หยวนชิงหลิงวางเครื่องฟังลง พร้อมพูดขึ้นว่า “พี่รอง เจ้าบอกมาเถอะ ทานอาหารไม่ลงหรือ?”
“ทานอาหารอร่อยดี กินได้ทุกอย่าง” อ๋องซุนจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “สิ่งของนี้ของเจ้า ฟังได้ความว่าเป็นโรคอะไรไหม?”
หยวนชิงหลิงส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ฟังไม่รู้ เจ้าต้องบอกว่าไม่สบายตรงไหน”
อ๋องซุนแลดูผิดหวังมาก ส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “งั้นช่างเถอะ ไม่ตรวจแล้ว ป่วยตายไปเสียอย่างนี้แหละ”
พูดเสร็จ ลุกขึ้นมาแล้วก็จะจากไป
หยวนชิงหลิงเรียกเขาพร้อมถามขึ้นว่า “พี่รอง เจ้าไม่สบายตรงไหนกันแน่? มีอะไรที่พูดไม่ได้หรือ?”
“ไม่พูด ไม่พูด เจ้ายังตรวจชีพจรวินิจฉัยไม่ได้ จะให้พูดอย่างไร?” พูดเสร็จ แล้วก็เดินออกไปอย่างหงุดหงิด
มาอย่างน่าสงสัย ไปอย่างยิ่งน่าสงสัย หยวนชิงหลิงมองดูเขาก้าวเท้ายาวๆเดินออกไป ทังหยางที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยินทั้งสองคนคุยกัน รู้สึกมึนงงยิ่งนึก พร้อมพูดขึ้นว่า “ดูท่าทีท่านอ๋อง ก็ไม่เหมือนคนป่วยหนักนะ”
“ไม่รู้เขาเป็นอะไร พรุ่งนี้ข้าค่อยไปถามพระชายาซุน” หยวนชิงหลิงก็งุนงง
“แต่เมื่อกี้ตอนที่ท่านอ๋องมา ก็ถามว่าพระชายาซุนอยู่ไหม ข้าสงสัยว่าพระชายาซุนก็ไม่น่าจะรู้” ทังหยางพูดขึ้น
หยวนชิงหลิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่างน่าแปลกยิ่งนัก ถามว่าเขาไม่สบายตรงไหน เขาก็ไม่ยอมพูด สั่งให้ข้าตรวจจับชีพจร เห็นข้าเป็นหมอเทวดาจริงๆหรือ ไม่สบายตรงไหน พูดไม่ได้หรือ?”
ทังหยางนิ่งอึ้งไปสักพัก พร้อมพูดขึ้นว่า “นี่....หรือว่าจะไม่สบายตรงส่วนที่ลับ?”
หยวนชิงหลิงอืมหนึ่งคำ แล้วหวนคิดถึงท่าทีเมื่อกี้ของอ๋องซุน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เช่นนี้จริง
แต่ถ้าตรงนั้นไม่สบาย พระชายาซุนน่าจะรู้
เช้าวันรุ่งขึ้น นางมองดูเวลา คิดว่าอ๋องซุนน่าจะไปทำงานแล้ว จึงสั่งคนไปเชิญพระชายาซุนมา
หยวนชิงหลิงพานางมาที่ห้องด้านข้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “เมื่อวานตอนพลบค่ำ พี่รองมาหาข้า มาให้ตรวจ บอกว่าไม่สบาย เจ้ารู้ไหมว่าเขาไม่สบายตรงไหน?”
พระชายาซุนนิ่งอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “เขาไม่สบายหรือ? ไม่เห็นเขาว่าไงนี่ เขาเป็นอะไร?”
“ข้าก็ไม่รู้ เขาเพียงแค่ให้ข้าตรวจจับชีพจร ถามเขาว่าไม่สบายตรงไหน เขาก็ไม่ยอมพูด ข้าคิดว่าเจ้ารู้ จึงตามเจ้ามาถาม”
พระชายาซุนคิดไปคิดมา แล้วก็ส่ายหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เห็นเขาพูดว่าไม่สบายตรงไหนนี่ เมื่อวานตอนที่กลับไปกินข้าวค่ำ เขายังทานข้าวไปห้าถ้วย เนื้อสองหม้อ ยังดื่มน้ำแกงอีกสามถ้วน ทานอาหารก็ทานได้ปกติ”
หยวนชิงหลิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นว่า “ทานเยอะขนาดนี้เลยหรือ? ปกติเขาก็ทานเยอะขนาดนี้หรือ?”
พระชายาซุนพูดขึ้นอย่างหงุดหงิดว่า “ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ว่าเขากินเยอะ นี่เป็นปริมาณปกติ หากเวลาหิว ต้องทานเจ็ดถ้วย”
“ถ้วยบ้านของเจ้า ใหญ่ขนาดไหน?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น
“ใหญ่กว่าของที่จวนของเจ้านิดหน่อย ใหญ่ประมาณนี้....” นางประมาณให้ดู มีประมาณเจ็ดแปดนิ้ว
หยวนชิงหลิงอ้าปากค้าง พร้อมพูดขึ้นว่า “ถ้วยใหญ่ขนาดนี้ กินห้าถ้วยเลยหรือ? ไม่จุกแย่หรือ?”
“จุกแย่อะไร? ไม่กินขนาดนี้ ก็จะร้องหิวทั้งคืน หลังจากงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง บอกว่าเจ้าห้าสวมชุดราชการแล้วหล่อ อิจฉาอย่างมาก จึงคิดอยากที่จะลดความอ้วน ลดอยู่สองวัน ลดข้าวลงมาสองถ้วย ตอนกลางคืนร้องหิวทั้งคืน น่าสงสารมาก วันที่สามก็ล้มเลิกล่ะ บอกว่าจะต้องกินให้อิ่ม”
หยวนชิงหลิงยอมจริงๆ คนที่อ้วนไม่มีใครน่าสงสารจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...