หยู่เหวินเห้ารอจนอ๋องเว่ยกลับมาแล้วจึงฉุดเขาเข้าห้องหนังสือ
อ๋องเว่ยสะบัดชุดคลุม ยื่นมือปัดๆ จุดที่ถูกเขาฉุด ยับนิดหน่อย เขาเอ่ยอย่างไม่พอใจ “กระชากเสียแล้วเจ้าต้องชดใช้ด้วย!”
หยู่เหวินเห้ามองเขา ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดประโยคหนึ่ง “ท่านเปลี่ยนไปแล้ว!”
อ๋องเว่ยนั่งลง สงบใจผ่อนคลายอารมณ์ “เปลี่ยนอะไร? สมัยก่อนเจ้าจนได้คนเดียว วันนี้ข้าจนบ้างมิได้หรือ?”
หยู่เหวินเห้ากรอกตาขาวใส่ “ไม่ใช่เรื่องพวกนี้ หูหมิงบอกว่าทางให้แม่นางโจวพาคนไปเมืองโร่ตู ความหมายว่าอย่างไร? ท่านไม่ใช่บอกว่านางร้ายมากหรือ? แล้วให้นางไปที่นั่นทำไม?”
อ๋องเว่ยวางมือทั้งสองไว้ที่หัวเข่า มองเขา “ความร้ายของนางนี้ ถึงเมืองโร่ตูแล้วจะเป็นประโยชน์มาก เมืองโร่ตูเป็นเมืองของกวากวา ถึงต่อไปเจ้าไม่ให้นางไป แต่ก็ต้องมีคนที่เราไว้ใจได้เข้าไปอยู่ที่นั่นก่อน ร่วมมือกับแม่ทัพใหญ่ฮู่ หรือไม่ก็จับตามองกันและกัน แม่ทัพใหญ่ฮู่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง เพราะนิสัยแม่นางโจวเหมือนกับท่านหญิงฮู่ แม่ทัพใหญ่ฮู่ทานกับคนนิสัยแบบนี้ไม่ไหว”
หยู่เหวินเห้าเหนือคาดมาก “คนที่วางใจได้? ท่านเชื่อแม่นางโจว?”
อ๋องเว่ยหัวเราะ “นางผู้นี้นิสัยตรงไปตรงมา หนักแน่น เป็นยอดคนที่มองทะลุปรุโปร่ง กัดไม่ปล่อย ยอมบากบั่นถึงที่สุดเพื่อเรื่องเรื่องหนึ่ง นิสัยเช่นนี้เหมือนกับตาของนาง ข้าคลุกคลีกับนางมาระยะหนึ่ง สังเกตนิสัยของนางมาก ข้าเชื่อนาง”
“ตาของนางคือผู้ใด?” หยู่เหวินเห้าเอ่ยถาม
“อู๋เวยเจิ้น นางเป็นหลานสาวคนเล็กของอู๋เวยเจิ้น แต่ก็ได้รับความชื่นชมจากอู๋เวยเจิ้นเช่นกัน”
“เป็นเขาเองหรือ?” หยู่เหวินเห้าอ้าวเสียงหนึ่ง เขารู้จักอู๋เวยเจิ้นผู้นี้ สมัยก่อนรับตำแหน่งที่ศาลต้าหลี่ ตอนหลังย้ายไปอยู่กองทัพของอ๋องชินเฟิงอัน ภายหลังไท่ซ่างหวงขึ้นครองราชย์ เขาก็ไปประจำอยู่ที่จวนเจียงเป่ย เพียงแต่ปลดเกษียณมาหลายปีแล้ว เขาเป็นแม่ทัพเก่าที่จงรักภักดีมีคุณธรรมกล้าหาญคนหนึ่งจริงๆ
“มิผิด ตอนนี้ท่านอู๋ใช้ชีวิตอยู่ที่จวนเจียงเป่ย หลายปีก่อนก่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเองหญิงขึ้นมา อย่าเห็นแม่นางโจวอายุยังน้อยนะ ปีที่แล้วถูกเสนอให้เป็นหัวหน้ากองกำลังป้องกันตนเองหญิงแล้ว ในมือยังมีทหารหญิงอีกกลุ่มหนึ่ง และรายจ่ายทั้งหมดของทหารหญิง ก็เป็นเจ้าเมืองโจวของจวนเจียงเป่ยใช้เงินท้องที่จ่าย กองกำลังหญิงเหล่านี้หลักๆ ก็เพื่อป้องกันคนเป่ยโม่ฉุดคร่ารังแกผู้หญิงเป่ยถังเรา นางพวกนี้เคยสังหารคนเป่ยโม่มาไม่น้อย ฉะนั้นจะมองข้ามพวกนางไม่ได้”
หยู่เหวินเห้ารู้ว่าก่อนทำสงครามใหญ่สองสามปี คนเป่ยโม่มีประสงค์ร้ายรุกล้ำเขตแดนมาตลอด เมืองตะเข็บชายแดนอย่างนั้น จะเคลื่อนทัพโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดก็ไม่เหมาะสม ให้ทางการท้องที่ตั้งองค์กรรับมือกับคนเป่ยโม่จะเหมาะสมที่สุด ดูท่าเจ้าเมืองโจวผู้นี้ก็เก่งกาจอยู่เหมือนกัน
เมื่อถามสาเหตุชัดเจนแล้ว หยู่เหวินเห้าก็วางใจ ในเมื่อเป็นหลานของอู๋เวยเจิ้น ทั้งพี่สามยังยกย่องหนักหนา เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว
“วางใจเถอะ ไว้ข้ากลับจวนเจียงเป่ยแล้วจะคุยกับพวกนางให้เข้าใจเอง เมืองโร่ตูเป็นของจวิ้นจู่ ต่อไปพวกนางต้องถือจวิ้นจู่เป็นนาย” อ๋องเว่ยเอ่ย
หยู่เหวินเห้าหัวเราะ “ท่านจัดการเองเถอะ พี่สาม ตอนนี้ท่านนับวันยิ่งทำงานเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ”
อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้แข็งทื่อเป็นตอไม้ขนาดนั้นแล้ว ความมุทะลุน้อยลง สุขุมมากขึ้น ทั้งยังสามารถมองทะลุความหยาบในความเป็นไปของโลกได้มากขึ้น
อ๋องเว่ยหัวเราะเป็นธรรมชาติ “ชมแต่ปากมิสู้ให้เป็นรูปธรรมหน่อย เลี้ยงเหล้าข้าสักมื้อ!”
หยู่เหวินเห้างืด ดูท่าแล้วเขาจะขอกินด้วยตลอดชีวิต
เรื่องยิบย่อย เรื่องวุ่นวายล้วนจัดการเรียบร้อยเป็นอย่างๆ แล้ว กรมพิธีการและสำนักดาราศาสตร์ร่วมกับกรมวังกำลังจัดแจงเรื่องขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้องค์ใหม่
วันนี้อ๋องหวยของกรมวังพาคนมา วัดตัวของรัชทายาทและพระชายา ตัดเย็บชุดมังกร ชุดหงส์และชุดแต่งงาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...