บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 157

หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “แล้วเสด็จแม่ของเจ้าได้เคยหาหมอหลวงหรือหมอมารักษาไหม?”

“เคย แต่ข้าไม่ให้ความร่วมมือ เสด็จแม่จึงโกรธมาตลอด”หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น

เขาลูบใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่โกรธแล้วใช่ไหม?”

“เดิมก็ไม่ได้โกรธแล้ว คืนนั้นข้าก็บอกแล้วว่าจะไม่โกรธ” นางลงมาจากบนตัวของเขา พร้อมอมยิ้มพูดขึ้น

เปลี่ยนเป็นเขาทับขึ้นมาพร้อมพูดขึ้นว่า “โกหก ข้าจะไม่เชื่อผู้หญิงอีกต่อไปแล้ว”

เจ้าทังพูดถูก กับผู้หญิงสามารถพูดความจริงได้เพียงครึ่งเดียว

ที่จริงตอนนั้นไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งหมด เดิมตอนนั้นได้พานางข้าหลวงสองคนมาให้เขาเลือก เขาเลือกอีกคนหนึ่ง สุดท้ายเสด็จแม่พูดว่าคนนั้นไม่ดี จึงเปลี่ยนให้กับเขา

ตอนนั้นเขาเพิ่งมีความคิดเป็นของตนเอง กำลังอยู่ในขั้นตอนที่หล่อหลอมกลายเป็นนิสัย อยากตัดสินใจทุกอย่างด้วยตนเอง เริ่มไม่พอใจกับการจัดการของเสด็จแม่ และจะกระทำการต่อต้านด้วยสัญชาตญาณ

เพราะอยากที่จะต่อต้านเสด็จแม่ เขาจึงตั้งใจไม่แตะต้องนางข้าหลวงคนนั้น และก็เป็นเพราะอัปลักษณ์มากจริงๆ

เสด็จแม่ก็คิดว่าเขาทำไม่ได้จริงๆ ผ่านมาอีกหลายปี เขาก็ปฏิเสธในการรักษา เพราะหากทำการรักษา ก็จะถูกเสด็จแม่จับได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาไม่สามารถที่จะยอมรับสารภาพได้ว่าเขาตั้งใจโกหกเสด็จแม่ จึงทำให้หลายปีมานี้ ข้างกายเขาแม้แต่เมียทาสหรืออนุภรรยาก็ไม่มีสักคน

หลังจากเกิดเรื่องที่จวนเจ้าหญิง เสด็จแม่ก็รู้ทันทีว่าเขาถูกใส่ร้าย เพราะยังไงเสด็จแม่ก็ยังเชื่อว่าเขาไม่สนใจผู้หญิง

เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

หยวนชิงหลิงตื่นขึ้นมาจากอาการงงงวยทันที มองดูผู้ชายที่ทับอยู่บนร่างของตน แสดงสีหน้าหัวเราะอยู่อย่างแปลกประหลาด จึงพูดขึ้นว่า “หัวเราะอะไร?”

“ไม่มีอะไร” เขาหุบยิ้ม รีบก้มหน้าลงทำงานอย่างหนัก

หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าเขามีท่าทีแปลกประหลาด

และรู้สึกว่าเรื่องที่ผ่านมาที่เขาเล่า มีส่วนที่น่าสงสัยอย่างมาก

แต่จากที่มีประสบการณ์แล้ว นางก็เริ่มฉลาดขึ้น ไม่ต้องถามเรื่องที่ผ่านมา เมื่อก่อนคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้สิ่งที่นางต้องการก็คือระวังอนาคต ไม่ ต้องเฝ้าระวัง

เช้าวันรุ่งขึ้น หยู่เหวินเห้ากลับไปที่ทำการ หยวนชิงหลิงเข้าวังไปรายงานอาการป่วยของอ๋องหวย

แน่นอนว่าฮ่องเต้หมิงหยวนไม่ได้ให้นางเข้าเฝ้าเช้าขนาดนั้น นางจึงไปเที่ยวเล่นที่ตำหนักไท่ซ่างหวง

ตัวฝูมารับนางเข้าไป ตอนนี้บนตัวของนางมีกลิ่นของสุนัข ตัวฝู จึงยิ่งชอบอย่างมาก

ไท่ซ่างหวงกำลังดื่มชา นั่งอยู่ภายในลานร้านอย่างสบายใจ ยังนั่งขาไขว่ห้าง

หยวนชิงหลิงเข้ามาถวายบังคม ไท่ซ่างหวงหรี่ตาพูดขึ้นว่า “โย้ นี่ไม่ใช่พระชายาอ๋องฉู่หรือ? คนพิเศษเนี่ย”

หยวนชิงหลิงฟังคำเหล่านี้เต็มไปด้วยความประชดประชันและความขุ่นเคือง จึงเข้าไปพูดขอประทานอภัยขึ้นว่า “ช่วงนี้ยุ่งอยู่กับการรักษาอาการป่วยของอ๋องหวย จึงไม่ค่อยได้เข้าวังมาถวายพระพรเสด็จปู่ ขอเสด็จปู่ประทานอภัย”

ไท่ซ่างหวงก็ไม่ได้โกรธจริงๆ ถามขึ้นว่า “หลานหก เป็นอย่างไร?”

“เรียนเสด็จปู่ อาการป่วยสามารถควบคุมได้แล้ว จะไม่แพร่เชื้อให้กับคนอื่นอีก”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น

“จริงหรือ?” ไท่ซ่างหวงคาดไม่ถึง มองดูนางพร้อมพูดว่า “เจ้ามีความสามารถจริงๆ หมอหลวงยังไม่มีวิธีรักษา เจ้ากลับสามารถรักษาได้ภายในครึ่งเดือน”

“ก็ยังไม่หาย เพียงแค่สามารถระงับไว้ได้ชั่วขณะ ยังต้องทานยาไปอีกกว่าครึ่งปี”

“ยังอีกครึ่งปีก็ถือว่าเป็นเรื่องดี”ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างคนที่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นว่า “ใช่ ชีวิตนั้นมีค่ามาก”

นางเดินเข้ามาใกล้พร้อมพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้ไท่ซ่างหวง สบายดีไหม?”

“ตอนที่ลุกขึ้นมาวันนี้ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรรู้สึกค่อนข้างปวดหัว เจ้ามานวดให้หน่อย”ไท่ซ่างหวงพูดขึ้นอย่างน่าสงสาร

แน่นอนว่าหยวนชิงหลิงจะต้องตรวจดูก่อน ฟังเสียงหัวใจเต้น จับชีพจร มองดูลิ้น มองดูดวงตามองดูสีหน้า หลังจากตรวจทุกอย่างตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว ค่อยเดินไปด้านหลัง กดนิ้วลงบนหน้าผากและขมับ แล้วก็เริ่มนวดอย่างช้าๆขึ้นมา

ไท่ซ่างหวงหลับตาอย่างสบาย

ฉางกงกงซื้อขนมหวานมา เห็นหยวนชิงหลิงกำลังนวดให้กับไท่ซ่างหวง จึงถามขึ้นว่า “พระชายา ไท่ซ่างหวงเป็นอะไรหรือ?”

“เสด็จปู่พูดว่าปวดหัว”หยวนชิงหลิงพูดขึ้น

“ปวดหัว?” ฉางกงกงรีบวางขนมหวาน พร้อมรีบถามขึ้นว่า “ไท่ซ่างหวง เป็นอะไรมากไหม ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นได้ยินพูดว่าปวดหัว?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน