าไร้ความสามารถหรือ?”
“ไม่ได้บอกว่าเจ้าไร้ความสามารถ” หยวนชิงหลิงยิ้มพร้อมทั้งควงแขนของเขา พูดขึ้นว่า “สนใจเรื่องพวกนี้ทำไม? ความจริงแล้ว มีคำมากมายข้าก็ลืมแล้วว่าเขียนอย่างไรเหมือนกัน”
ความรู้ของเจ้าห้า ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ คนอื่นพูดว่าเขาเพียบพร้อมไปด้วยความรู้และความสามารถ ตัวเขาเองละอายแก่ใจ สำนวนในวงเหล้าก็พูดได้ไม่กี่ประโยค ถูกลงโทษให้ดื่มอยู่ตลอด บทกลอนยิ่งเลวร้าย แต่ที่จริงไม่ว่าความรู้จะเป็นยังไง ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเป็นฮ่องเต้ที่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...