บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1687

ยังมีของขวัญชิ้นหนึ่ง เป็นของเสด็จปู่ไท่ซ่างหวง แน่นอนว่ามีของฮู่เฟยด้วย

ของฮู่เฟยเป็นผ้าพันคอ ในหุบเขาช่วงเช้าเย็นจะค่อนข้างเย็น ถึงแม้ฮู่เฟยจะเป็นคนมีฝีมือการต่อสู้ แต่คนรุ่นหลังยังไงก็ต้องแสดงน้ำใจ

ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าฮู่เฟยขาดอะไร

ดังนั้น หลังจากทั้งห้าคนออกมาจากจวนอ๋องซู่ ก็มายังหมู่ตึกเหมย

ตอนนี้องค์ชายสิบไปอยู่ในค่ายทหารแล้ว ดังนั้นในหุบเขาจึงมีนายแค่สองคน

อาจเป็นเพราะใช้ชีวิตบนเขาอย่างสุขสบาย เดิมไท่ซ่างหวงผมขาวแล้ว ตอนนี้กลับดำแล้ว แลดูค่อนข้างหนุ่มขึ้น บางทีเหตุผลหลักคือเจ้าสิบสุดดื้อลงเขาไปแล้ว

ไท่ซ่างหวงเห็นหลานแล้วก็ดีใจมาก อายุมากแล้ว มีความต้องการหลานที่ว่าง่ายอยู่ข้างกาย

ไท่ซ่างหวงคิดมาตลอดว่าพวกเด็กๆอยู่ชายแดน หลังจากสละบัลลังก์ เขาสามารถทำได้ที่จะไม่ถามไถ่เรื่องในราชสำนักจริงๆ และก็ไม่ถามเรื่องอย่างอื่น

เขาเชื่อมั่นเจ้าห้า เชื่อมั่นราชสำนักในตอนนี้

การถามถือเป็นการก้าวก่าย เขาคาดหวังให้เจ้าห้าจะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ โดยไม่มีข้อกังขาใดๆ

ทั้งสองพ่อลูกไม่ได้เจอกันมาสักพักหนึ่งแล้ว ต่อให้เจอก็คุยกันเพียงไม่กี่คำ

กว่าที่พวกเขาจะมากันในวันนี้ ดังนั้นทั้งสองพ่อลูกจึงตั้งโต๊ะกันเอง ดื่มเหล้า พูดคุยกัน

“เสด็จพ่อใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ สบายดีไหม?” หยู่เหวินเห้าถามขึ้น

“สบายดีมาก” ไท่ซ่างหวงดื่มหนึ่งคำ สีหน้ายิ้มแย้ม มองดูรอบๆหุบเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานหลายปี คิดถึงเมื่อตอนที่อยู่ในวัง รู้สึกเหมือนไม่ใช่ชีวิตคน เจ้าลองนึกภาพ ตอนที่ข้าเป็นฮ่องเต้นั้น กลับไม่เคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกไหม?”

หยู่เหวินเห้าพยักหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ลูกก็เป็นฮ่องเต้แล้วถึงรู้ แต่ลูกยังคงหาเวลาดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก”

“เจ้าไม่เหมือนพ่อ เจ้ามีความสามารถมากกว่าพ่อ”

ตอนนั้น ตื่นเช้าทำงานจนค่ำ กดดันอย่างที่สุด ความสุขของการมีชีวิตสูญหายไปนานแล้ว ก่อนนอนทุกวันนึกถึงแต่เรื่องบ้านเมือง พอตื่นมาก็มีฎีกามากมายโยนมากอง ทำงานอย่างหนัก ไม่รู้วันรู้คืน

แม้ว่ามีอำนาจสูงสุด แต่เขาเป็นกษัตริย์ ไม่มีความเป็นตัวเองแต่แรกแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน