หลังประชุมงานราชการในวันนี้เสร็จ หยู่เหวินเห้าก็สั่งให้เหลิ่งจิ้งเหยียนกับหงเย่รั้งอยู่ที่ห้องทรงพระอักษรเพื่อคุยธุระกันต่อ
เขาเศร้าโศกรันทดสีหน้าสลดหดหู่ เอาแต่ทอดถอนใจอยู่นาน หงเย่กับเหลิ่งจิ้งเหยียนต่างชำเลืองสายตามองกัน นี่เจ้าตัววางแผนจะทำอะไรไม่ดีอีกแล้วอย่างนั้นรึ?
ส่วนตัวพวกเขาเข้ากันได้ดี ยังคงทำทุกอย่างเหมือนก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แบบราชากับขุนนาง แต่เป็นเพื่อนที่ปรึกษากันได้
ดังนั้น เหลิ่งจิ้งเหยียนจึงถามออกไปว่า “เป็นอะไรไปรึ?”
หยู่เหวินเห้ามองทั้งสองคนอย่างเศร้า ๆ " เหล่าจิ้ง เหล่าหง ไม่รู้ว่าทำไม จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปมากเลย "
“โอ๋? เจ้าพบว่าเรื่องบนเตียงของเจ้าไปถึงขั้น แม้มีใจแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงแล้วอย่างนั้นรึ?” หงเย่เลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยถาม
หยู่เหวินเห้าหยิบปากกาขว้างใส่เขาทันที "เจ้าสิมีใจแต่ไร้เรี่ยวแรง เจ้ากระทั่งคู่ครองก็ยังไม่มี"
หงเย่หัวเราะเหะ ๆ พูดอย่างเรียบเฉยว่า "แล้วเจ้าถอนหายใจเรื่องอะไรล่ะ?"
เหลิ่งจิ้งเหยียนคล้ายจะเดาอะไรได้แล้ว ดื่มชาด้วยท่าทางสบายอกสบายใจ “เด็ก ๆ ต่างก็โตกันแล้ว เลยพากันไปห่างจากเขากันหมด เขาจะไม่รู้สึกว่าตัวเองแก่ได้อย่างไรล่ะ?”
“ไม่ใช่ว่ายังมีลูกสาวของเราอยู่อีกคนหรอกหรือ?” หงเย่พูด
หยู่เหวินเห้าจ้องเขาเขม็ง "เป็นลูกสาวของข้า ไม่ใช่ลูกสาวของเรา"
“ ก็เหมือนกันนั่นล่ะ ของเจ้าหรือของข้าต่างก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน ระหว่างพวกเราไม่ต้องแบ่งแยกชัดเจนขนาดนั้นก็ได้น่า” หงเย่พูดได้เต็มปากอย่างหน้าไม่อาย
“มันเป็นเรื่องของหลักการ!” หยู่เหวินเห้าค้านอย่างหนักแน่น
เหลิ่งจิ้งเหยียนพูดบ้าง "ในเมื่อเป็นแบบนี้ คลอดอีกคนก็สิ้นเรื่อง"
"นั่นเป็นไปไม่ได้"
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าจะทำอย่างไรล่ะ?"
หยู่เหวินเห้าจ้องมองทั้งสองคน “พูดถึงเรื่องนี้ พวกเจ้าก็อายุอานามไม่น้อยแล้ว ไม่ใช่ว่าควรคิดเรื่องสำคัญของตัวเองแล้วหรือ?”
หงเย่กับเหลิ่งจิ้งเหยียนโวยวายออกมาพร้อมกัน "ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!"
หลังจากนั้น ก็พากันลุกขึ้น พลางประสานมือกล่าวลา "ข้ายังมีงานอีกมากที่ต้องรีบไปสะสาง ขอทูลลา!"
พูดแล้วยังอดแสดงท่าทางกรุ่น ๆ ไม่ได้!
หยู่เหวินเห้าเดินหน้าม่อยคอตกกลับไปหาภรรยากับลูกสาว ตอนนี้พอจะมีเวลา ก็ใช้ร่วมกับภรรยาและลูกให้มากก็นับว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม
แต่ภรรยาไม่ต้องการให้เขาอยู่เป็นเพื่อน วันนี้หยวนชิงหลิงไปที่จวนอ๋องซู่ เพื่อวัดความดันโลหิต กับวัดค่าระดับน้ำตาลในเลือดให้กลุ่มผู้อาวุโสกลุ่มนั้น โสวฝู่ไปยุคปัจจุบันเพื่อตรวจร่างกาย แม้จะพูดได้ว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่เพราะช่วงนี้ทั้งสามคนทั้งกินและดื่มกันตามใจชอบ จนทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงความดันในเลือดสูงขึ้นจนเกินค่าเฉลี่ย
เมื่อมาถึงจวนอ๋องซู่ หยวนชิงหลิงก็รู้สึกเหมือนว่าได้เข้ามาในบ้านพักคนชราระดับสูงสักแห่ง
มีคนแก่อยู่เยอะมาก
อ๋องชินเฟิงอันสามีภรรยาดูแลผิวหน้าได้เป็นอย่างดี แต่อายุอานามของพวกเขาก็ล่วงเข้าสู่วัยชราแล้ว สามยักษ์ใหญ่ที่ยกเว้นแค่หัวใจที่ไม่ยอมอยู่นิ่ง ก็ยังแก่แล้วด้วยเช่นกัน
นอกจากห้าคนนี้แล้ว ยังมีอ๋องผิงหนานหยู่เหวินจี๋ คู่สามีภรรยาอ๋องชาง ฉางกงกง แม่นมสี่ รวมถึงกลุ่มชายชราชุดดำที่ดูอายุไม่ออกกลุ่มนั้นอีกกลุ่ม ทั้งจวนอ๋องซู่แห่งนี้ เหมือนว่าแทบจะไม่มีคนหนุ่มสาวอาศัยอยู่สักเท่าไหร่เลย
ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่นางจัดคลินิกเคลื่อนที่ครั้งนี้ขึ้น เพื่อตรวจร่างกายให้พวกเขา
กลุ่มชายชราชุดดำค่อนข้างให้ความร่วมมือดีมาก เมื่อเห็นว่าหยวนชิงหลิงช่วยสามยักษ์ใหญ่วัดความดันโลหิตอย่างไร พวกเขาก็ถกแขนเสื้อ แล้วไปยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ
สาเหตุหลักเป็นเพราะ พระชายาบอกไว้ว่า ขอแค่ทุกคนให้ความร่วมมือในการตรวจร่างกาย รอจนตรวจเสร็จหมดแล้ว ทุกคนก็จะได้กินเนื้อย่าง
หลังจากตรวจร่างกายแล้ว ยกเว้นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสามยักษ์ใหญ่ คนอื่นที่เหลือต่างมีสุขภาพที่ค่อนข้างแข็งแรงสมบูรณ์ดี แค่มีบางคนที่จำเป็นต้องกินยา หรือต้องประคบร้อนเพื่อรักษาพวกแผลเก่าที่มีเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...