ในเมืองหลวง กลับมาสงบสุขเหมือนอย่างที่ผ่านมา
จวนอ๋องฉู่ถึงแม้จะคึกคัก แต่ไม่มีหยู่เหวินเห้ากับสวีอีอยู่ในจวน หยวนชิงหลิงยังคงรู้สึกเหงา
อากาศเย็นลงมากแล้ว พวกเด็กๆอยากเรียนรู้เพิ่ม นางจึงสั่งทังหยางไปหาหนังสือมาให้พวกเขามากมาย
ทังหยางปรึกษากับหยวนชิงหลิงว่า ลองไปที่กั๋วจื่อเจียนไหม หาบัณฑิตคนหนึ่งมาสอนพวกเด็กๆ
หยวนชิงหลิงก็เห็นว่าเหมาะสม จึงให้ทังหยางไปหาเหลิ่งจิ้งเหยียน เรื่องนี้ขอให้เหลิ่งจิ้งเหยียนไปช่วยจัดการ
หลังจากเหลิ่งจิ้งเหยียนฟังแล้ว ก็หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “จะไปหาคนอื่นทำไม? ข้าไปเอง”
ชำนาญทั้งฝีมือการต่อสู้ทั้งมีความรู้ เป็นอาจารย์ของพวกเด็กๆเหมาะสมที่สุด
แต่หยวนชิงหลิงรู้ว่าตอนนี้เขามีงานยุ่งมาก กลัวจะเป็นการรบกวนงานราชการของเขา แต่เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดว่ามาตอนกลางคืนครั้งล่ะหนึ่งชั่วโมงก็เพียงพอ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หยวนชิงหลิงดีใจอย่างที่สุด เมื่อบอกพวกเด็กๆ พวกเด็กๆต่างก็ดีใจ
กลับคิดไม่ถึงว่า เมื่อฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินเช่นนี้ ก็สั่งคนตามหยวนชิงหลิงมาหา บอกว่าจะส่งเจ้าสิบไปยังจวนอ๋องฉู่ เรียนหนังสือพร้อมกับพวกเด็กๆ
ที่จริงหากเจ้าสิบจะเรียน ห้องหนังสือในวังก็เพียงพอแล้ว แต่วันนั้นฮ่องเต้หมิงหยวนได้ยินเปาจื่อพูดกับเจ้าสิบ คืดว่าเปาจื่อปราบเจ้าสิบได้ ให้เขาติดตามเปาจื่อ บางทีอาจจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง
บอกว่าปรึกษา แต่ที่จริงหยวนชิงหลิงก็ไม่สามารถปฏิเสธ จึงพูดขึ้นว่า “หากฮู่เฟยเห็นด้วย ข้าก็ไม่มีปัญหา”
นางอยากให้ฮู่เฟยคัดค้าน หากเจ้าสิบไปอยู่ที่จวนอ๋องฉู่ งั้นต่อไปความรับผิดชอบในการดูแลเจ้าสิบก็ตกอยู่ที่นางแล้ว เสด็จพ่อรักเขาขนาดนั้น ว่าก็ไม่ได้ ด่าก็ไม่ได้ ยากยิ่งนัก
อีกอย่าง พวกเขาเรียนด้วยกัน หากพวกเด็กๆเรียนได้ดีกว่าเจ้าสิบ เสด็จพ่อจะคิดว่านางอบรมสั่งสอนได้ไม่ดี
แต่ฮู่เฟยเห็นด้วย ฮู่เฟยยังเชิญหยวนชิงหลิงไปหา พร้อมพูดฝากฝัง
ฮู่เฟยพูดทั้งน้ำตาว่า “ข้าไม่คาดหวังให้เขาเรียนรู้ได้อะไรมากมาย ขอแค่นางสามารถปรับเปลี่ยนนิสัยได้ก็พอ เขายังเล็ก อยู่กับพระราชนัดดาองค์ใหญ่ สามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง ข้าก็มีความสุขแล้ว”
หยวนชิงหลิงได้ฟังนางพูดเช่นนี้ จึงจำต้องตอบรับ และพูดปลอบว่าให้นางดูแลสุขภาพให้ดี นางจะดูแลเจ้าสิบให้ดีที่สุด
ฮู่เฟยยังอยู่ไฟ รักษาตัวมานานขนาดนี้แล้ว ร่างกายก็ยังไม่เห็นดีขึ้น สภาพจิตใจยังคงรู้สึกเศร้าและหดหู่ อย่างที่หมอหลวงพูดก็คือ กลไกการเปลี่ยนแปลงของโรคที่เกิดจากชี่ไหลเวียนไม่คล่องทำให้เลือดไหลเวียนติดขัด กลายเป็นมีทั้งชี่ติดขัดและมีเลือดคั่ง ต้องค่อยๆรักษา
มองดูฮู่เฟยที่เดิมงดงามกลายเป็นเช่นนี้ ในใจหยวนชิงหลิงก็รู้สึกเจ็บปวด ให้นางคิดปล่อยวางบ้าง ยังไงอายุก็ยังน้อย อยากมีลูก โอกาสยังมีอีกเยอะ
ฮู่เฟยเพียงรับฟังอย่างถ่อมตน แต่คนทั้งคนอ่อนล้าไปหมด ไม่มีชีวิตชีวา
หยวนชิงหลิงรู้ว่าต้องอาศัยการผ่านพ้นไปได้ด้วยตนเอง เรื่องบางอย่าง ใครก็ช่วยไม่ได้
เจ้าสิบได้ยินไปจวนอ๋องฉู่ ก็รีบให้แม่นมเก็บของ ตามหยวนชิงหลิงออกจากวังไป
อยู่บนรถม้า เจ้าสิบเงียบสงบมาก ไม่กล้าพูดคุยกับหยวนชิงหลิง แอบเหลือบมองดูหยวนชิงหลิง ริมฝีปากขยับอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่พูดอะไร
หยวนชิงหลิงเห็นเขาเช่นนี้ ถึงถามขึ้นว่า “เจ้าอยากพูดอะไรกับข้าหรือ?”
เจ้าสิบเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงๆพร้อมพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ห้า พวกเขาต่างพูดว่าข้าทำให้ลูกในท้องของแม่ตาย เป็นความจริงหรือ?”
“ใครพูด?” หยวนชิงหลิงถามขึ้นอย่างตกใจ
เจ้าสิบบีบนิ้วมือ พร้อมพูดขึ้นว่า “คนในวังต่างก็พูดเช่นนี้ ข้าแอบฟังแม่นมก็พูดเช่นนี้ พี่สะใภ้ห้า ตายคืออะไร? ตายแล้วก็กลับมาไม่ได้อีกแล้วหรือ?”
หยวนชิงหลิงถอนหายใจเบาๆ ลูบหัวของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “คนเราทุกคน มักมีข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในชีวิต ทำผิดตอนเด็กๆ ไม่เป็นไร รู้ว่าตนเองทำผิด แก้ไข ต่อไปไม่ทำอีกก็พอแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...