บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1857

สรุปบท บทที่ 1857 เรื่องของซาลาเปา: บัลลังก์หมอยาเซียน

ตอน บทที่ 1857 เรื่องของซาลาเปา จาก บัลลังก์หมอยาเซียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1857 เรื่องของซาลาเปา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่เขียนโดย ลิ่วเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

การแต่งงานของพี่หญิงหยวน มีการกำหนดแผนการไว้นานแล้ว

แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้จัดพิธี แต่พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายต่างก็มีความเห็นพ้องกันโดยปริยาย และพี่หญิงหยวนก็ดูจะชอบพี่หู่มากเช่นกัน

ดังนั้น เจ้าห้าจึงอดใจไม่ได้ที่จะคุยเรื่องนี้กับหยวนชิงหลิง คุยไปพลางก็บ่นไปพลางว่า "เจ้าว่าตอนนี้พี่หญิงหยวนเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง? ก็เริ่มเตรียมสินเดิมเจ้าสาวกันให้วุ่นแล้ว จะเตรียมก็เตรียมกันไปสิ เตรียมกันแบบเงียบ ๆ หน่อยไม่ได้หรือไร ? ทำไมจะต้องพูดออกมาให้บรรยากาศมันตึงเครียดกังวลไปหมดด้วย พูดจนทำให้ข้ารู้สึกจิตตกไปด้วยแล้ว”

หยวนชิงหลิงพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้พวกเราไม่รีบร้อน เมื่อสองวันก่อน ฮูหยินเหยาถึงขั้นมาคุยกับข้าเรื่องของซาลาเปา ว่าเขาเป็นถึงองค์ชายรัชทายาท ไม่ใช่ว่าควรจะเริ่มคัดเลือกเพื่อกำหนดตัวพระชายารัชทายาทก่อนได้แล้วหรอกหรือ?"

“อันที่จริงเรื่องนี้ก็หารือกับราชสำนักมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ใคร ๆ ก็บอกให้ข้าระงับเอาไว้ก่อน” การที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของรัชทายาทล่าช้าออกไป ก็เพราะสาเหตุนี้นี่เอง

แต่หยู่เหวินเห้ารู้ว่า เวลาที่คนอื่นพูด ไม่แน่ว่าเจ้าหยวนจะเก็บมาใส่ใจเท่าไหร่ แต่ถ้าฮูหยินเหยาเป็นคนพูด นางมักจะเก็บมาพิจารณาเสมอ

ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับเจ้าหยวนเงียบ ๆ แล้วถามออกไปตรง ๆ ว่า "เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างไร?"

“ที่ข้าคิดคือ อายุน้อยเกินไปแล้วแต่งงานไม่ใช่เรื่องดี”

แต่นางก็เข้าใจอยู่ ว่าหากมีการกำหนดตำแหน่งพระชายารัชทายาทออกมาได้เร็วสักหน่อย จะมีผลดีต่อความมั่นคงของสถานการณ์ภายในราชสำนัก

เป็นเพราะว่า เปาเอ๋อนั้นไม่ว่าในแง่ของบุคลิกภาพหรือรูปลักษณ์ ก็ล้วนจัดว่าเป็นชั้นหนึ่งไม่เป็นสองรองใคร มีขุนนางหลายคนที่หมายตามองอยู่ แอบสร้างความสัมพันธ์ลับหลัง คิดจะส่งรายชื่อลูกสาวของตัวเองไปอยู่ตรงหน้าเขา

เพื่อเรื่องนี้ จึงเกิดมีปัญหามากมายขึ้นมาพอสมควรทีเดียว

เมื่อไม่นานมานี้หยวนชิงผิงได้เข้าวัง มาเล่าให้ฟังว่ากู้ซือกลับมาบ้านแล้วบ่นไปหลายประโยค ว่ามีคนคิดจะสร้างความสัมพันธ์ในกองทัพ คิดจะแอบส่งลูกสาวมาที่ค่ายทหาร เพื่อจะสร้างโอกาสให้ได้พบกับเปาเอ๋อโดยบังเอิญ

แนวโน้มของเรื่องนี้จึงยิ่งมีทีท่าว่าจะเลวร้ายลงไปทุกขณะ

ค่ายทหารเป็นพื้นที่หวงห้ามเฉพาะ คนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าไปได้

ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิง ต่อให้เป็นขุนนางในราชสำนัก จะเข้าไปในค่ายทหารก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

การกระทำที่ประมาทเลินเล่อเช่นนี้ แสดงว่าไม่ได้เห็นความสำคัญของวินัยทหารอยู่ในสายตา

แต่เพราะเหตุนี้จึงทำให้เห็นได้ว่า มีคนจำนวนมากที่โลภตำแหน่งพระชายารัชทายาท ดังนั้น จึงทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ ยอมแหกกฎเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมาย

ราชสำนักไม่เคยสงบนิ่งอย่างแท้จริง ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจ จำเป็นต้องถูกเคาะ ๆ เตือนสติให้ตื่นรู้อยู่เสมอ

ยังโชคดีที่เด็กๆ ทั้งเชื่อฟังว่าง่ายและรู้ความยิ่งนัก ช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองหลวง ขอเพียงเจ้าห้ากลับมาจากราชสำนัก พวกเขาก็มักจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่เสมอๆ

เวลาที่พ่อยุ่ง ๆ พวกเขาก็จะเดินไปรอบ ๆ เมืองหลวงเพื่อสังเกตความเป็นอยู่ของประชาชน

การเดินเตร่ในลักษณะนี้ ก็มีผลดีเช่นกัน ซาลาเปาได้รู้จักเพื่อนบางคนซึ่งเป็นนักเรียนที่จะไปสอบที่เมืองหลวง พวกเขาพักอยู่ในโรงเตี๊ยมเกาเซิง นอกจากอ่านหนังสือแล้ว พวกเขายังไปนั่งในร้านน้ำชาฟังเรื่องเล่าใหม่ ๆ ทุกวัน

พวกเขาจะมาพบปะรวมตัวกันเป็นครั้งคราว เพื่อถกกันเกี่ยวกับคำถามที่เอินเคอน่าจะออกสอบ

* ( อธิบายเพิ่มเติม เอินเคอหมายถึงระบบการสอบในสมัยโบราณ จัดขึ้นเพื่อเปิดรับนักวิชาการผู้มีความรู้ มีปรากฏคำเรียกนี้ในสมัยราชวงศ์ซ่ง)

ซาลาเปาก็ชอบไปร้านน้ำชาเพื่อฟังเรื่องเล่าเช่นกัน เพราะบางเรื่องถูกแต่งขึ้นมา แต่ก็มีบางเรื่องที่ได้รับการแก้ไขและดัดแปลงใหม่ โดยอิงจากการเหตุการณ์จริงที่น่าตื่นเต้นในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งยังมีโอกาสได้ฟังความรู้สึกของชาวบ้านร้านตลาดด้วย

เนื่องจากซาลาเปาได้ฟังมามาก จึงพอจะพูดเสริมได้นิดหน่อย เขามักจะพูดถึงข้อมูลเชิงลึกที่รู้มา ซึ่งดึงดูดความสนใจของพวกนักเรียนได้เป็นธรรมดา

หลังจากนั้นสองสามวันต่อมา ก็ได้รู้จักกับเพื่อนที่เป็นนักวิชาการอีกหลายคน ร่วมดื่มชาแลกเปลี่ยนความรู้กับพวกเขา มีความสุขอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน