บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 179

ฉู่หมิงชุ่ยคุกเข่าลงที่พื้น ด้วยสีหน้าซีดขาว

คนฉลาดอย่างนาง ทำไมถึงไม่รู้ว่าเสด็จปู่จะเดินหมากแบบนี้?

ตอนนี้สำหรับเสด็จปู่นั้น นางได้กลายเป็นหมากที่ไร้ประโยชน์ไปแล้ว

นางรู้สึกเจ็บปวดทั้งทรวงอก และไม่สนใจอะไรแล้ว พลันถามขึ้นเสียงแข็ง: “เกรงว่าเป็นเสด็จต่างหาที่ไม่อยากให้ข้าอยู่ในตำแหน่งชายาอ๋องฉีแล้ว?ไม่ทราบว่าท่านปู่เลือกใครไว้?ใช่หมิงหยางหรือไม่?”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องนี้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ” โสว่ฝู่ฉู่พูดออกมาด้วยสีหน้านิ่งๆ

“เพราะอะไร?” ฉู่หมิงชุ่ยถามขึ้นอย่างเคียดแค้น: “ข้าเพียงแค่ทำผิดไปแค่เรื่องเดียว ทำไมเสด็จปู่ถึงทอดทิ้งข้า?ที่ข้าออกไปส่งโจ๊กข้างนอกก็เป็นคำสั่งของท่าน ถ้าหากบอกว่าต้องรับโทษ เสด็จต่างหากที่ควร.......”

คำว่า ตัวต้นเหตุของเรื่อง ได้เงียบลงทันที แม้ว่านางจะใจกล้าขนาดไหน แต่ก็ไม่กล้าพูดคำนี้ออกมา

แต่ว่าโสว่ฝู่ฉู่กลับพูดขึ้นเสียงแข็ง: “ตัวต้นเหตุของเรื่อง?ถูกต้อง ที่ให้เจ้าไปทำโจ๊กเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองนั้นล้วนแต่เป็นความคิดข้า แต่น่าเสียดายที่เจ้ากลับไม่สามารถทำสำเร็จแถมยังทำพลาดด้วย ให้เจ้าไปแจกโจ๊กตั้งหลายวัน คนในเมืองหลวงต้องช่วยกันพูดต่ออยู่แล้ว ทำไมเจ้าต้องไปหาฮูหยินเหลียงกับชายาอ๋องชินลุ่ยด้วย?ไม่ว่าจะทำอะไรเจ้ากลับมุ่งหาแต่ผลประโยชน์เท่านั้น เกรงว่าจะทำให้เจ้าเสียแรงเปล่า แล้วใช้โอกาสนี้ทำเพื่อตัวเอง ถ้าหากว่าเจ้าสามารถทำออกมาดี ก็คงไม่ต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์วันนี้ ตั้งแต่เรื่องไท่ซ่างหวงป่วย เจ้าก็ใช้ชื่อข้าไปข่มขู่แม่นมสี่ ตอนนั้นข้าก็อยากจะจัดการเจ้าแล้ว เพียงแต่เห็นว่าเจ้าเป็นหลานในไส้ จึงให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดาย เจ้ากลับไม่รู้จักรักษามัน พอเกิดเรื่องขึ้น เจ้ากลับหาข้ออ้างว่าตัวเองตั้งครรภ์เพื่อให้พ้นผิด โดยไม่มีรู้จักสำนึกเลยสักนิด เจ้าจะอยู่ในตำแหน่งพระชายาต่อไปได้อย่างไร?ข้าไม่มีทางให้เจ้าทำลายชื่อเสียงอ๋องฉีแน่นอน”

ฉู่หมิงชุ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุกข์ทรมาน “แต่ข้าเป็นหลานแท้ๆ ของท่านนะ ท่านคิดเผื่ออ๋องฉี แต่ทำไมไม่นึกถึงข้าบ้าง?”

โส่วฝู่ฉู่จ้องนาง “เพราะว่า อ๋องฉีเป็นหลานชายข้า และก็เป็นความหวังในอนาคตของข้าที่สามารถพึ่งได้”

ฉู่หมิงชุ่ยหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดเสียดสี “แต่น่าเสียดาย ที่ท่านต้องผิดหวังแล้ว คนโง่อย่างอ๋องฉี ไม่ได้สนใจในตำแหน่งรัชทายาท และเขาเองก็ไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นรัชทายาทด้วย”

โส่วฝู่ฉู่สีหน้าปกติมาก “นั่นมันก็เป็นพัฒนาการ จะโทษใครไม่ได้ ถ้าหากเขาไม่สามารถทำได้ ก็ต้องเป็นอ๋องฉู่”

โส่วฝู่ฉู่พูดจบ ก็ออกจากห้องตำราทันที แล้วเหลือเพียงฉู่หมิงชุ่ยที่ทุกข์ทรมานอย่างสาหัสคนเดียว

เดิมทีนั้นนางกลับมาที่บ้านก็เพื่อจะมาขอความช่วยเหลือ แต่ว่าที่แท้คนที่น่าแค้นมากที่สุดไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเสด็จปู่

ช่างน่าขันนัก

และที่ยิ่งน่าขันมากไปกว่านั้น เขายังบอกว่าถ้าอ๋องฉีเป็นไม่ได้ก็คงเป็นอ๋องฉู่

แต่ตอนแรกนั้นนางได้ยินว่าเขาจะสนับสนุนอ๋องฉีถึงที่สุด ถ้าหากว่าไม่ใช่ประโยคนี้ที่เขาพูดออกมา นางจะยอมยกพี่เห้าให้กับนังแพศยาหยวนชิงหลิงได้อย่างไร?

นางค่อยๆ เดินออกมา ด้านหน้าประตูมีคนรับใช้ของโส่วฝู่ฉู่เฝ้าอยู่

เขาพูดขึ้นด้วยสีหน้าไร้เยื่อใย: “พระชายา ใต้เท้าโส่วฝู่ฉู่กำชับว่า ให้ท่านทำตามที่ใต้เท้าสั่ง ใต้เท้ารับรองว่าสามารถรักษาตำแหน่งชายาของท่านได้อย่างแน่นอน”

ฉู่หมิงชุ่ยโมโหมาก จึงตบหน้าเขาไปอย่างแรง “สุนัขรับใช้ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดกับข้าแบบนี้?เจ้าเองก็ดูถูกข้าอย่างนั้นใช่หรือไม่?”

คนรับใช้ไม่ยอมหลบ จึงโดนเข้าเต็มๆ แต่สีหน้าก็ยังคงไร้อารมณ์เหมือนเดิม : “พระชายากลับดีๆ ขอรับ!”

ฉู่หมิงชุ่ยออกไปอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางกลับมา นางทั้งอึ้งและโมโห พยายามใช้ความคิดหาทางตอบกลับ แต่ก็คิดไม่ออก

นางไม่ได้โง่ที่คิดจะเป็นศัตรูกับเสด็จปู่

แต่ว่าถ้าหากเสด็จปู่ต้องการจะหาหญิงสาวในตระกูลฉู่มาแทนตำแหน่งพระชายาอ๋องฉีของนาง มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก

ก่อนลงรถม้า สีหน้าโมโหและเคียดแค้นเมื่อครู่นั้นนางได้ทิ้งไปหมดแล้ว พลันเปลี่ยนเป็นสีหน้าอ่อนโยนนุ่มนวล

นางสั่งให้สาวใช้ไปเอาซุปที่ห้องครัว แล้วยกไปให้อ๋องฉีด้วยตัวเอง

พออ๋องฉีมองเห็นนาง พลันนึกถึงคำที่นางพูดออกมาวันนี้ เขาก็เงียบไปทันที

ฉู่หมิงชุ่ยค่อยๆ เดินเข้ามา แล้ววางถ้วยซุปลงบนโต๊ะ จากนั้นก็นั่งลง พลางมองอ๋องฉี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน