หยวนชิงผิงยอมให้นางตบหน้าตัวเองให้เสียที่ไหน? เพียงแค่ตั้งใจให้นางตบถูกบนข้างไหล่ แล้วก็ตะคอกพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “ดี เจ้ากล้าตบข้า? ดูสิว่าวันนี้ข้าจะฉีกเนื้อเจ้า”
พร้อมเสร็จ นางก็ยกมือข่วนบนใบหน้าฉู่หมิงเฟิ่ง ข่วนเสร็จแล้วยังข่วนซ้ำอีกหนึ่งฝ่ามือ
ฉู่หมิงเฟิ่งอึ้งตะลึงสิ้นเชิง กำลังคิดจะตอบโต้ ก็ได้ยินฉู่หมิงชุ่ยพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “หยุด”
ฉู่หมิงเฟิ่งตกใจจนถอยหลัง กลับถลึงตาจ้องมองดูหยวนชิงผิงอย่างเกลียดชัง
แววตาเยือกเย็นของฉู่หมิงชุ่ยมองผ่านใบหน้าของหยวนชิงผิง แล้วก็มาหยุดตรงหน้าหยวนชิงหลิง พูดขึ้นอย่างอ่อนหวานว่า “พระชายาอ๋องฉู่ เจ้ากับข้าเป็นพี่สะใภ้กับน้องสะใภ้ ยังไงก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน จึงขอถือวิสาสะพูดว่าพระชายาอ๋องฉู่ หรือพูดไม่น่าฟัง เจ้าอย่าได้ถือสา น้องสาวเจ้าดื้อรั้น ในฐานะที่เป็นพี่คนโตจะนิ่งดูดายไม่ได้ จะต้องอบรมสั่งสอนให้ดีถึงจะถูก นี่ยังไม่ได้แต่งงานออกเรือนไปเลย เป็นที่เรื่องหรือออกไปจะทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”
เรื่องทะเลาะวิวาทหยวนชิงหลิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของใคร แต่พูดถึงหลักการนางถือว่าไม่แพ้ใคร
นางยิ้มพูดขึ้นว่า “พระชายาฉีช่างมีความชอบธรรมจริงๆ น้องสาวของเจ้าพูดจาดูถูกข้าก่อน และยังลงมือตบตีน้องสาวของข้า ทัศนคติแย่มาก นางยังเป็นน้องสาวของเจ้าที่เกิดจากสนม ข้าจะสั่งสอนก็คงไม่เหมาะสม ในเมื่อพระชายาฉีเข้าใจ งั้นก็ขอพระชายาฉีให้ความเป็นธรรมกับข้าและน้องสาวด้วย”
ฉู่หมิงชุ่ยอึ้ง แต่ก็ไม่โกรธ เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ข้าเข้าใจแล้ว พระชายาอ๋องฉู่ให้ท้ายน้องสาวของตนเองขนาดนี้ ถือเป็นความหวังดี แต่เกรงว่าจะเป็นการทำให้ชื่อเสียงน้องสาวของเจ้าเสื่อมเสีย หาคู่ครองได้ยาก”
หยวนชิงผิงกวาดสายตามองดูอย่างเยือกเย็น กำลังอยากที่จะตอบโต้ หยวนชิงหลิงกลับห้ามนางไว้ พร้อมยิ้มพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะยังไง คนอย่างพระชายาฉี ก็ยังหาคู่ครองที่ดีได้ไม่ใช่หรือ? น้องสาวของข้าคิดว่าก็ไม่ได้ไปกว่าพระชายาฉีหรอก พระชายาฉีเป็นห่วงน้องสาวที่เกิดจากเมียรองคนนี้เถอะ”
แววตาฉู่หมิงชุ่ยกลับกลายเป็นเยือกเย็น และพูดขึ้นว่า “เห็นมีพระชายาอ๋องฉู่ จะเกลียดชังข้าจริงๆ”
หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร? เมื่อกี้พระชายาฉีก็พูดเองว่า ยังไงพวกเราก็ถือเป็นครอบครัวเดียวกัน ข้าก็แค่พูดแล้วพระชายาฉีไม่ชอบฟังก็เท่านั้นเอง พระชายาฉีเจ้าก็อย่าโกรธเลย”
ฉู่หมิงหยางที่อยู่ด้านข้างดึงแขนฉู่หมิงชุ่ย พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่คุ้มกับสีปาก ไม่ควรที่จะไปสนใจสุนัข ยิ่งไปสนใจ ก็จะยิ่งถูกกัดไม่ปล่อย”
พูดเสร็จ ไม่รอให้หยวนชิงหลิงได้พูดอะไร ก็ดึงแขนฉู่หมิงชุ่ยไปแล้ว
ฉู่หมิงเฟิ่งยังไม่ได้สติกลับมา ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ฉู่หมิงหยางพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “ยังไม่รีบตามาหรือ? จะอยู่ที่นี่ให้สุนัขบ้ากัดหรือ? พวกนางเป็นหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก เจ้าก็จะไม่เอาหน้าแล้วหรือ?”
“เจ้าสิเป็นหมูตาย”ความฮึกสู้ของหยวนชิงผิงสู้กับฉู่หมิงหยาง ดูลดลงอย่างกะทันหัน จนเกือบติดลบ
หยวนชิงหลิงหันไปมองดูเงาแผ่นหลังของฉู่หมิงหยาง
คนคนนี้ เฉียบจริงๆ ร้ายกาจกว่าฉู่หมิงชุ่ยหลายเท่า
คนหัวแหลมอย่างนาง จะยอมเป็นพระชายารองของหยู่เหวินเห้าหรือ?
ยอมสิ หากมั่นใจว่าจะสามารถทำให้นางที่เป็นพระชายาอยู่คนนี้ตายได้แน่
หยวนชิงผิงมองดูเถ้าแก่ร้านขายเครื่องสำอาง ด้วยแววตาเฉียบคม
เถ้าแก่ร้านรีบพูดขึ้นอย่างรู้ตัวว่า “แม่นางวางใจ เรื่องในวันนี้ ข้าน้อยจะไม่พูดกับคนอื่นแม้เพียงประโยคเดียว”
หยวนชิงผิงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ทำไมไม่พูด? ต้องพูด อย่าให้ตกแม้แต่คำเดียว ใช่ว่าพวกเราจะกลัวอับอาย ชื่อเสียงจวนเจ้าพระยาจิ้ง เสื่อมเสียจนถึงโคลนตมแล้ว ยังจะกลัวใครว่าอะไรอีก? วันนี้ถือว่าเป็นการเอากระเบื้องแตกของเรากระทบเครื่องลายครามของนาง จำไว้ว่าต้องพูด หากพูดได้ไม่ตื่นเต้นข้าจะกลับมาหาเจ้า”
“ขอรับ ขอรับ ข้าน้อยรับทราบ”เถ้าได้เห็นถึงอารมณ์ร้ายปากจัดของนางเมื่อกี้ แล้วจะกล้ามีเรื่องกับนางหรือ รีบตอบรับในทันที
หยวนชิงหลิงเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
“เชิญพระชายากับแม่นางตามสบาย”เถ้าแก่ร้านพูดขึ้น
“ไปไหน?” หยวนชิงผิงพูดขึ้นว่า “ข้ายังไม่ได้ซื้อเครื่องแป้งเลย พี่ใหญ่ ข้าจะซื้อสองตลับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...