บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1849

รุ่งเช้า พระอาทิตย์ขึ้น แสงส่องบนใบหน้าสีเทาผ่านหลังคาทรุดโทรม ทารกที่ปกคลุมไปด้วยเลือดถูกอุ้มออกมาจากหว่างขาของนาง เสียงร้องแรกที่ได้มายังโลกนี้ดังขึ้น

“พี่หลิว เป็นเด็กผู้ชาย” ผู้หญิงที่ถูกดึงเข้ามาช่วยอย่างกะทันหันพูดรายงานป้าหลิวด้วยความดีใจ

มุมปากที่เยือกเย็นของป้าหลิว ยักยิ้มเล็กน้อย ใช้ผ้าฝ้ายพันตัวเด็กทารก ไม่มองลูกสะใภ้คนโตที่เพิ่งเสียเลือดมากแล้วเสียชีวิตไปแม้แต่นิด เดินตรงออกมาจากในกระท่อม พร้อมพูดสั่งขึ้นว่า “เสี่ยวชุ่ย จัดการข้างในให้เรียบร้อย พวกเจ้า ไปพาตัวแพะที่จับมาเมื่อคืน ขึ้นเขาไปพร้อมกับพวกเรา”

“ได้”

เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็เห็นลูกสะใภ้คนเล็กของตนวิ่งมาอย่างร้อนใจ

“แม่ แม่ แพะหนีไปแล้ว ไม่เห็นสักคนแล้ว”

“อะไรนะ?”

เพิ่งตื่นตระหนกตกใจหาย ก็มีคนของตนเองวิ่งมารายงานว่า “พี่หลิว บนเขามีควันไฟฟุ้งกระจาย”

ป้าหลิวเบิกตาโต ความอาฆาตบังเกิด เอาหลานที่เพิ่งคลอดยกให้กับลูกสะใภ้เล็ก พร้อมตะโกนพูดขึ้นว่า “พวกพี่น้อง ไปเอาอาวุธมา แล้วตามข้าไป”

แหล่งกบดานเหลยถิง

ศพโจรในหมู่บ้านเกลื่อนกลาด อาจไม่ใช่ศพก็เป็นได้ เป็นเพียงขี้เถ้าในรูปของคนไปทั่วเท่านั้นเอง

เจ๋อหลานกำลังนั่งอยู่หน้าประตู จิ่งเทียนยืนอยู่ด้านข้าง มู่โถวกับเหลิ่งหมิงหยู่นั่งข้างหลังพวกเขา และกำลังเกลี้ยกล่อมทารกน้อยที่พวกเขาช่วยมาเมื่อคืน

ในหมู่บ้านไม่มีนมแพะ พวกเขาจึงต้องขึ้นมาหาบนเขา

บนเขาก็ไม่มีนมแพะ แต่มีหญิงเพิ่งคลอดลูก กำลังอยู่เดือนได้ไม่นาน

“นางว่าง่ายมาก ดื่มอิ่มแล้วก็เป่าฟอง อย่าร้องไห้และก็ไม่โวยวาย” มู่โถวอุ้มชีวิตน้อยๆไว้ในอ้อมกอด ตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้แล้ว

เหลิ่งหมิงหยู่ใช้นิ้วมือแหย่นิ้วก้อยของนางอย่างทะนุถนอม ทั้งนุ่มทั้งละมุน เขากะพริบตาพร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเราตั้งชื่อให้นางดีไหม”

“ดีๆ” มู่โถวพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เขาเป่ายิ้งฉุบชนะ เขาจึงพูดขึ้นอย่างมีอำนาจว่า “ในเมื่อทุกคนต่างเห็นด้วยที่จะให้นางเป็นน้องสาวของข้า งั้นพี่ชายคนโตของข้าชื่อหนิงจู้จื่อ พี่ชายคนรองชื่อหนิงซือโถว พี่ชายสามชื่อหนิงจวงจื่อ ข้าชื่อหนิงมู่โถว น้องสาวพิเศษหน่อย ชื่อหนิงเห้าจื่อเป็นไง”(เห้าจื่อหมายความว่าหนู)

เสียงเขกหัวดังขึ้น หนิงหงเจาที่ไปเผาไฟเสร็จกลับมา หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “สร้างปัญหาให้กับทุกคนแล้ว”

“คุณชายตีข้าอีกแล้ว” มู่โถวน้อยใจมาก และกำลังอุ้มน้องสาวอยู่ไม่สามารถเอามือกุมหัวได้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็น้องสาวเหมือนเห้าจื่อนี่”

หนิงหงเจาปาดเหงื่อ หมัดขยับไปใกล้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ยังจะพูดอีก?”

มู่โถวหลบอยู่ข้างหลังเจ๋อหลาน พร้อมพูดขึ้นอย่างงึมงำว่า “ข้าไม่พูด ข้าไม่พูดแล้ว”

เจ๋อหลานลูบหัวของเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “รอน้องสาวของเจ้าโตก็จะไม่เหมือนเห้าจื่อแล้ว ตอนนี้นางยังเล็กมาก”

จิ่งเทียนหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “มู่โถว ผู้หญิงก็ต้องตั้งชื่อให้น่าฟังหน่อย แบบนี้ยิ่งโตก็จะยิ่งสวย เจ้าดูชื่อเจ้าหญิงเจ๋อหลานสิ น่าฟังจะตาย ชื่อเล่นเรียกว่ากวาจื่อน่ารักจะตาย”

“พวกเจ้าคือ คือ...”

ยังพูดไม่เสร็จ พวกคนที่อยู่ข้างหลังของนางก็ถูกไฟไหม้ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถดับไฟได้ ทำได้เพียงตายไปด้วยความสิ้นหวังภายใต้เสียงกรีดร้อง

รอพวกนางกลายเป็นเถ้าถ่าน มู่โถวค่อยเอามือที่ปิดหูเสี่ยวฮวาออก มองเห็นเสี่ยวฮวาไม่ถูกรบกวนจนตื่น เขากับเหลิ่งหมิงหยู่ค่อยโล่งอก

เวลานี้เสี่ยวฮวาขมวดคิ้ว ร้องงึมงำสองที

มู่โถวกระวนกระวายขึ้นมาทันที พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “เสี่ยวฮวาไม่ต้องกลัว คนชั่วกลายเป็นขี้เถ้าหมดแล้ว ต่อไปเจ้าสามารถเติบโตได้อย่างมีความสุข”

เหลิ่งหมิงหยู่ก็ยกมือ พร้อมพูดขึ้นอย่างทะนุถนอมว่า “มีพี่ชายมากมายที่รักเจ้า ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว”

มองดูเด็กสองคนกำลังกล่อมทารก เจ๋อหลานกับจิ่งเทียนมองตากัน เห็นรอยยิ้มของกันและกัน

เวลานี้ ฟินิกซ์ลุกเป็นไฟบินอยู่บนท้องฟ้า ตกลงที่ประตูหมู่บ้าน ชายผู้แข็งแกร่งหลายร้อยคนที่แต่งตัวเป็นโจรภูเขา ผุดขึ้นมาจากด้านหลังหมู่บ้าน คุกเข่าตรงหน้าพวกจิ่งเทียน

จิ่งเทียนพูดสั่งหนิงหงเจาว่า “ดูแลจัดการผู้หญิงและเด็กในหมู่บ้านก่อน”

โชคดีที่ก่อนหน้านี้เตรียมพร้อมว่าจะไม่เก็บโจรภูเขาในแหล่งกบดานเหลยถิงไว้ ให้ทหารแคว้นจินแบ่งกันแทรกเข้ามาเป็นชุดๆก่อน เมื่อวานน้องฟีนิกซ์ไปส่งจดหมายด้วยตนเอง ตอนนี้คนก็มาทันพอดี

ภูเขาพีลี่นี้จะให้คนของเป่ยโม่เฝ้าไม่ได้แล้ว ให้คนของตนเองดูแลถึงใจดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน