ด้านหลังจดหมาย แนบเพิ่มไม่กี่คำ ให้อ๋องฉีไปสืบ และสืบสวนคดีซางต้าเถียนอีกครั้ง
เจ้าห้ายังสั่งคนส่งจดหมายมาให้หยวนชิงหลิงหนึ่งฉบับ ไม่ใช่ส่งผ่านนกพิราบ ตรงขานกพิราบมัดกระดาษไว้เพียงหนึ่งฉบับ เขาเขียนจดหมายขึ้นมาอีกหนึ่งฉบับ สั่งคนขี่มาเร็วเอามาให้ภรรยา
คืนวันนั้น หยวนชิงหลิงก็ได้รับจดหมายของเจ้าห้าแล้ว เขาบอกว่าดื่มเหล้ากับพี่ซูหลง และมีการเรียกผู้หญิงหน่วยงานเลี้ยงรับรองมาจริงๆ แต่ผู้หญิงพวกนั้นเพียงแค่อุ่นเหล้าอยู่ด้านข้าง แม้แต่เพลงเขาก็ไม่ฟัง อย่าว่าแต่มารับใช้ใกล้ชิด
ส่วนจุ้ยเยว่คนนั้น พยายามเข้าใกล้เขา พยายามใกล้ชิดเขา ถูกเขาก่นด่าให้ออกไป หากไม่เชื่อก็ให้ไปถามหลู่หม่างกับพี่ซูหลง
ทางด้านอ๋องฉีเคยไปถามพี่ซูหลงแต่แรกแล้ว เป็นเหมือนอย่างที่หยู่เหวินเห้าเล่า และคืนนั้นหลังจากหยู่เหวินเห้าดื่มเหล้าไปพอสมควร ก็โกรธโมโหขึ้นมา ก่นด่าจุ้ยเยว่คนนั้น เพราะเขาบอกแล้วว่าไม่ต้องมารับใช้ใกล้ชิด แต่จุ้ยเยว่กลับพยายามเข้าหาหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งยังตั้งใจเอาเหล้าหกใส่หน้าอกของเขา เพื่ออยากที่จะใกล้ชิดหยู่เหวินเห้า ถูกหยู่เหวินเห้าผลักล้มลงพื้น ดังนั้น งานเลี้ยงในคืนนั้น แยกย้ายกันอย่างไม่มีความสุข
หลังจากหยวนชิงหลิงได้รู้ความจริงแล้ว ก็สั่งให้ทังหยางไปสืบเรื่องของซางต้าเถียนที่เมืองหงโจว ดูว่าประชาชนเห็นว่าเขาเป็นอย่างไร แล้วก็ถามขุนนางเล็กใหญ่เมืองใกล้เคียงเมืองหงโจว ถามถึงผลงานในระหว่างที่ซางต้าเถียนดำรงตำแหน่ง แล้วเอามาเทียบกับกรมข้าราชการพลเรือน เพราะก่อนหน้านี้กรมข้าราชการพลเรือนมีการประเมินขุนนางทุกปี หลังจากสั่งการเสร็จแล้ว ก็เรียกจุ้ยเยว่คนนั้นมาที่จวนอ๋องฉู่ เพื่อถามความนาง
จุ้ยเยว่แต่งตัวอย่างสวยที่สุด มาถึงจวนอ๋องฉู่ มองเห็นหยวนชิงหลิง
วินาทีที่มองเห็นหยวนชิงหลิง สีหน้านางตกตะลึง เดิมคิดว่าผู้หญิงที่คลอดลูกแล้วห้าคน ยังกำลังตั้งครรภ์ ยังไงสีหน้าก็ต้องเหี่ยวเฉา ใบหน้าบวมแลดูแก่ แต่พระชายารัชทายาทไม่แต่งหน้า สวมเสื้อผ้าสีพื้น เกล้าหมัดผมไว้อย่างง่ายๆ ปักปิ่นหยกลายเมฆหนึ่งอัน กลับงดงามอย่างไม่อาจละสายตา
ความงดงามแบบนี้ ไม่ใช่งามจากภายนอก แต่เป็นความงามมาจากข้างใน ผิวขาวอมชมพู พุงป่องแต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูอ้วน กลับดูสวยงดงามอย่างมีเสน่ห์ ปากแดงโดยที่ไม่ต้องเติมแต่ง คิ้วสง่าโดยไม่ต้องเติมแต่ง ท่าทีไม่ได้ดูสูงส่งเหมือนอย่างหญิงผู้ดีแบบนั้น แต่กลับสง่างามมีความมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
นางกลืนความขมขื่นลงไป ยังคงไม่ทำความเคารพ เพียงยืนอยู่ตรงหน้าหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงมองดูนาง พิจารณาดู ถือว่าเป็นผู้หญิงที่งดงามหยิ่งยโสคนหนึ่ง แต่เม้มริมฝีปาก แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ
หยวนชิงหลิงต้องการที่จะสืบหาความจริง จึงไม่ได้กดดันนาง พูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “แม่นางชิวเตี๋ย เชิญนั่ง”
คำว่าแม่นางชิวเตี๋ย ทำให้สีหน้าจุ้ยเยว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย นางมองดูหยวนชิงหลิงอย่างไม่พูดไม่จา แต่หลังจากสักพัก ยังคงเดินมานั่งลง ยกแขนเสื้อขึ้นมา มือประสานไว้ตรงหน้า ท่าทางเหมือนยังเป็นลูกสาวเจ้าเมืองคนเดิมคนนั้น
สีหน้าก็กลับมาเยือกเย็น และยังคงพูดจาที่แฝงไปด้วยความเสียดสีว่า “ขอบพระทัยพระชายารัชทายาทที่ให้นั่ง”
“อืม” หยวนชิงหลิงสั่งคนมารินน้ำชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...