แต่เพียงไม่นาน พวกเขาก็ได้รู้ว่าภาพวาดของนักเรียนเปานั้นไม่ธรรมดาเลย เขาเชื้อเชิญเพื่อน ๆ ทั้งหลายมา วาดภาพสะบัดพู่กันให้ดูต่อหน้า และแล้วภาพวาดเทศกาลโคมไฟที่คึกคักประดุจดั่งเมืองหลวงมีชีวิตขึ้นมาได้จริง ก็ปรากฏขึ้นให้เห็นอย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นถนนที่พลุกพล่าน ฝูงชนที่มีชีวิตชีวา ร้านค้าที่คลาคล่ำไปด้วยสินค้า เหมือนวิถีชีวิตคนที่สามารถพบเห็นได้ในยามปกติ
ทั้งห้าคนไม่กล้าหายใจแรงแม้แต่เฮือกเดียว เพราะหลังจากพวกเขาได้เห็นการลงนามในผลงานด้วยชื่อจริงว่า หยู่เหวินหลี่ ในใจถึงค่อยเกิดความรู้สึกว่ามันคือเรื่องจริง
บนหลุมฝังศพของบรรพบุรุษตอนนี้ คงจะมีควันสีเขียวผุดลอยโขมงขึ้นมาแล้วเป็นแน่
*( สำนวนที่ว่า ควันเขียวผุดจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ เป็นสำนวนจีนที่หมายถึงผู้มีความดีความชอบหรือไม่ก็เป็นขุนนางใหญ่ แต่มีเรื่องให้ถูกว่าร้ายถากถาง หรือมีคำครหาไม่น่าเชื่อถือ)
ซาลาเปาวางพู่กัน ยกยิ้มเล็กน้อย "หวังว่าทุกท่านจะได้รับคะแนนที่ดีในการสอบเอินเคอนะ"
หลังจากกลั้นหายใจแล้ว ทุกคนก็อธิษฐานร่วมกัน
ก่อนการสอบชิวเหวย *(เป็นชื่อการสอบในระดับเขตการปกครอง และระดับท้องถิ่น เนื่องจากช่วงสอบเป็นฤดูใบไม้ร่วงและเดือนสิงหาคม จึงเรียกอีกอย่างว่าชิวเหวย ) มีการจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของรัชทายาท ครั้งนี้ ราชสำนักได้ประกาศอย่างเป็นทางการต่อคนทั้งแผ่นดิน ว่าหยู่เหวินหลี่เป็นรัชทายาท
ในส่วนของสมัญญานามได้กำหนดไว้นานแล้ว แต่ในพิธีราชาภิเษกครั้งนี้ มีการนิรโทษกรรมนักโทษทั่วแผ่นดิน เพื่อให้คนทั้งประเทศร่วมกันเฉลิมฉลอง
งานครั้งนี้จัดอย่างเร่งรีบ แต่โชคยังดีที่พอจะมีราชวงศ์จากประเทศอื่นอยู่ในเมืองหลวง สามารถเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองได้
แม้แต่แคว้นต้าซุ่นก็มีเจ้าหญิงเฉาหยางมาร่วมด้วยองค์หนึ่ง บอกว่ามาเพื่อชมความคึกคักของเมืองหลวงแห่งเป่ยถัง จึงเชื้อเชิญมาร่วมชมพิธี แต่สาวใช้ข้างกายที่เจ้าหญิงเฉาหยางพามาด้วยเฝ้าคอยปกป้องนางไม่ห่าง ไม่ยอมให้นางเข้าใกล้เชื้อพระวงศ์ของเป่ยถังมากเกินไป
รัชทายาทองค์ใหม่รับการแต่งตั้งยศ ยามนี้ประเทศสงบร่มเย็น ประชาชนปลอดภัย ลมฟ้าอากาศดินน้ำอุดมสมบูรณ์ ทรัพย์สมบัติเต็มพระคลัง ฝ่าบาททรงมีดำรัสให้ลดภาษีเป็นเวลาสองปี รัชทายาททรงเพิ่งรับตำแหน่ง ก็ทรงครองใจทวยราษฎร์ไปแล้ว
อันที่จริงเรื่องการลดภาษี ได้ก็มีการพูดคุยหารือกันมานานมากแล้ว เจ้าห้าตั้งใจว่าจะรอจนกว่าจะถึงพระราชพิธีแต่งตั้งรัชทายาทก่อนถึงค่อยประกาศ แน่นอนว่าจะใช้เป็นการซื้อใจราษฎรให้แก่รัชทายาท
ฮ่องเต้ผู้สืบราชสันตติวงศ์ยังคงดำเนินนโยบาย เมตตากรุณาและรักประชาชนดั่งลูกหลาน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย และมีความมั่นใจในราชสำนักมากขึ้น
คณะทำงานของหยู่เหวินหลี่ในปีนี้ ดูไปแล้วเหมือนว่าความกดดันจะน้อยลงมาก แต่ในความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ตอนนี้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยมั่งคั่ง การจะรักษาความเจริญรุ่งเรืองนี้ไว้เป็นสิ่งที่ยากมาก ยิ่งพัฒนาก้าวต่อไปยิ่งยากกว่า เนื่องจากการพัฒนาได้เข้าสู่สภาวะคอขวดไปแล้ว หากคิดจะฝ่าฟันจนข้ามขีดจำกัดไป จำเป็นต้องพยายามให้มากขึ้น
พิชิตใต้หล้าว่ายากแล้ว ปกครองใต้หล้ายิ่งยากกว่า หมายความตามนั้นทุกประการ
หยู่เหวินหลี่ไม่ได้กลับค่ายทหาร ซึ่งต่างจากความคิดเดิมของเจ้าห้าเล็กน้อย แต่อู๋ซ่างหวงบอกว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ไม่ต้องกลับไปค่ายทหารแล้วก็ได้ ให้จัดตั้งคณะทำงานภายในราชสำนัก ขนาดเล็กสักชุด เพื่อให้เขามาช่วยจัดการธุระภายในของราชสำนัก
เดิมที หยู่เหวินเห้าไม่เห็นด้วยกับการจัดพิธีแต่งตั้งรัชทายาทที่รวดเร็วขนาดนี้ เพราะอยากระงับเรื่องการแต่งงานของรัชทายาทไว้ก่อน ให้เขามีเวลาไปทำความรู้จักเด็กผู้หญิงให้ดี เขาเป็นฮ่องเต้ที่ได้เรียนรู้อารยธรรมของโลกสมัยใหม่คนหนึ่ง รู้สึกว่าความรักที่เลือกเองอย่างอิสระ จะเป็นความรักที่เชื่อถือได้มากกว่า
เขาหวังว่าภรรยาในอนาคตของลูกชาย จะเป็นคนที่ลูกตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...