เขาตู๋ซานอยู่ที่เมืองโร่ตูยังเรียกว่าเมืองผี
ประชาชนในแถบเมืองโร่ตู จะเข้าไปในเขาตู๋ซานน้อยมาก ในทุกปีจะมีคนที่อยากร่ำรวยแล้วเข้าไปค้นหาสิ่งของล้ำค่า แต่สุดท้ายคนที่กลับออกมาไม่กี่คน
ต่อให้ออกมา ก็จะมีอาการบ้าๆบอๆ
ดังนั้น คนของราชสำนักจะเข้าไปในเขาตู๋ซาน ทำให้เป็นที่สนใจของพวกชาวบ้าน และมีคนตั้งใจมาพูดบอกถึงจวนว่า เขาตู๋ซานอันตรายอย่างมาก มีมารปีศาจและสัตว์ประหลาด ไม่ต้องไปจะดีที่สุด
ทังหยางบอกกับทุกคนว่า เขาตู๋ซานไม่ใช่มีมารปีศาจและสัตว์ประหลาด แต่ในทางกลับกัน เขาตู๋ซานเป็นสถานที่อยู่ของเทพเทวดา คนที่เข้าไปต้องการที่จะเด็ดหญ้าทิพย์ จิตใจคิดไม่ซื่อ ทำให้เทพเทวดาโกรธ จึงออกมาไม่ได้
ตราบใดที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เข้าไปด้วยจิตใจที่นอบน้อมเคารพนับถือ ก็จะสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย
ทังหยางพูดว่า นี่เป็นคำพูดของราชครู และตั้งใจที่จะส่งเข้ามาเพื่อพิสูจน์
ตอนที่ทังหยางพูดออกมาเช่นนี้ ที่จริงในใจละอายอย่างมาก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากันเยอะๆ ฝ่าบาทยังส่งจดหมายไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเชื้อเชิญให้มาท่องเที่ยว เป็นผู้เริ่มต้นในการแต่งเรื่องขึ้นมา
แต่เขาก็เห็นด้วยกับการเปิดความจริงของเขาตู๋ซาน เปิดให้กับทุกคนในโลก เพราะวิวทิวทัศน์ของเขาตู๋ซาน เป็นสถานที่สวยงดงามไม่ซ้ำใครของเป่ยถัง
คำพูดเช่นนี้ของทังหยาง มีทั้งคนที่เชื่อ คนที่เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่คนที่เชื่อมีจำนวนน้อย
ทุกคนต่างรอดูสถานการณ์ก่อน
ก่อนจะเข้าไป ทังหยางถามแม่นางเจ็ดว่า “เจ้ายอมที่จะเขาไปพร้อมกับข้าจริงหรือ?”
ตอนที่แม่นางเจ็ดอายุยังน้อยเคยเข้าไปหนึ่งครั้ง แต่ไม่ได้เดินเข้าไปไกล ถูกดึงดูดด้วยดอกเปลวไฟแห่งนรกที่มีอยู่เต็มภูเขา โชคดีที่หลังจากสะดุดล้มในดอกเปลวไฟแห่งนรก ค่อยได้สติขึ้นมา จึงรีบออกมาทันที
แต่เมื่อออกมาแล้ว ดอกไม้สีแดงเพลิงนั่นยังตราตรึงอยู่ในใจเสมอมา เหมือนอย่างกับถูกครอบงำ
ตอนนี้ก่อนที่จะมาถึงเขาตู๋ซาน ความฝันในตอนนั้นก็ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก โหยหาปรารถนาจนยังจะคิดถึงอันตรายตรงไหน?
กระทั่ง นางลืมความตั้งมั่นของตนเองที่ยึดถือมาตลอด อายุขนาดไหนทำอะไร ล้วนกำจัดทิ้งไป โอกาสมาแล้ว ไม่ว่างนางจะยังเยาว์วัยเพียงพอหรือไม่ ก็ควรที่จะไปเสี่ยงอันตรายเพื่อฝันของตนเอง
ดังนั้นเมื่อทังหยางถามนาง นางซ่อนกริชไว้ในกระเป๋าแขนเสื้อ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อข้ามาแล้ว ก็จะต้องเข้าไปอย่างแน่นอน”
“เจ้าเชื่อใจข้าจริงๆหรือ? ไม่กลัวว่าข้าจะพาเจ้าออกมาไม่ได้หรือ?” ทังหยางค่อนข้างตื่นเต้น
แม่นางเจ็ดกวาดสายตามองดูเขาแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เกี่ยวกับความเชื่อใจ ครั้งนี้ ต่อให้ตายอยู่ข้างในข้าก็ยอม”
แต่ในเรื่องการทำงาน นางเชื่อใจทังหยาง เรื่องที่เขาจะทำ จะต้องมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว มีความเชื่อมั่นน้อยกว่าแปดส่วน เขาจะไม่ลงมือทำ
ส่วนความไม่แน่ใจในอีกสองส่วนนั้น นางยอมที่จะเสี่ยงอันตรายสักครั้ง
ทังหยางยิ้มพร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ งั้นไปกันเถอะ”
ทังหยางแบกกระเป๋าไว้ข้างหลังหนึ่งใบ มีพวกหมั่นโถวกับเนื้อตากแห้ง ไม่ได้เอาน้ำไปด้วย เพราะหลังจากเข้าไปในเขาแล้วก็มีน้ำ
ต้นเก้าหวนสีดำบนภูเขาผสมกับไฟนรกสีแดง ก่อให้เกิดพิษ รบกวนความคิดของคน ทำให้ตกอยู่ในอาการประสาทหลอน
แต่พิษแบบนี้ถอนพิษง่ายมาก เด็ดคั้นน้ำดอกในดอกเปลวไฟแห่งนรก ทาได้ทุกที่ในร่างกาย ก็สามารถถอนพิษได้
ใครจะไปคิดว่า สิ่งที่ทำให้คนกลัว กลับเป็นยาถอนพิษ?
ดอกเปลวไฟแห่งนรกอันกว้างใหญ่นี้ สวยงดงาม แปลกประหลาด ทำให้คนเห็นแล้วก็หลงใหล แต่สิ่งที่น่าหลงใหลก็ทำให้น่ากลัวได้เช่นกัน แถมมีคนเคยบอกว่า ดอกเปลวไฟแห่งนรกมีพิษร้ายแรง ดังนั้นคนที่เข้าไปล้วนหลีกเลี่ยงตรงนั้น ไม่มีทางคิดที่จะเด็ดดอก แล้วเอามาทามือ
ตรงปากทาง มีแห่งหนึ่งดอกเปลวไฟแห่งนรกบานสวยมาก ดอกเปลวไฟแห่งนรกที่นี่ ไม่อยู่ใกล้ต้นเก้าหวน จึงไม่มีพิษ นี่คือของขวัญแห่งโลกที่มอบให้มนุษย์ สามารถเด็ดดอกเปลวไฟแห่งนรกตรงหน้าปากทางมาทา แล้วค่อยเข้าไป ตลอดระหว่างทางก็จะไม่หลงกลภาพหลอน
มองเห็นดอกเปลวไฟแห่งนรกตรงปากทาง แม่นางเจ็ดราวกับต้องเวทมนตร์ ดอกไม้ในฝัน จู่ๆก็ปรากฏตรงหน้า รู้สึกเหมือนดั่งฝัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...