บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1543

แต่จะดีใจอย่างไร ก็รู้ว่าที่จริงกวากวาอยู่ที่นี่มีความสุขมาก กวากวาชอบอยู่กับพี่ชายมาตลอด ปีที่แล้วตอนที่พวกพี่ๆ ออกจากเป่ยถัง กวากวายังหงอยเหงาไประยะหนึ่ง

ที่จริงทังหยวนพูดถูก กวากวาชอบอยู่กับพี่ชายมากกว่าอยู่กับพวกเขา

ถึงเขาอยากหาเวลาอยู่เป็นเพื่อนลูกอย่างไร แต่ราชกิจในราชสำนักก็มีมาก บางครั้งพอยุ่งขึ้นมา แม้แต่กวากวาก็ยังไม่อาจได้เจอสักครั้ง ได้แต่รอให้กวากวาหลับแล้ว และเขากลับมาตอนในตอนกลางคืนถึงไปดูสักหน่อย

เขาปรึกษากับเจ้าหยวนทั้งคืน สุดท้ายก็ตัดสินใจอย่างยากลำบาก ให้กวากวาอยู่ที่นี่

เขารู้ว่าลูกสาวมีพลังเหนือมนุษย์ กวากวาต้องเรียนรู้การควบคุมพลังของตัวเอง อีกอย่าง ลูกสาวอยากอยู่กับพวกพี่ชาย เขาอยากให้ลูกสาวมีความสุข แม้จะทำใจไม่ได้อย่างไร ก็ได้แต่เกลี้ยกล่อมตัวเอง

อย่างไรเสียหนึ่งปีก็กลับไปสองครั้ง ครั้งหนึ่งยังอยู่ได้ถึงเดือนสองเดือน หรือก็คือปีหนึ่งมีเวลาที่จะได้อยู่กับลูกสี่เดือน

ด้วยเช่นนี้ กวากวากับเทพวิหคจึงอยู่ในยุคปัจจุบัน สองสามีภรรยาพาสวีอีที่หอบของพะรุงพะรัง กลับไปอย่างโดดเดี่ยว

ตัดใจไม่ได้ ตัดใจไม่ได้ อย่างไรก็ตัดใจไม่ได้

ตอนกำลังจะไป หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าต่างร้องไห้ออกมา คัดจมูกหนัก ปวดใจมาก

ครั้นกลับถึงทะเลสาบจิ้ง หัวใจว่างเปล่า เขาจูงมือหยวนชิงหลิง เอ่ยอย่างเศร้าใจ “เรามีลูกหกคน แต่กลับไม่มีลูกคนไหนอยู่กับเราสักคน”

หยวนชิงหลิงได้ฟังคำพูดนี้แล้วก็ปล่อยโฮออกมายกหนึ่ง เพราะรู้ว่าเจ้าห้าไม่อยากจากลูกมาตลอด นางจึงไม่กล้าแสดงออกว่าตัดใจไม่ได้ แต่เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้แล้ว ปราการในหัวใจก็พังทลาย ร้องไห้ไม่หยุด

สุดท้ายยังเป็นหยู่เหวินเห้ากอดนางปลอบใจพักหนึ่ง จึงจะหยุดร้องไห้ได้

สวีอีก็เสียใจอยู่บ้างเหมือนกัน เขาอาลัยหาเจ้าหญิง

ครั้นกลับถึงเมืองหลวงก็เสียใจไปสองสามวัน แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป

ด้วยกาลเวลาที่ล่วงเลย เดิมยังนึกว่าลูกไม่อยู่ข้างกาย พวกเขาจะระทมหนัก สูญเสียดวงใจไปกึ่งหนึ่ง

แต่พวกเขากลับค่อยๆ คุ้นชิน ทั้งยังมีเวลามีโลกสองต่อสองด้วยกันมากขึ้น แต่ก่อนเสร็จการงาน ก็เลี้ยงลูกแบบรีบๆ ร้อนๆ อยู่เล่นเป็นเพื่อนลูก รอกวากวาเข้านอนแล้ว พวกเขาถึงกลับตำหนักพัก แต่นั่นก็ดึกดื่นแล้ว

แต่ตอนนี้เมื่อกลับถึงตำหนักเสี้ยวเยว่ เหมือนว่าจะมีเวลาเหลือมากกว่าเดิมมาก พอกินข้าวเสร็จ ก็ออกไปเดินเล่น ล่องเรือ พูดคุยกัน

พวกเขาชอบล่องเรือมากเป็นพิเศษ จำได้ว่าเมื่อก่อนพอคิดจะไปทีไร ก็มักเกิดปัญหาขึ้นทุกที แต่เวลานี้กับไม่มีเหตุเหล่านั้นแล้ว พวกเขาสามารถล่องเรือลำน้อยได้ตลอดทั้งคืน ชมจันทร์ ดูดาว พูดถึงเด็กๆ พูดเรื่องที่เกิดตอนกลางวัน กระทั่งพูดคำรักหวานแหวว

รอจนปิดเทอมฤดูร้อนเด็กๆ กลับมา ทั้งวังหลวงก็ครึกครื้นขึ้นทันที ด้วยการมาเป็นเพื่อนของฉีฮั่ว กวากวาก็กลับมาด้วย แต่ด้วยระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนสั้นๆ กวากวาเหมือนโตขึ้นมาก พูดคำฉอเลาะมากมายเอาใจให้พ่อแม่ให้อารมณ์ดี

นางเล่นไฟได้ บิดนิ้วเป็นลูกไฟออกมา ลอยออกไป แต่จากนั้นก็ดึงกลับมา พ่อแม่เห็นการแสดงอย่างนี้ของนางแล้วก็ปลาบปลื้มใจมาก

ฉีฮั่วเอ่ย “เสี่ยวกวาฉลาดมาก เรียนรู้ได้เร็ว เพิ่งจะไม่กี่เดือนก็ควบคุมลูกไฟได้แล้ว อีกไม่นานก็จะคุมไฟดวงใหญ่มากขึ้นได้”

“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี ตามการวิเคราะห์ของเจ้า เมื่อไรนางจึงจะสำเร็จ?” หยู่เหวินเห้าถามอย่างใจจดใจจ่อ

“เจ็ดแปดปีมั้ง” ฉีฮั่วเอ่ย

หยู่เหวินเห้าอดผิดหวังเป็นไม่ได้ “ต้องอีกเจ็ดแปดปีเชียวหรือ? แต่นี่แค่ไม่กี่เดือน นางก็คุมดวงไฟได้แล้ว แล้วเหตุใดยังต้องอีกเจ็ดแปดปีเล่า?”

ฉีฮั่วเอ่ย “คิดว่าง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? ดวงไฟเล็กคุมง่าย แต่ถ้าดวงไฟใหญ่ขึ้น ความยากก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ควบคุมได้ในเจ็ดแปดปีก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว ยังไม่นับที่ต้องใช้เวลาสิบปีหรือร้อยขึ้นไปอีกนะ”

หยู่เหวินเห้าแจ๊บปาก “ร้อยปี? บ้าไปแล้วหรือ?”

มนุษย์จะอยู่ได้ถึงร้อยปีจริงหรือ?

“มีอะไรน่าแปลก? ผมก็หลายร้อยปี...สรุปคือยากมากๆ ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด แต่ลูกศิษย์หลักแหลมมากจริงๆ” ฉีฮั่วเอ่ย

หยู่เหวินเห้าจึงเปลี่ยนมาใช้แผนสอง “เช่นนั้นเจ้าพักอยู่ที่นี่ได้ไหม? อยู่เสียแปดปีสิบปี”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน