บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1359

ที่จริงทางด้านตระกูลหยวนหาหมอทำคลอดไว้ให้นางแต่แรกแล้ว ก็เข้ามาอยู่ด้วยแล้วหลายวัน แต่น่ารำคาญที่หมอทำคลอด ห้ามนางทำโน่นทำนี่ จึงให้หมอทำคลอดออกไป รอก่อนใกล้คลอดไม่กี่วันค่อยตามมา ตระกูลหยวนคิดว่ามีพระชายารัชทายาทอยู่ด้วย น่าจะไม่เป็นไร

กลับคิดไม่ถึงว่า บอกว่าจะคลอดก็คลอดเลย

หลังจากส่งคนไปบอก หมอทำคลอดก็รีบมาทันที คนตระกูลหยวนกับหยวนหย่งอี้ก็มา ท่านย่ายังไม่มา เก็บของก่อนแล้วจะตามมา

หมอทำคลอดบอกว่าพระชายารัชทายาทกำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรที่จะเข้าไปเห็นเลือดในห้องคลอด ดังนั้นนางจึงไม่ต้องเข้าไปจะดีกว่า ยังไงครรภ์ของอะซี่ก็ปกติดี นางตรวจดูแล้ว ตำแหน่งครรภ์ปกติ อะซี่ยังเป็นคนฝึกฝีมือการต่อสู้ มีส่วนช่วยให้การคลอดง่ายขึ้น

แล้วแบบนี้ สวีอีกับหยวนชิงหลิงก็ถูกกีดกันให้อยู่ข้างนอก

เดิมสวีอีเข้าเวรอยู่ที่ทำการปกครอง หกเกอเอ๋อมาบอกว่าอะซี่จะคลอดแล้ว เขาวิ่งกลับจวนมากจนขาทั้งคู่แทบหัก แล้วค่อยคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมตนเองไม่ขี่ม้ากลับมา

แต่ก็ไม่ทันได้สนใจมากมายขนาดนั้นแล้ว ตลอดทางที่วิ่งกลับมาถึงหน้าประตูจวนของตนเอง กลับถูกกีดกันให้อยู่ด้านนอก ไม่ทันได้เห็นหน้าอะซี่สักครั้ง เขาเดินไปมาอย่างร้อนใจ พูดบ่นว่าตอนนี้ยังไม่คลอด เขาสามารถเข้าไปได้

สวีอีรักอะซี่มาก ทุกคนต่างก็รู้ ฮูหยินหยวนแม่ของอะซี่ออกมาพูดกับลูกเขยว่า “เจ้าอย่าร้อนใจ รออยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวลูกก็คลอดออกมาแล้ว สุขภาพร่างกายอะซี่แข็งแรงดี”

ฮูหยินหยวนไม่ได้พูดไปเอง ผู้หญิงตระกูลหยวนไม่เคยต้องเครียดกับการคลอดลูก ครั้งที่หยวนหย่งอี้คลอดก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว ตามความเคยชินของตระกูลหยวน การหายใจเข้าหายใจออกปกติ ใช้แรงดันลงไป ลูกก็คลอดออกมาแล้ว

“ท่านแม่ยาย ข้าเข้าไปดูแปบเดียว แปบเดียวเอง” สวีอีพูดขอร้องอย่างน่าสงสาร

หยวนชิงหลิงก็ช่วยพูดว่า “ให้เขาดูแปบหนึ่งเถอะ หากไม่ได้ดูเขาจะไม่วางใจ อะซี่ก็ต้องการให้เขาอยู่ด้วย”

ฮูหยินหยวนเห็นว่าพระชายารัชทายาทพูดถึงขนาดนี้แล้ว และก็เห็นลูกเขยร้อนใจจนเหงื่อแตก จึงพูดขึ้นว่า “ได้ เจ้าเข้าไปสิ แต่อย่าอยู่นาน...คนล่ะ?”

สวีอีผลักประตูเข้าไปแล้ว ประตูเปิดออกแล้วก็วิ่งเข้าไปทันที

อะซี่เริ่มปวดท้องแล้ว ปวดจนนางรู้สึกค่อนข้างทนไม่ไหว กัดฟันไว้แน่นไม่พูดไม่จา เพราะหมอทำคลอดบอกว่าหากส่งเสียงร้องออกมาจะทำให้เปลืองแรง ให้นางอดทนไว้ และก็กำลังอดทนไว้อย่างทรมาน เห็นสวีอีพุ่งเข้ามา คิดถึงว่าทำไมตนเองจะต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้ จึงตบลงไปอย่างแรงหนึ่งทีพร้อมพูดขึ้นว่า “ไสหัวไป”

หยวนหย่งอี้เห็นแล้ว กลัวอะซี่ใช้แรงตีสวีอีจนหมด จึงรีบไปผลักสวีอีออกไป พร้อมพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ อย่ามาเกะกะ รีบไป”

สวีอีโดนตบหนึ่งที ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกหยวนหย่งอี้ผลักออกไป แต่ในใจเขาค่อยสบายใจขึ้น ทุกตบหนึ่งทีนี้ ดีกว่าคำพูดใดๆทั้งปวง แต่เขาก็ยังหันกลับไปพูดขึ้นว่า “อะซี่ ข้าอยู่ข้างนอก ข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

หยวนชิงหลิงที่อยู่ข้างนอกเห็นสวีอีถูกไล่ออกมา บนใบหน้าก็มีรอยนิ้วประทับ จึงหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “สบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?”

“สบายขึ้นแล้ว” สวีอีเอามือลูบหน้า แล้วก็จ้องมองประตูที่ถูกปิดสนิท พร้อมพูดขึ้นว่า “แต่ถ้าถูกตบอีกสักหนึ่งที จะยิ่งสบายใจกว่านี้”

หยวนชิงหลิงหัวเราะขึ้นมา มองดูใบหน้าซื่อๆของสวีอี ในใจพึมพำว่า สวีอีเป็นพ่อคนแล้ว

“พระชายารัชทายาท คลอดลูกเจ็บขนาดไหน?” หลังจากสวีอีเดินไปมาแล้วหลายรอบ ก็มาหยุดถามหยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงครุ่นคิด พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ็บปวดขนาดไหน? เคยมีคนทำวิจัย บอกว่าระดับความเจ็บปวดในการคลอดลูก เทียบเท่ากับกระดูกซี่โครงหักพร้อมกันทั้งหมด”

สวีอีกัดฟันแน่น สีหน้าขาวซีด พร้อมพูดขึ้นว่า “อะไรน่ะ? เจ็บขนาดนี้เลยหรือ?”

“อืม กระดูกซี่โครงเจ้าเคยหักไหม?” หยวนชิงหลิงถามเขา

“เคยหัก เจ็บปวดจนเกือบตาย” สวีอีจับราวบันไดไว้ ขาทั้งคู่เริ่มสั่นเทา พร้อมพูดขึ้นว่า “อะซี่จะเป็นอะไรไหม? น่าจะทนความเจ็บปวดเช่นนี้ได้ไหม? พระเจ้า ทำไมจะต้องให้ผู้หญิงคลอดลูก? เรื่องถึงขั้นกระดูกซี่โครงหัก ผู้ชายเป็นคนทำไม่ดีกว่าหรือ”

หยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนี้ ใจรู้สึกซาบซึ้ง สวีอีคนนี้ ปกติพูดจาน่าฟังไม่เป็น แต่ประโยคนี้ฟังแล้วค่อนข้างซื่อบื้อ แต่ก็ดีกว่าคำหวานซึ้งมากมายในโลก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน