บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1868

สรุปบท บทที่ 1868 เจ้าอยากให้ข้าเป็นทรราช: บัลลังก์หมอยาเซียน

อ่านสรุป บทที่ 1868 เจ้าอยากให้ข้าเป็นทรราช จาก บัลลังก์หมอยาเซียน โดย ลิ่วเยว่

บทที่ บทที่ 1868 เจ้าอยากให้ข้าเป็นทรราช คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย จีน บัลลังก์หมอยาเซียน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หยู่เหวินหลี่คิดว่า ในเมื่อพวกน้องชายน้องสาวยังอยู่ในเมืองหลวง อย่างไรพวกเขาก็ต้องออกไปเที่ยวเล่นกันบ่อย ๆ อยู่แล้ว ก็ถือโอกาสพาเจ้าหญิงเฉาหยางไปด้วยก็ไม่เลว

ติดอยู่แค่ว่านาง...... หยู่เหวินหลี่อดลอบมองนางอีกครั้งไม่ได้ รู้สึกว่าเคยเห็นนางจากที่ไหนสักแห่ง? หน้าตาช่างดูคุ้นเคยอะไรอย่างนี้

ขณะที่กำลังคุยกันอยู่ เจ้าหมาป่าของซาลาเปาก็เดินวางมาดใหญ่โตเข้ามาในห้องโถง

เจ้าหญิงเฉาหยางได้เห็นหมาป่าซาลาเปา ก็ส่งเสียงร้องเรียกอย่างยินดี รีบพุ่งเข้าไปกอดเจ้าหมาป่าซาลาเปาแบบเต็มรัก “พี่หมาป่าซาลาเปา ข้าคิดถึงเจ้าแทบตายแล้ว”

ครั้งนี้หยวนชิงหลิงไม่ได้หยุดนางไว้ ภายใต้สายตาที่สงสัยเคลือบแคลงของลูกชายที่มองดู นางทำได้แค่หลุดยิ้มกระอักกระอ่วนออกมาเท่านั้น

การตอบสนองของหมาป่าซาลาเปาก็ดูตื่นเต้นยินดีมากเช่นกัน มันกดอุ้งเท้าลงไปบนไหล่ของเจ้าหญิงเฉาหยาง หัวโน้มลงต่ำตลอด ส่งเสียงที่ฟังแล้วรู้ได้ทันทีว่ามีความสุขมาก

หยู่เหวินหลี่มองดูภาพฉากนี้ ทั้งได้เห็นภาพจิ้งจอกสีแดงเพลิงบนกระโปรงของเจ้าหญิงเฉาหยางซึ่งกางแผ่สยายอยู่บนพื้น ทันใดนั้น เขาก็เหมือนจะตระหนักถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ความคิดคำนึงหมุนวนกลับไปกลับมา ในใจพลันเจ็บหน่วง ที่แท้เจ้าตาทับทิมก็กลับมาแล้ว

เจ้าตาทับทิมยังถึงกับเปลี่ยนร่างเป็นเด็กสาวคนหนึ่งอีกด้วย

แต่ว่าแม่ไม่ได้บอกเขาเอง ถ้าอย่างนั้นเขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไปก่อนแล้วกัน

อันที่จริงแล้วในใจเขารู้สึกตื่นเต้นยินดีมาก แต่ตอนนี้เขาแค่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างแม่ มองดูเจ้าตาทับทิมกับหมาป่าซาลาเปากอดกันกลม ยังยิ้มให้แล้วพูดขึ้นด้วยว่า "คิดไม่ถึงว่าเจ้าหญิงเฉาหยางจะชอบเจ้าหมาป่าหิมะขนาดนี้"

ในใจของลูกชายคิดอะไรอยู่ คนเป็นแม่ย่อมรู้ดีที่สุด นางหันหน้าไปมองลูกชาย ในใจรู้สึกชื่นชมอย่างมาก เพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง? ก็ฝึกฝนตัวเองจนไปถึงขั้นที่พบเจอความสุขหรือโกรธเคืองก็ไม่แสดงออกทางสีหน้าได้แล้ว

ถ้าเป็นเด็กในครอบครัวคนธรรมดา แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แต่เพราะเขาต้องเป็นฮ่องเต้ในอนาคต จะปล่อยให้คนอื่นมองออกว่าเขาคิดอะไรอยู่ไม่ได้เด็ดขาด

นางยื่นมือออกไป จับมือของลูกชายไว้มั่น “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“มีความสุข” หยู่เหวินหลี่มองแม่แล้วยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่สดใสเจิดจ้าเสียจนทำให้ทุกอย่างในห้องโถงดูไร้สีสันไปโดยปริยาย

หยวนชิงหลิงตบ ๆ ที่หลังมือลูกชายเบา ๆ จากนั้นก็จับไว้ด้วยกันจนแน่น "มีความสุขก็ดีแล้ว"

“พี่ใหญ่มีเรื่องอะไรดี ๆ ถึงได้มีความสุขหรือ?”

ทันทีที่เสียงอันไพเราะอ่อนหวานดังขึ้น ก็เห็นเจ๋อหลานซึ่งแต่งกายด้วยชุดผ้าต่วนลายริ้วเมฆสีเหลืองอ่อนเดินเข้ามาในห้องโถง

ผมของนางถูกรวบเป็นมวยง่าย ๆ แล้วมัดด้วยเชือกรัดผมสีชมพู สายเชือกรัดสีชมพูทิ้งตัวลงมาจากทั้งสองข้าง คลอเคลียอยู่ระหว่างติ่งหูของนาง ใบหน้าอ่อนเยาว์ขาวผ่องผุดผาดดูมีสง่า ใต้ตาเป็นประกายมีการแต่งสีออกดำ รอยยิ้มกว้างแผ่ไปทั่วใบหน้าอันงดงาม ที่หว่างคิ้วมีการวาดรูปดอกเหมยลงไป แต่งหน้าเป็นสีแดงอ่อน ๆ ซึ่งช่วยขับเน้นให้ผิวยิ่งดูขาวพิสุทธิ์ดุจดั่งหิมะ

หลังจากที่เด็ก ๆ ออกไปเที่ยวกันแล้ว หยวนชิงหลิงก็นั่งอยู่ในตำหนักเพียงลำพัง หันไปแต่งหน้าแต่งตัวช้า ๆ หน้ากระจกทองแดง

หลายปีที่ผ่านมา นางแทบไม่ค่อยแต่งหน้า แต่ถ้าได้แต่ง จะตั้งใจแต่งให้สูงวัยที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่มาตอนนี้ เมื่อได้เห็นเด็ก ๆ ในวัยนี้พูดคุยหัวเราะล้อเล่นกันอย่างสนุกสนาน นางก็นึกครึ้มอกครึ้มใจ หันมาแต่งหน้าแต่งตัวที่หน้ากระจก ทำให้เจ้าห้าตกตะลึงจนตาค้างสักหน่อยคงไม่เลว

ผิวของนางยังดีมาก ชุ่มชื้นเนียนนุ่ม เส้นผมเงางาม ดำขลับเรียบลื่น ทรวดทรงองค์เอวก็ยังดีมาก เอวบางคอดกิ่ว หน้าอกเต่งตึง

ล่าสุดเพราะงานแต่งตั้งรัชทายาททำให้ทุกคนยุ่งกันตลอดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สองคนสามีภรรยาได้แต่คุยกันถึงเรื่องงานพิธีจนดึกดื่นค่อนคืน ไม่มีเวลาใส่ใจดูแลความรักระหว่างกันและกันเลย

ใช้เวลาไปครึ่งชั่วยามในการแต่งตัวหน้ากระจก แม้ว่าความงามที่แต่งเติมด้วยเครื่องประทินผิว จะไม่งามบริสุทธิ์เท่าความงามตามธรรมชาติ แต่ความจริงใจมีให้เต็มสิบ

ปกติเจ้าห้ามักจะกลับมาตอนเที่ยงเพื่อกินข้าว กับงีบหลับช่วงกลางวันครู่หนึ่ง นางเพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา

นางหันหน้ากลับไป เผยรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้ม เจ้าห้าที่เพิ่งเปิดม่านเข้ามาพลันเบิกตากว้าง เขาเหลียวกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็วิ่งออกไปปิดประตูตำหนัก แล้วค่อยวิ่งกลับมาอีกครั้ง

“เจ้าอยากให้ข้าเป็นทรราชรึ!” เขาคว้าตัวนางเข้ามากอดเต็มอ้อมแขน กดจูบที่ร้อนแรงแฝงความเสน่หาจนนางหายใจหายคอไม่ทัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน