ในลานหลักของวังประจำเมือง เหลือเพียงลูกชายกับลูกเขยไม่กี่คนของเหยี้ยนจือหยูที่ยืนอยู่ข้างเขา พวกเขามีทั้งคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปจนถึงบาดเจ็บสาหัส ในดวงตาต่างก็ค่อย ๆ ปรากฏความตื่นตระหนกขึ้นมาบ้างแล้ว
คนพวกนี้ ร้ายกาจเกินไปแล้ว
เหยี้ยนจือหยูมองไปที่เหลิ่งเฟิ่งชิง แม้ว่าจะสงบลงได้บ้างแล้ว แต่ในใจก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกตกตะลึงไม่หาย
ซูหรูซวงถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา หัวเราะจนตัวโอนเอนไปข้างหลัง หัวเราะจนน้ำตาไหลพราก นางดูเหมือนคนสติวิปลาสอย่างถึงที่สุด แล้วจู่ ๆ นางก็หยุดหัวเราะ ยื่นนิ้วที่เวลานี้สั่นระริกขึ้นมาชี้ไปที่เหลิ่งเฟิ่งชิง พูดด้วยความเกลียดชังสุดขีดว่า " เจ้ายังไม่ตายจริง ๆ สินะ? ทั้งยังมีลูกชายแล้วด้วย ช่างน่าหัวเราะ ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี คนที่เดิมทีควรจะตายไปแล้วคนหนึ่งกลับไม่ตาย กับคนที่เดิมทีควรจะมีชีวิตอยู่ดี ๆ คนหนึ่ง กลับต้องทนทุกข์ทรมานมาถึงสามสิบหกปี เหลิ่งเฟิ่งชิง เป็นเจ้าที่ทำร้ายข้า เจ้ามันสมควรไปลงนรกซะ!”
เหลิ่งเฟิ่งชิงไม่แยแสต่อคำพูดของนางอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ในสายตาของนาง มีเพียงเหยี้ยนจือหยู เท่านั้น
สำหรับเหยี้ยนจือหยู เวลาผ่านไปแล้วสามสิบหกปี แต่สำหรับนาง สามสิบหกปีเป็นเหมือนกับเวลาที่หายไป ความคั่งแค้นที่ตระกูลถูกทำลายจนย่อยยับ ยังคงอยู่เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
เหยี้ยนจือหยูมองเห็นความโกรธแค้นและอำมหิตในดวงตาของนาง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริง ๆ
เขาฝืนบังคับจิตใจตัวเองให้มั่นคง แล้วพูดว่า “พาคนของเจ้ากลับไปเสีย แล้วข้าจะทำเป็นว่าที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นในเมืองเฟิงตูแห่งนี้ ต่อให้พวกเจ้าจะพากองทหารมานับแสน ก็อย่าหวังว่าจะได้ถอยออกไปง่าย ๆ”
เสียงของเหลิ่งเฟิ่งชิงหนักอึ้งแฝงความแหบพร่าน้อย ๆ "เราสามารถพาคนมากขนาดนี้บุกเข้ามาในวังของเจ้าได้ตรง ๆ เจ้าแพ้แล้วล่ะ"
เหยี้ยนจือหยูหัวเราะขึ้นมา "แพ้แล้ว? อย่างนั้นรึ?"
เขาไว้วางใจแม่ทัพภายใต้การบังคับบัญชาของเขา การที่ปล่อยให้คนพวกนี้เข้ามา จะต้องมีการเตรียมการบางอย่างเอาไว้จนครอบคลุมแล้วแน่ ๆ คาดว่าเวลานี้ นักแม่นธนูน่าจะเตรียมพร้อมแล้ว เพียงแต่รอสัญญาณให้ยิงพวกนี้ให้ตายสิ้นก็เท่านั้น
ท่านชายสี่จูงมือเหลิ่งเฟิ่งชิงแล้วพูดว่า “ท่านแม่ ท่านไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกับเขาแล้ว ท่านแค่นั่งลงแล้วรอชมฉากจบก็พอ!”
พูดจบ เขาก็เตะเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมา แล้วพยุงเหลิ่งเฟิ่งชิงให้ค่อย ๆ นั่งลง
เหยี้ยนจือหยูมองท่านชายสี่ ในสายตาบ่งบอกอารมณ์ซับซ้อน เมื่อครู่ได้เห็นเขาลงมือ ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงกระบวนท่าเดียว ก็สามารถตัดใบหูของยอดฝีมือคนหนึ่งได้ง่าย ๆ นี่คือลูกชายของเขา ท่านอาจารย์พูดถูก ลูกชายที่เหลิ่งเฟิ่งชิงคลอดออกมา จะต้องโดดเด่นเหนือใครแน่ๆ
นั่นเป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้
“เจ้าเมืองเหยี้ยน อย่ารออีกเลยน่า คนของเจ้าไม่มีทางมาหรอก ” ท่านชายสี่เหลิ่งเงยหน้าขึ้นช้า ๆ กำด้ามกระบี่แล้วเดินเข้าไปทีละก้าว ๆ ไปยืนอยู่ตรงหน้าเหยี้ยนจือหยู เขาสูงกว่าเหยี้ยนจือหยูราว ๆ ครึ่งศีรษะ หนุ่มแน่นแต่กลับมีไอสังหารที่คุกคามมากพอจะกดดันเหยี้ยนจือหยูให้ด้อยลง “ก่อนที่พวกเราจะมาถึงที่นี่ ข้าได้ส่งคนมาที่เมืองเฟิงตูล่วงหน้า แล้วให้ไปแฝงตัวในกองทัพของเจ้า หลายวันก่อนก็ได้วางยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าไว้ในอาหาร วันนี้ได้เวลาที่พิษจะออกฤทธิ์พอดี ไม่อย่างนั้น เจ้าคิดว่าพวกเราจะเข้ามาที่นี่ได้ง่าย ๆ อย่างนี้หรือ?”
เหยี้ยนจือหยูคิ้วกระตุกติด ๆ กันสองสามครั้ง ฝืนเก็บซ่อนแววตากังวล แต่กลับอดลอบมองออกไปข้างนอกไม่ได้ ผลคือไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยจริงๆ
คุณชายใหญ่เหยี้ยนกดแผลที่หน้าอก ก้าวเท้ามาข้างหน้าแล้วร้องตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเจ้าต้องการอะไรกันแน่?”
“พวกเจ้าต้องการอะไร?” คุณชายอีกสามคนที่เหลือก็ก้าวออกมาเช่นกัน หน้าตาของพวกเขาต่างก็ดูคล้ายเหยี้ยนจือหยู ความมั่งคั่งและเกียรติยศอันยาวนาน ทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยท่าทีแบบพวกคุณชายสำรวย แต่ขาดความน่าเกรงขาม
“พวกเราต้องการแค่ชีวิตของเหยี้ยนจือหยูกับซูหรูซวง!” ท่านชายสี่พูดแบบเลือกประเด็นสำคัญ
“บังอาจ!” คุณชายใหญ่โกรธจนเส้นเลือดที่หน้าผากเต้นระริก “พวกเจ้ามันก็แค่สุนัขรับใช้ของราชสำนัก บังอาจกล่าววาจาสามหาวเช่นนี้ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ?”
คุณชายรองเหยี้ยนจ้องท่านชายสี่เขม็ง “เจ้าคือเหลิ่งซี่ ราชบุตรเขยเหลิ่ง?”
อันที่จริง ในใจของพวกเขาก็มีความเคลือบแคลงสงสัยอยู่บ้าง เพราะเมื่อครู่ท่านพ่อเพิ่งพูดไปว่าเป็น "พ่อของเหลิ่งซี่" เรื่องนี้มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
“เจ้าเมืองเหยี้ยน!” ท่านชายสี่ไม่สนใจคำถามของพวกเขา แค่มองไปที่เหยี้ยนจือหยู แล้วพูดว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามสิบหกปีก่อน วันนี้มันถึงเวลาที่ต้องให้สิ่งตอบแทนข้ามาได้แล้ว”
เหยี้ยนจือหยูโกรธจนไอสังหารพวยพุ่ง พูดว่า "เจ้าหลีกไป ข้าจะคุยกับแม่ของเจ้า"
จู่ ๆ เขาก็เกิดนึกทะนงตนขึ้นมา ลูกชายที่เขาไม่เคยเลี้ยงดูเลยแม้แต่วันเดียว สุดท้ายกลับไม่อาจตัดใจฆ่าเขาลง แน่นอนว่า เขาอยู่ในตำแหน่งสูงมานานหลายปี ย่อมเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
เขาเก็บกระบี่ ถอยกลับไปที่ระเบียงทางเดิน ยืนต้านลมขณะจ้องมองท่านชายสี่ พูดขึ้นว่า “หยุดมือเสียเถอะ เจ้าต้องการอะไร ข้ารู้ดีแก่ใจแล้ว เดิมทีเจ้าก็เป็นลูกชายคนโตของข้า เมืองเฟิงตูแห่งนี้ ยกให้เจ้าเป็นผู้สืบทอดต่อ ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว"
“ท่านพ่อ!” ใบหน้าของคุณชายใหญ่เหยี้ยนพลันเปลี่ยนสี
“ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว เขาเป็นพี่ชายของเจ้า!” เหยี้ยนจือหยูยกมือขึ้นห้าม จ้องมองไปที่ท่านชายสี่ “เจ้าพาคนมามากมายขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการสิ่งตอบแทนหรอกรึ สิ่งตอบแทนชิ้นนี้ เพียงพอแล้วหรือไม่?”
สามสิบหกปีแล้ว จนตอนนี้ถึงค่อยมาที่เมืองเฟิงตู แน่นอนว่าเป็นเพราะได้เห็นความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของเมืองเฟิงตูแล้วว่า ราชสำนักไม่อาจหยุดรั้งเอาไว้ได้อีก การเป็นแค่ราชบุตรเขยมันจะไปเทียบกับการเป็นเจ้าเมืองได้อย่างไรกัน?
ใบหน้าของท่านชายสี่ทั้งไม่โศกเศร้าแต่ก็ไม่ยินดี กำด้ามกระบี่เดินขึ้นไปข้างหน้า “เจ้าพูดได้ถูกต้องแล้ว ข้าต้องการสิ่งตอบแทน!”
เหยี้ยนจือหยูมองใบหน้าของเขา ที่มีส่วนละม้ายคล้ายกับเหลิ่งเฟิ่งชิงจนแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน ในใจก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่เขาต้องการคนที่แข็งแกร่งกว่าเพื่อมาช่วยงานเขา เหลิ่งซี่มีฝูงหมาป่า มีความสามารถในการร้องขออ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาให้มาด้วย ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้แล้วว่า เขาเป็นคนที่มีความสามารถอย่างหาตัวจับยากเลยทีเดียว
“เจ้าวางใจเถอะ อีกสองวันข้าจะประกาศให้คนภายนอกรู้.....”
ดวงตาของท่านชายสี่กะพริบน้อย ๆ มือที่ถือกระบี่พลิกกลับ แล้วจ้วงแทงเข้าที่หน้าท้องของเหยี้ยนจือหยูด้วยความรวดเร็วประดุจสายฟ้า คำพูดของเหยี้ยนจือหยูหยุดลงกะทันหัน ก้มหน้าลง มองเลือดไหลรินจากช่องท้อง เดินโซเซไปก้าวหนึ่ง โทสะพวยพุ่ง "เจ้า ...."
“ท่านพ่อ!” บรรดาลูกชายตระกูลเหยี้ยนตะโกนทั้งน้ำตา แต่ติดกระบี่ของกลุ่มชายชราชุดดำ ทำให้ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อช่วยเขา
ในดวงตาของท่านชายสี่ยังคงไม่มีความโศกเศร้าหรือยินดีเช่นเคย พูดว่า “ สิ่งตอบแทนที่ข้าต้องการ ห่างไกลจากอะไรแบบนี้ไปไกลโขเลยเชียวล่ะ ข้าต้องการให้ทุกอย่างที่เจ้าครอบครองอยู่ ต้องมีอันสูญสลายหายไปทีละเล็กละน้อยจนไม่เหลืออะไรเลย”
เขาหันหน้ากลับมา แล้วออกคำสั่งว่า "จับเขามัดเอาไว้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...