บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1427

มาถึงภายในคฤหาสน์ ยังคงเป็นห้องโถงนั้น ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นว่า “ไม่ว่ายังไงงานแต่งจะต้องจัดอย่างใหญ่โต จัดอย่างประหยัดไม่ได้ หลังจากจัดงานเลี้ยงแล้ว หากไม่มีคนมาเยอะขนาดนั้น ก็หาพวกคนจนมาร่วมกันกิน ร่วมฉลองกับประชาชนไง”

ศาสตราจารย์หยวนหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่จำเป็นต้องขนาดนั้น หากไม่ใช่เพื่อนญาติพี่น้อง ไม่ได้รับบัตรเชิญ ใครจะมากิน?”

ไท่ซ่างหวงเชื่อว่ายังไงก็ต้องมี ตอนที่เขายังหนุ่มก็เคยทำแล้วหลายครั้ง

นายท่านสามพูดกับศาสตราจารย์หยวนว่า “คุณไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องแขก หากจะจัดงานเลี้ยงสักครั้ง ทั้งสองครอบครัวจัดด้วยกัน ก็จะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ ตอนนี้กำหนดวันแต่งงานแล้วหรือยัง? หากกำหนดแล้ว พวกเราก็สามารถจองโรงแรมได้แล้ว ผมตั้งใจจะเหมาทั้งลี่จิง”

โสวฝู่ถามขึ้นว่า “ทั้งลี่จิงมีกี่โต๊ะ?”

“โซนอาหารจีนของลี่จิงมีสามชั้น ชั้นหนึ่งจัดแปดสิบโต๊ะไม่ใช่ปัญหา ทั้งหมดรวมกันก็น่าจะประมาณสองร้อยกว่าโต๊ะ” นายท่านสามพูดขึ้น

โสวฝู่ถามขึ้นอย่างตกใจว่า “สองร้อยกว่าโต๊ะ? จะมีคนมาเยอะขนาดนี้หรือ?”

ทำไมตอนนี้นายท่านสามองอาจขนาดนี้เลยหรือ? โสวฝู่ไม่เคยชินเลย

“คนไม่ใช่ปัญหา หลายปีมานี้ ผมมีเพื่อนในแวดวงธุรกิจและการเมืองมากมาย ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศก็มี แค่ผมเรียกสักคำ ก็จะมีคนมาร่วมงานมากมาย ส่วนเงินที่ต้องใช้ในงานแต่งงาน พวกคุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงผมเป็นคนออกเอง” นายท่านสามพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ

ศาสตราจารย์หยวนนิ่งอึ้งมองดูนายท่านสาม พร้อมพูดขึ้นว่า “ทำเช่นนี้ไม่ได้ จะให้ท่านเป็นคนออกเงินได้อย่างไร?”

“ทำไมผมจะเป็นคนออกเงินไม่ได้? ผมเป็นผู้ใหญ่ทางฝ่ายชาย ผมเป็นคนออกเงินถือเป็นเรื่องสมควรอย่างที่สุด” นายท่านสามพูดขึ้น

ทั้งสามคนต่างมองหน้ากัน ทำไมนายท่านสามถึงกลายเป็นผู้ใหญ่ของเจ้าห้า? พวกเขาใช้สายตาบ่งบอกถึงการถาม หันไปมองดูไท่ซ่างหวง ไท่ซ่างหวงอึดอัดไม่รู้จะตอบยังไง สักพักแล้วค่อยพูดขึ้นว่า “นายท่านสามเป็นพ่อบุญธรรมของข้าเอง ดังนั้นเขาถือว่าเป็นปู่ทวดของเจ้าห้า”

หยวนชิงโจวตกตะลึงจนตาค้าง พูดผิดหรือเปล่า? นายท่านสามรับไท่ซ่างหวงเป็นพ่อบุญธรรมหรือเปล่า?

ไท่ซ่างหวงเห็นทั้งสามคนต่างแลดูไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่อยากที่จะอธิบายไปมากกว่านี้ รู้สึกไม่รู้จะทำหน้ายังไงจึงพูดขึ้นว่า “ไม่ว่ายังไงก็ตกลงตามนี้แหล่ะ นายท่านสามกับนายท่านใหญ่ ล้วนเป็นผู้อาวุโสของเจ้าห้า พวกเขาเป็นคนออกเงิน ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ส่วนเพื่อนของพวกเขามาร่วมงานเลี้ยง ก็ถือเป็นเพื่อนญาติพี่น้องของฝ่ายชาย สมเหตุสมผล”

ศาสตราจารย์หยวนกลับรู้สึกว่าไม่เหมาะสม เขาพูดขึ้นว่า “ผมขอโทรถามเสี่ยวหลิงจื่อก่อน....อ้อ ตอนนี้กำลังเธอยุ่งอยู่ ไม่รับสายโทรศัพท์ ตอนกลางคืนค่อยพูดกับเธออีกที”

ไท่ซ่างหวงรีบเอาโทรศัพท์ออกมา โทรหาหมายเลขของหยวนชิงหลิงภายใต้ความช่วยเหลือของโสวฝู่ เมื่อท้อออกไปแล้ว

หยวนชิงหลิงเพิ่งออกมาจากห้องแล็บ มือถือที่วางไว้ในกระเป๋าก็ดังขึ้น นางถอดถุงมือออก เปิดกระเป๋าหยิบมือถือออกมาพร้อมพูดขึ้นว่า “นายท่าน มีเรื่องอะไร?”

“เรื่องงานแต่งงานนั้น นายท่านสามบอกว่าจะจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เชิญเพื่อนญาติพี่น้องของเขามา เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” หลังจากไท่ซ่างหวงโทรติดแล้ว ก็ยืดอกมองดูศาสตราจารย์หยวน

ศาสตราจารย์หยวนยิ้มแย้ม ในใจกลับค่อนข้างย่ำแย่ วันนี้โทรหาลูกสาวทั้งวันเธอก็ไม่รับ แต่ทำไมไท่ซ่างหวงโทรไปแล้วเธอก็รับทันที?

หรือว่าผู้ใหญ่ทางด้านนั้นสำคัญกว่าหรือ?

หยวนชิงหลิงฟังไท่ซ่างหวงพูด แล้วก็ตอบว่า “ได้ เรื่องนี้ท่านตัดสินได้เลย”

ไท่ซ่างหวงรับคำ พยักหัวอย่างค่อนข้างพอใจ แล้ววางสายโทรศัพท์ มองดูศาสตราจารย์หยวนอย่างค่อนข้างได้ใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “นางบอกว่าให้ข้าตัดสินใจ”

ศาสตราจารย์หยวนเป็นผู้ดีพอ แต่ความลำเอียงของลูกสาวยังคงทำให้เขาค่อนข้างเสียใจ จึงไม่สนใจคำพูดของไท่ซ่างหวง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาก้มลงมองดู เป็นสายลูกสาวโทรมา เขาอยากปัดวางสาย แต่สุดท้ายก็ทำไม่ลงจึงรับสาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน