บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1381

หยางหรูไห่กล่าว “ฉันทำได้ค่ะ แต่ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร หาร่างกายสักร่างหนึ่งมาปลูกถ่ายก้านสมองให้เธอใช่ไหม? นี่มันเป็นไปไม่ได้ ฟางหวู คุณลองคิดดูนะคะ ทำไมจิตของดอกเตอร์หยวนสามารถควบคุมหยวนชิงหลิงที่ต่างมิติเวลาได้ แต่ควบคุมคนอื่นไม่ได้? ยุคสมัยนั้นมีคนตายทุกวันเยอะแยะ ทำไมเธอถึงควบคุมคนเหล่านั้นไม่ได้ แต่กลับควบคุมหยวนชิงหลิงในยุคเป่ยถังได้?”

“เพราะอะไรครับ?” หยวนชิงโจวถามเสียงแหบ

หยางหรูไห่ฟังออกถึงความทุกข์และความร้อนรนจากน้ำเสียงเขา จึงเสียงอ่อนโยนมากขึ้นนิดหน่อย “เพราะจิตของคนมักเคลื่อนไหวอยู่ในสนามแม่เหล็กที่จำเพาะไงคะ การยิงและการรับของคลื่นสมองก็เหมือนกัน เธอต้องหาคนที่ใช้สนามแม่เหล็กเดียวกันถึงจะได้ แน่นอน โลกนี้ต้องมีคนอื่นที่เข้ากับเธอได้อยู่แล้ว แต่เราไม่มีเวลาที่จะค้นหาสืบเสาะมากขนาดนั้น ฉันพูดแบบนี้ไม่ทราบว่าพวกคุณจะเข้าใจหรือเปล่าคะ ฉันจะพูดแบบธรรมดาอีกหน่อย การยืมร่างคืนวิญญาณที่ชาวบ้านพูดต่อกันมาก็ต้องหาร่างที่เข้ากันได้เหมือนกัน เพราะถ้าเข้ากันไม่ได้ งั้นถึงจิตยังอยู่ แต่ร่างกายจะค่อยๆ เน่าเปื่อยไปช้าๆ หลักการเดียวกันค่ะ”

สิ้นเสียงเธอก็เสริมอีกประโยค “พวกคุณต้องพึงระลึกไว้นะคะ ว่ามีเวลาแค่สามวันเท่านั้น ทางที่ดีพวกคุณรีบหารือกัน อันที่จริงก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอต้องกลับมา เมื่อกี้ความเป็นไปได้ที่หนึ่ง สองและสามที่ฉันพูดไปอันตรายหมด แต่ถ้าเกิดความเป็นไปได้อย่างแรก ฉันรู้จักอยู่คนสองคน บางทีอาจช่วยเธอได้ ดึงตัวเองออกมาจากอุโมงค์เวลาในเวลาวันสองวัน หรืออาจสองถึงสามวัน”

“ใครคะ?” ฟางหวูถามขึ้นทันที อันที่จริงคนที่หยางหรูไห่รู้จัก เธออาจไม่รู้จัก

แต่พอหยางหรูไห่พูดออกมา เธอก็ผงะ

หยางหรูไห่กล่าว “เขาชื่อโล่เฉิน พ่อของพระชายาเฟิงอันโล่หมันที่คุณรู้จักนั่นแหละค่ะ เขาเดินทางข้ามมิติมาหลายปี แล้วเขาก็เคยผ่านประสบการณ์การหมุนของมิติกับการบิดเบี้ยวของมิติด้วย แต่เขาก็รอดปลอดภัยออกมาได้หลายครั้ง”

หยวนชิงโจวไม่รู้จักโล่เฉิน แต่ก็วิเคราะห์ทันที กล่าว “หรือก็หมายถึงมีความหวังห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ใช่ไหมครับ?”

หยางหรูไห่กล่าว “จะว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้ค่ะ เพราะโอกาสที่จะเกิดความเป็นไปได้อย่างแรกกับอย่างที่สี่มีน้อย ความเป็นไปได้ที่มากที่สุดคืออย่างที่สองกับสาม ถ้าให้ฉันวิเคราะห์นะคะ อัตราส่วนที่เธอจะกลับมาได้สำเร็จมีประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์ หรืออาจต่ำกว่านั้น แต่ถ้าไม่ลอง เธอก็ไม่มีโอกาสอยู่ต่อ พวกคุณหารือกันหน่อย ให้คำตอบฉันให้เร็วที่สุด ฉันจะลองไปหาโล่เฉินดู พวกคุณจะปล่อยช้าไม่ได้อีก ความเจ็บปวดเสียใจไม่ช่วยอะไร ต้องตัดสินใจให้เร็ว ใช้เวลาทุกวินาที”

เมื่อหยางหรูไห่กล่าวจบก็วางสายโทรศัพท์

ฟางหวูวางโทรศัพท์มือถือลง มองหยวนชิงโจว สมองว้าวุ่นสับสน เวลานี้ยังไม่ได้จัดความคิดให้ชัดเจน แต่ท่าทีเธอเหมือนกับหยางหรูไห่ คิดว่าตอนนี้ต้องตัดสินใจให้เร็วที่สุดจริงๆ

หยวนชิงโจวมองทางพ่อแม่ ถาม “พ่อ แม่ คิดยังไงครับ?”

แม่หยวนชิงหลินไม่สามารถใช้ความคิด ตอนนี้จึงมีแต่ศาสตราจารย์หยวนที่ตัดสินใจได้ แต่ศาสตราจารย์หยวนก็มีอารมณ์เหมือนปุถุชนธรรมดาเหมือนกัน ได้แต่กล่าวว่า “พวกเราเอาตาความเห็นของผู้เฉพาะทาง ในเมื่อคุณหมอหยางบอกว่าแบบนี้มีความหวัง งั้นเราก็ทำแบบนี้แล้วกัน”

หยวนชิงโจวพยักหน้าน้อยๆ อุ้มซาลาเปามา กล่าว “เปาเปา เมื่อกี้ที่คุณหมอหยางพูดมา ฟังเข้าใจแล้วหรือยัง จำได้ไหม?”

ซาลาเปาพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว จำได้แล้วด้วย”

“ดี งั้นกลับไปก็บอกแม่ทันทีนะ ให้แม่ปรึกษากับพ่อ เรื่องนี้ต้องเร็ว อย่างชักช้า ให้เธอตัดสินใจให้ไว” หยวนชิงโจวหอมหน้าผากเขา แล้วกอดเขาเข้าอกอีก น้ำตาแห่งความเศร้ายังอดไม่ได้ที่จะกลิ้งลง นี่ลูกตั้งกี่คน!

อันที่จริงพอซาลาเปาได้ยินคำพูดของหมอหยางแล้วกลับสงบ ดวงของท่านแม่ไม่เลว ขอเพียงมีความหวัง เช่นนั้นท่านแม่ต้องกลับร้ายเป็นดีได้แน่

พวกเขาจะพยายามช่วยท่านแม่สุดความสามารถ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน