พวกเขาเข้าไปคำนับก่อน จากนั้นก็ออกไปพูดคุยกับสองสามีภรรยาอ๋องชินเฟิงอัน
พระชายาพูดว่า “พวกเขารู้ว่าเพื่อนและคนใกล้ชิดตั้งแต่สมัยก่อนต่างก็ตายกันไปมากแล้ว รู้สึกรับไม่ได้ในชั่วขณะ อารมณ์ค่อนข้างหม่นหมอง”
“แล้วจะทำอย่างไรดี”หยู่เหวินเห้าถาม รู้สึกเป็นห่วงมาก ไม่สามารถให้พวกเขาอยู่อย่างหมดสภาพเช่นนี้ต่อไปได้
“ข้าเพิ่งจะคุยกับเสด็จปู่ของเจ้าว่าจะพาไปเยี่ยมใต้เท้าจางสักครั้งดีหรือไม่ บางที อาจทำให้พวกเขาดีใจขึ้นมาบ้าง”
“ใต้เท้าจาง? ท่านจางหรือ ”หยู่เหวินเห้ารู้จักเขา เป็นขุนนางเก่าในกรมการพระนคร ได้เกษียณไปนานหลายปีแล้ว แต่ได้ยินว่าช่วงก่อนหน้านี้ได้เกิดอุบัติเหตุหกล้ม ก็นอนติดเตียงมาตลอด ไม่รู้ว่าตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้าง
ฮูหยินเฒ่าก็เคยไปรักษาเขา ให้ยาเพื่อปรับสมดุลร่างกาย แต่ว่า ที่สุดแล้วอายุก็มาก การหกล้มนั้นเป็นสิ่งที่รุนแรงมากสำหรับคนสูงอายุ
“อย่าให้พวกเขาไปจะดีกว่า คิดหาวิธีนำตัวใต้เท้าจางเถอะ” อ๋องชินเฟิงอันพูด
หลังจากออกไปแล้ว เกรงว่าจะไร้ทางควบคุมอารมณ์ได้
“ก็ได้ ทำตามนี้ก็แล้วกัน ”พระชายาพูดจบ ก็หันไปสั่งการ
หยู่เหวินเห้าได้ทำความเข้าใจกับอ๋องชินเฟิงอันชั่วครู่ จึงได้รู้ว่าเมื่อก่อนนั้นใต้เท้าจางกับฮ่องเต้ฮุยจงนับว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก่อน แม้จะไม่ถึงกับแน่นแฟ้นมาก แต่ในช่วงที่เกิดการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาท ใต้เท้าจางได้ช่วยเหลือไว้มากมาย
ที่สำคัญที่สุดคือใต้เท้าจางเป็นคนที่พูดจามีเหตุผลมาก บางทีอาจจะสามารถปลอบใจผู้อาวุโสทั้งสองที่ข้ามมิติเวลามาได้
พูดแล้วก็ลงมือทำทันที โดยมีเหล่าทหารอาวุโสของหอจัยซิงเป็นผู้ลงมือทำเอง ขบวนใหญ่ได้เคลื่อนไปยังจวนของใต้เท้าจาง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยามกว่า ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่เส้นผมขาวโพลนไปหมดแล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ปรมาจารย์ ถูกหามไว้ด้วยผู้อาวุโสของหอจัยซิงกลับมา
ฮ่องเต้ฮุยจงเห็นเขา ก็ก้าวเท้าเดินโซเซไปหาเขา สายตาของทั้งสองคนประสานกัน ฮ่องเต้ฮุยจงถึงกับทรุดตัวลงไปนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู
ท่านจางจ้องมองเขานิ่งๆเป็นเวลานาน เดิมทีคิดว่าคงไม่กล้ายอมรับ แต่ท่าทีที่ทรุดตัวนั่งลงไป ยังคงรู้สึกคุ้นเคยมาก
เขาน้ำตาไหลพรากออกมา มองไปทางอ๋องชินเฟิงอัน
อ๋องชินเฟิงอันพยักหน้าเบาๆ “อืม”
น้ำตาของท่านจางไหลนองหน้า ริมฝีปากสั่นเทาอยู่หลายครั้ง กว่าจะพูดออกมาได้ “พอจากกัน ก็เป็นเวลาหลายสิบปี ไม่คิดถึงว่าจะมีวันได้พบกันอีก”
เขาถูกหามเข้าไป แล้วก็เห็นองค์รัชทายาท ผู้อาวุโสทั้งสามร้องไห้กันขึ้นมา
บรรยากาศนี้ ช่างหนักอึ้งจริงๆ
หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงก็ไม่อาจจะทนอยู่ต่อไปได้ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม ก็จากไปแล้ว
แต่เมื่อถึงวันรุ่งขึ้น คนของจวนอ๋องซู่มารายงาน บอกว่าองค์รัชทายาทไม่ไหวแล้ว เชิญฮองเฮารีบไปดูอาการ
วันนี้เจ้าห้าต้องประชุมราชสำนัก ไม่อยู่ที่ตำหนักเสี้ยวเยว่ตั้งแต่เช้าแล้ว หยวนชิงหลิงรีบเดินทางไปที่จวนอ๋องซู่
ตอนที่หยวนชิงหลิงไปถึงหอจัยซิง องค์รัชทายาทได้หยุดหายใจไปแล้ว
เมื่อคืนเขานอนกับอ๋องผิงหนาน พ่อลูกคุยกันนานมาก เพิ่งจะนอนตอนยามจื่อ
แต่เมื่อถึงตอนเช้าวันนี้ ตอนที่อ๋องผิงหนานตื่นนอน เรียกเขาอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงรีบเรียกคนเข้ามา
องค์รัชทายาทได้จากไปตอนนอนหลับ จากไปอย่างสงบมาก
ฮ่องเต้ฮุยจงอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหล ยังยิ้มออกมาอีกด้วย “ก่อนหน้านี้เขาพูดมาตลอด ถ้าหากสามารถตายที่เป่ยถัง ชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจแล้ว ทำให้เขาสมปรารถนาแล้วจริงๆ”
เมื่อพูดจบ น้ำตาก็ไหลออกมา
ทุกคนต่างก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความเศร้าและหดหู่จากการจากไป ชายาเฟิงอันพูดกับหยวนชิงหลิงว่า“ที่จริง สุขภาพของเขาก็ไม่ดีมานานมากแล้ว หัวใจมีปัญหา ความดันโลหิตก็สูงมาก เขาสามารถอยู่ได้จนถึงตอนนี้ นับว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว”
“เขาได้แต่คิดจะกลับมาที่นี่อยู่ตลอด ”อ๋องชินเฟิงอันมองหยวนชิงหลิงแวบหนึ่ง “โชคดีที่พวกเด็กๆพาเขากลับมาด้วย ไม่เช่นนั้น ถ้าตายที่โน่น ความปรารถนาของเขาก็คงไม่สมหวัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...