ท่านชายสี่กำลังหยอกล้ออยู่กับสุนัขในลานบ้าน เมื่อเห็นหยู่เหวินเห้าเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นยืนปัดมือ ให้เอ้อฮาไปเล่นเอง จากนั้นก็เดินมา “แขกหายากนี่!”
หยู่เหวินเห้ามองใบหน้าขาวนวลสดชื่นของเขา เอ่ย “มีเวลามาเล่นกับสุนัข ไยไม่ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนหลิงเอ๋อร์เล่า?”
“นางหลับแล้ว!” ท่านชายสี่เชิญเขาเข้าไป นั่งลงแล้วจึงถาม “มานี่คงไม่ใช่มาถามว่ากระหม่อมอยู่เป็นเพื่อนหลิงเอ๋อร์หรือไม่กระมัง มีเรื่องอะไรก็ตรัสมาเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“ท่านรู้ว่าเสด็จพ่อยักเงินเป็นของตัวเองหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าไม่อ้อมค้อม เอ่ยถามโดยตรง
ท่านชายสี่เกี่ยวปากยิ้ม ดวงตาวิบวับ “ทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“รู้?” หยู่เหวินเห้าชะงัก
“พ่ะย่ะค่ะ เกินคาดมากหรือ? กระหม่อมทำการค้า ก็ต้องรู้จักกับร้านแลกเงิน ลูกค้ารายใหญ่ของร้านแลกเงินก็พอรู้อยู่บ้าง” ท่านชายสี่แค่ไม่ได้บอกว่าตนมีเงินฝากอยู่ที่ร้านแลกเงินปล่อยกู้เท่าไรเท่านั้น ลักษณะคนรวยที่ถ่อมตนในเรื่องความหรูหราเผยออกมาจนหมด
“มิน่าเล่า พวกท่านสุมหัวกันหลอกเสด็จพ่องั้นหรือ?” หยู่เหวินเห้าซี้ด
“คนหนึ่งอยากทำ อีกคนก็ยอมถูกกระทำ ใช่ว่าจะควักออกมาไม่ได้เสียเมื่อไรพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้าเอ่ย “เห็นว่าหมู่ตึกนี้ท่านก็ออกเงิน ท่านออกเงินมาหลอกพ่อตาท่าน น่าแปลกใจจริงๆ”
ท่านชายสี่หัวเราะ “มิเป็นไรพ่ะย่ะค่ะ ถึงอย่างไรก็ตกอยู่ในกระเป๋าท่านอาจารย์กระหม่อมอยู่ดี ขายหมู่ตึกได้ล้านตำลึง พวกเขาดีใจ กระหม่อมก็เพียงต้องการให้นางยิ้มเท่านั้น”
จากคำพูดของท่านชายสี่ หยู่เหวินเห้าฟังออกถึงความกตัญญูก็มีระดับชั้นเช่นกัน อย่างท่านชายสี่ที่ใช้เงินหลายแสนตำลึงซื้อรอยยิ้มหนึ่งของอาจารย์ ชาตินี้เกรงว่าเขาจะทำได้ยาก
เพียงแต่อดสงสัยอีกเป็นไม่ได้ “ในเมื่อเพื่อกตัญญูต่อพวกเขา แล้วเหตุใดท่านไม่มอบเงินให้พวกเขาใช้เสียเลยเล่า? อีกอย่าง หลายปีมานี้ก็ได้ยินว่าพวกเขาไม่ค่อยสุขสบายเท่าไรนี่ ไยท่านไม่ช่วยสักหน่อย?”
“พวกเขาไม่ต้องการเงินของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
“เพราะเหตุใด?” หยู่เหวินเห้าไม่เข้าใจ “เงินท่านเหม็นคาวหรือ?”
ท่านชายสี่หัวเราะชืดๆ “ก็เช่นนั้นจริงพ่ะย่ะค่ะ นางบอกว่าเงินของกระหม่อมล้วนได้มาจากคมดาบของพี่น้อง พวกเขาทำใจรับไม่ได้”
หยู่เหวินเห้าประหลาดใจเล็กๆ ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะคุณธรรมสูงส่งเพียงนี้
“แต่ท่านก็ทำการค้าด้วยมิใช่หรือ?”
“เงินรวมเข้าด้วยกัน นางบอกว่าจะแยกอย่างไรว่าส่วนไหนเป็นเงินที่ฆ่าคน ส่วนไหนเป็นเงินที่ได้จากการค้า? ดังนั้นจึงไม่เอาเสียเลยพ่ะย่ะค่ะ”
หยู่เหวินเห้าแปลกใจหนัก “ไยการกระทำพวกเขาจึงขัดแย้งกันเช่นนี้? ทั้งโลภ ทั้งยึดถือคุณธรรม”
ท่านชายสี่นิ่งงันครู่หนึ่ง ดวงตาหนักอึ้ง พักหนึ่งแล้วจึงเอ่ย “ไม่ใช่อย่างนั้นพ่ะย่ะค่ะ พวกเขาคิดว่าสมัยก่อนสังหารคนไปมาก ดังนั้นการที่ตนลำบากหน่อย อัตคัดหน่อยก็ถือเป็นการลงโทษตัวเอง พอไม่ให้ผิดต่อมโนธรรมตนเอง”
หยู่เหวินเห้าจ้องเขา “ท่านเชื่อ?”
ท่านชายสี่นิ่งงันอีก “ไม่พ่ะย่ะค่ะ แต่ก็หาคำตอบไม่พบ ถึงอย่างไรพวกเขาไม่รับเงินของกระหม่อม ไม่เพียงแต่ไม่รับของกระหม่อม แม้แต่ของเซียวเหยากงกับอ๋องผิงหนานก็ไม่รับเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”
ช่างลึกลับสลับซับซ้อนเสียจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...