บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1552

ไม่รู้ว่าอ๋องเว่ยฟังไม่ออกหรือไม่สนใจกันแน่ เอ่ย “ไปบอกแม่นางโจวของพวกเจ้า นายของนางมาแล้ว”

นางเบนเส้นสายตาไปที่ใบหน้าของหยู่เหวินเจ๋อหลาน แววตามีความตะลึง แม่นางน้อยผู้นี้งดงามยิ่งนัก นางก็คือเจ้าหญิง?

ขณะที่นางกำลังจะคุกเข่าลงข้างหนึ่งคำนับ หยู่เหวินเจ๋อหลานก็ยิ้มเอ่ย “คนมากมิต้องเป็นพิธี!”

นางยิ้ม มองนายด้วยความลึกซึ้งแวบหนึ่ง “เพคะ ข้าน้อยจะไปรายงานแม่นางโจวก่อน!”

นางหมุนตัวไปจูงม้าตัวหนึ่ง แล้วควบไปอย่างเร็วรี่

เดิมอ๋องเว่ยและอ๋องอานอยากรีบพาหลานสาวไปไวหน่อย เพราะตามถนนตรอกซอกซอยมีแต่คำหยาบโลน ความโหดร้าย ที่สมานฉันท์กลับไม่มีมาก เกรงจะแปดเปื้อนดวงตาของหลานสาว

แต่เห็นชัดว่าเขาประเมินความสามารถในการยอมรับของหลานสาวต่ำเกินไป เพราะนางดูอย่างมีอรรถรส แม้แต่การรุมซ้อมสิบกว่าคนบนถนนนางก็ยังหยุดดู แถมยังดูอย่างออกรสออกชาติด้วย

นางประหนึ่งกระต่ายน้อยที่เพิ่งลงเขา น่ารักไร้พิษภัย แต่กลับเต็มไปด้วยความสนใจต่อสรรพสัตว์และทุกเรื่องราวในโลก

ดูการวิวาท ดูการชนไก่ ดูการพนัน ดูหญิงคณิกาเรียกแขก ดูการลักขโมย ดูขอทานแย่งสิ่งของ และดูพ่อค้าหลอกลวงลูกค้า

เดินๆ หยุดๆ ผ่านไปถึงสองชั่วยามจึงจะถึงจวน

จวนนี้สร้างได้ใหญ่โตมาก แต่ไม่โอ่อ่าสักนิด ไม่มีสิงโตหินที่ว่า ไม่มีประตูหมุดทองเหลืองแกะสลัก และไม่มีซุ้มประตูตั้งเด่น มีช่องประตูใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ประตูไม้สองบานที่สร้างแบบเรียบง่าย อักษรที่ป้ายประตูใช้กระบี่แกะสลัก เขียนว่าจวนเจ้าเมือง แถมคำว่าจวนยังเขียนผิด ตัวสะกดสลับข้าง

เห็นได้ว่าผู้ใต้บังคับบัญชานางไร้การศึกษาเพียงไร

ที่ปากประตูมีคน เมื่อเห็นพวกเขามาก็รีบไปแจ้ง จนพวกเขาลงจากหลังม้าแล้วแม่นางโจวก็พาคนวิ่งมา เห็นชัดว่านางรีบมาก พอออกมาแล้วกลับไม่รีบคารวะนายก่อน แต่ตำหนิอ๋องเว่ยแทน “สองชั่วยาวก่อนก็ถึงประตูเมืองแล้ว เหตุใดจึงเพิ่งจวนเอาเวลานี้เพคะ?”

เช่นเดียวกับหญิงที่อยู่หน้าประตูเมือง สีหน้านางที่มีต่ออ๋องเว่ยไม่ดีนัก

อ๋องเว่ยก็ทำเป็นมองไม่ออกอีก ยังคงเอ่ยเรียบ “นางอยากไปดูให้ทั่ว ข้าก็เลยพานางไป”

แม่นางโจวกรอกตาขาวใส่ แล้วเข้าไปมองหยู่เหวินเจ๋อหลาน ผ่อนลมเบาๆ “เจ้าเมืองมาได้สักที”

แต่สีหน้านางไม่สู้ดีนัก เจ้าตัวน้อยงามตานี่ไม่ทรงอำนาจสักนิด ไม่มีความน่าเกรงขามเยี่ยงเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ เป็นอย่างกับดอกไม้ที่หลบอยู่ในอ้อมอกรุ่นบิดาออดอ้อนเป็นอย่างเดียว แค่ดูก็รู้ว่าต้านทานอุปสรรคไม่ไหว

แม่นางโจวผิดหวังเล็กน้อย

นางรู้ว่าเจ้าเมืองเมืองโร่ตูเป็นธิดาเพียงคนเดียวของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เจ้าหญิงเฉาเฟิ่ง แต่เดิมทีนางคิดว่าเป็นเด็กที่พิเศษคนหนึ่ง เวลานี้เมื่อได้พบแล้วกลับเป็นตุ๊กตาเซรามิกที่เติบโตภายใต้การปกป้องของทุกคน อำนาจสักนิด กระทั่งความแกร่งเพียงเล็กน้อยก็ยังไม่มี

สาวน้อยผู้นี้ อนาคตก็รับผิดชอบเมืองโร่ตูไม่ได้ ดอกบัวดอกหนึ่ง อยู่ในโคลนตมเน่าเฟะมืดมนอย่างเมืองโร่ตูเป็นเวลานาน ไม่เข้ากันเสียเลย

แต่เมื่อนางมาเมืองโร่ตู ก็ต้องให้เกียรตินางเป็นนาย เวลานี้แม้จะไม่พอใจแต่ก็ได้แต่ยอมรับแล้ว

แม่นางโจวต้อนรับเข้าจวน อ๋องเว่ยกับอ๋องอานถามเรื่องราวในเมือง แม่นางโจวบอกว่าสถานการณ์ทรงๆ ไม่ได้ดีกว่าเมื่อก่อนเท่าไร และไม่ได้แย่กว่ามากด้วย ทางแคว้นจินยังคงก่อสร้างขนาดใหญ่ ประมาณสองสามปีก็ย้ายเมืองมาได้

ในเมืองอย่างกับปลักที่มีไอพิษลอยออกมา หากไม่ระวังก็จะพลั้งตกลงไป

อ๋องเว่ยขมวดคิ้ว “ตามความเห็นเจ้า จำเป็นต้องใช้ทหารหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน