บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1867

แต่เพียงไม่นาน พวกเขาก็ได้รู้ว่าภาพวาดของนักเรียนเปานั้นไม่ธรรมดาเลย เขาเชื้อเชิญเพื่อน ๆ ทั้งหลายมา วาดภาพสะบัดพู่กันให้ดูต่อหน้า และแล้วภาพวาดเทศกาลโคมไฟที่คึกคักประดุจดั่งเมืองหลวงมีชีวิตขึ้นมาได้จริง ก็ปรากฏขึ้นให้เห็นอย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นถนนที่พลุกพล่าน ฝูงชนที่มีชีวิตชีวา ร้านค้าที่คลาคล่ำไปด้วยสินค้า เหมือนวิถีชีวิตคนที่สามารถพบเห็นได้ในยามปกติ

ทั้งห้าคนไม่กล้าหายใจแรงแม้แต่เฮือกเดียว เพราะหลังจากพวกเขาได้เห็นการลงนามในผลงานด้วยชื่อจริงว่า หยู่เหวินหลี่ ในใจถึงค่อยเกิดความรู้สึกว่ามันคือเรื่องจริง

บนหลุมฝังศพของบรรพบุรุษตอนนี้ คงจะมีควันสีเขียวผุดลอยโขมงขึ้นมาแล้วเป็นแน่

*( สำนวนที่ว่า ควันเขียวผุดจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ เป็นสำนวนจีนที่หมายถึงผู้มีความดีความชอบหรือไม่ก็เป็นขุนนางใหญ่ แต่มีเรื่องให้ถูกว่าร้ายถากถาง หรือมีคำครหาไม่น่าเชื่อถือ)

ซาลาเปาวางพู่กัน ยกยิ้มเล็กน้อย "หวังว่าทุกท่านจะได้รับคะแนนที่ดีในการสอบเอินเคอนะ"

หลังจากกลั้นหายใจแล้ว ทุกคนก็อธิษฐานร่วมกัน

ก่อนการสอบชิวเหวย *(เป็นชื่อการสอบในระดับเขตการปกครอง และระดับท้องถิ่น เนื่องจากช่วงสอบเป็นฤดูใบไม้ร่วงและเดือนสิงหาคม จึงเรียกอีกอย่างว่าชิวเหวย ) มีการจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของรัชทายาท ครั้งนี้ ราชสำนักได้ประกาศอย่างเป็นทางการต่อคนทั้งแผ่นดิน ว่าหยู่เหวินหลี่เป็นรัชทายาท

ในส่วนของสมัญญานามได้กำหนดไว้นานแล้ว แต่ในพิธีราชาภิเษกครั้งนี้ มีการนิรโทษกรรมนักโทษทั่วแผ่นดิน เพื่อให้คนทั้งประเทศร่วมกันเฉลิมฉลอง

งานครั้งนี้จัดอย่างเร่งรีบ แต่โชคยังดีที่พอจะมีราชวงศ์จากประเทศอื่นอยู่ในเมืองหลวง สามารถเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองได้

แม้แต่แคว้นต้าซุ่นก็มีเจ้าหญิงเฉาหยางมาร่วมด้วยองค์หนึ่ง บอกว่ามาเพื่อชมความคึกคักของเมืองหลวงแห่งเป่ยถัง จึงเชื้อเชิญมาร่วมชมพิธี แต่สาวใช้ข้างกายที่เจ้าหญิงเฉาหยางพามาด้วยเฝ้าคอยปกป้องนางไม่ห่าง ไม่ยอมให้นางเข้าใกล้เชื้อพระวงศ์ของเป่ยถังมากเกินไป

รัชทายาทองค์ใหม่รับการแต่งตั้งยศ ยามนี้ประเทศสงบร่มเย็น ประชาชนปลอดภัย ลมฟ้าอากาศดินน้ำอุดมสมบูรณ์ ทรัพย์สมบัติเต็มพระคลัง ฝ่าบาททรงมีดำรัสให้ลดภาษีเป็นเวลาสองปี รัชทายาททรงเพิ่งรับตำแหน่ง ก็ทรงครองใจทวยราษฎร์ไปแล้ว

อันที่จริงเรื่องการลดภาษี ได้ก็มีการพูดคุยหารือกันมานานมากแล้ว เจ้าห้าตั้งใจว่าจะรอจนกว่าจะถึงพระราชพิธีแต่งตั้งรัชทายาทก่อนถึงค่อยประกาศ แน่นอนว่าจะใช้เป็นการซื้อใจราษฎรให้แก่รัชทายาท

ฮ่องเต้ผู้สืบราชสันตติวงศ์ยังคงดำเนินนโยบาย เมตตากรุณาและรักประชาชนดั่งลูกหลาน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย และมีความมั่นใจในราชสำนักมากขึ้น

คณะทำงานของหยู่เหวินหลี่ในปีนี้ ดูไปแล้วเหมือนว่าความกดดันจะน้อยลงมาก แต่ในความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น

ตอนนี้ประเทศเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยมั่งคั่ง การจะรักษาความเจริญรุ่งเรืองนี้ไว้เป็นสิ่งที่ยากมาก ยิ่งพัฒนาก้าวต่อไปยิ่งยากกว่า เนื่องจากการพัฒนาได้เข้าสู่สภาวะคอขวดไปแล้ว หากคิดจะฝ่าฟันจนข้ามขีดจำกัดไป จำเป็นต้องพยายามให้มากขึ้น

พิชิตใต้หล้าว่ายากแล้ว ปกครองใต้หล้ายิ่งยากกว่า หมายความตามนั้นทุกประการ

หยู่เหวินหลี่ไม่ได้กลับค่ายทหาร ซึ่งต่างจากความคิดเดิมของเจ้าห้าเล็กน้อย แต่อู๋ซ่างหวงบอกว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ไม่ต้องกลับไปค่ายทหารแล้วก็ได้ ให้จัดตั้งคณะทำงานภายในราชสำนัก ขนาดเล็กสักชุด เพื่อให้เขามาช่วยจัดการธุระภายในของราชสำนัก

เดิมที หยู่เหวินเห้าไม่เห็นด้วยกับการจัดพิธีแต่งตั้งรัชทายาทที่รวดเร็วขนาดนี้ เพราะอยากระงับเรื่องการแต่งงานของรัชทายาทไว้ก่อน ให้เขามีเวลาไปทำความรู้จักเด็กผู้หญิงให้ดี เขาเป็นฮ่องเต้ที่ได้เรียนรู้อารยธรรมของโลกสมัยใหม่คนหนึ่ง รู้สึกว่าความรักที่เลือกเองอย่างอิสระ จะเป็นความรักที่เชื่อถือได้มากกว่า

เขาหวังว่าภรรยาในอนาคตของลูกชาย จะเป็นคนที่ลูกตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน