กองไฟถูกก่อขึ้น ทุกคนต่างก็ยุ่งขึ้นมา
พวกหญิงชราต่างก็ห่อเกี๊ยวอยู่ในห้องครัว พวกชายชราต่างก็ล้อมวงกันอยู่ข้างนอก ทั่วทั้งหอจัยซิง มีคนมากมาย
หยู่เหวินจี๋ยังคงนิ่งอยู่ข้างกายของสองสามีภรรยาอ๋องชินเฟิงอัน ผู้อาวุโสทั้งสามนั่งอยู่บนพื้น ฮ่องเต้ฮุยจงและองค์รัชทายาทก็หาตำแหน่งที่เหมาะสมในการนั่งได้แล้ว
ส่วนโพ่ตี้อวี้คนนั้นดูเหมือนจะไร้ความสนใจ ปิ้งย่างกินแล้วร้อนใน กลับไปไม่รู้ว่าต้องดื่มยาแก้ร้อนในอีกเท่าไหร่
พวกเขาเคยพูดคุยปรึกษากันถึงเรื่องการเมืองอย่างดุเดือด ตอนนี้ พวกเขาก็ยังคงพูดถึงการปกครองประเทศของหยู่เหวินเห้าเช่นกัน ว่าทำอย่างไรจึงเจริญ ทำอย่างไรให้รุ่งเรือง
ไม่ช้าก็ถูกแสงไฟและกลิ่นของเนื้อย่างขับไล่ออกไปทีละน้อย สิ่งที่วิญญาณโหยหามานานกลับมาแล้ว การกินยังคงแย่งกันกิน พอไม่ทันระวังตัว ก็แย่งกันมาชั่วชีวิตแล้ว
ตำหนักเสี้ยวเยว่ในวังหลวง
ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันแปดคนกินข้าวด้วยกัน ฮ่องเต้จิ่งเทียนนอนหลับแล้ว หยวนชิงหลิงได้ให้ยาบางอย่างร่วมด้วย ช่วงนี้เขาจะง่วงบ่อยอยู่บ้าง
หยู่เหวินเห้ากินไม่ลง กินไม่กี่คำก็วางตะเกียบลง
“ท่านพ่อ ท่านกังวลว่าพวกเขาจะก่อเรื่องวุ่นวายใช่หรือไม่ ระหว่างที่ข้าเดินทางกลับมา ก็ได้กำชับมาตลอด ไม่ให้พวกเขาออกไปเดินเพ่นพ่าน”
ทังหยวนพูดปลอบ
หยู่เหวินเห้าส่ายหน้า “ไม่ใช่ ไม่ใช่เรื่องนี้ ”
หยวนชิงหลิงถามว่า “แล้วเจ้ากังวลเรื่องอะไร”
หยู่เหวินเห้ามองไปทางหยวนชิงหลิง “เมื่อวานตอนที่ข้ากลับเข้าวัง สวีอีได้บอกกับข้าประโยคหนึ่ง เขาบอกว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่อ๋องชินเฟิงอันไม่ให้พวกเขากลับมา เพราะเกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถยอมรับเรื่องที่เพื่อนเก่าแก่ได้ตายจากไปหมดแล้ว”
ความคิดของหยวนชิงหลิงนั้นไม่แตกต่างจากเจ้าห้ามากนัก อยู่บนตำแหน่งที่สูงส่งมานานแล้ว ย่อมคิดแต่เรื่องภาพรวม และไม่ได้ติดดินเหมือนกับสวีอี ได้ยินคำพูดนี้แล้ว หยวนชิงหลิงเพิ่งจะรับรู้ว่า สาเหตุนี้เป็นไปได้มากที่สุด
ที่จริงสามารถรับรู้ได้ราวกับเป็นตนเอง
เพราะว่านางเคยจากไปช่วงระยะหนึ่ง แต่ว่ายังดี ตอนที่นางกลับมาทุกคนก็ยังอยู่
ถ้าหากโชคไม่ดีเช่นนั้น นางกลับมาหลังจากผ่านไปแล้วห้าสิบปี เกรงว่านางเองก็คงจะรับไม่ได้ เพื่อนที่ดีต่อกันในตอนนี้ ส่วนใหญ่ก็จากโลกนี้ไปแล้ว
นี่ช่างเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจอย่างรุนแรงมาก
“เข้าใจแล้ว พวกเราไปดูที่จวนอ๋องซู่กัน”หยู่เหวินเห้าพูด
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “อย่าเพิ่งไปชั่วคราว ให้พวกเขาได้รวมตัวกันก่อน ตอนนี้จวนอ๋องซู่ เกรงว่ากำลังพยายามค้นหาความรู้สึกในตอนนั้น พวกเขาไม่ต้องการให้คนนอกไปวุ่นวายหรือทำลายความรู้สึกเช่นนี้”
“เจ้าพูดถูก พวกเราไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกันกับพวกเขา”หยู่เหวินเห้ากุมมือนางเอาไว้ “พวกเราก็มีกลุ่มของพวกเรา มียุคสมัยของเรา ”
หยวนชิงหลิงยิ้ม แล้วมองไปทางลูกๆ “พวกเขา ก็มีกลุ่มของพวกเขา มียุคสมัยของพวกเขา”
ยุคแล้วยุคเล่า สืบทอดต่อกันไปเช่นนี้
รายงานที่พวกลูกๆนำกลับมาจากยุคปัจจุบัน หยวนชิงหลิงอ่านดูหลายรอบมาก
มีอยู่หนึ่งฉบับ เป็นการที่หยางหรูไห่ได้เอาตัวอย่างเลือดของจิ่งเทียนไปทำการศึกษาในการไหลเวียนเสมือนจริงของมนุษย์ ความเร็วในการไหลเวียนนั้นมีมากกว่าโครงสร้างพื้นฐานของกระบวนการสร้างและสลายในร่างคน แล้วก็เพิ่มความเร็วในการไหลเวียนขึ้น หนึ่งวันนั้นเท่ากับสองเดือน พอถึงวันที่สาม แมลงน้ำแข็งก็ค่อยๆตื่นขึ้นจากการจำศีล นั่นก็เท่ากับว่า เลือดของเจ้าห้า สามารถควบคุมได้หกเดือน
อีกอย่าง นี่ยังเป็นตัวเลขที่เป็นการประมาณการเท่านั้น ถ้าหากจิ่งเทียนใช้วรยุทธ หรือออกกำลังจะเพิ่มการสร้างและสลายเร็วขึ้น เช่นนั้นยาก็จะสลายตัวเร็วขึ้นไปอีก
หยวนชิงหลิงประมาณการอย่างระมัดระวัง ประมาณสี่เดือนกระมัง ก็ต้องถ่ายเลือดอีกครั้ง
แน่นอนว่า ถ้าหากภายในสี่เดือนสามารถวิจัยยาออกมาได้ ก็ไม่ต้องรบกวนเลือดของเจ้าอีก
หลายวันมานี้เจ้าห้าได้เกิดความรู้สึกที่สับสนชนิดหนึ่งต่อจิ่งเทียนขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนี้ในร่างกายของจิ่งเทียนมีเลือดของเขาไหลเวียนอยู่ใช่หรือไม่ และเป็นไปได้ว่าจิ่งเทียนได้แสดงให้เขาเห็นถึงความเลื่อมใสที่มีต่อเขา ทำให้เขารู้สึกว่าที่จริงแล้วเด็กคนนี้ก็ไม่เลวสักเท่าไหร่
แต่ว่า หยวนชิงหลิงบอกว่าเป็นเพราะเขาชื่นชมในการปกครองประเทศและความสามารถกับยุทธศาสตร์ของจิ่งเทียน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...