บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 188

ไม่เชื่อ?ถ้าหากว่าคลอดเป็นเด็กชาย แล้วตายเร็ว แบบนั้นถึงเป็นการทำร้ายจิตใจ และยังส่งผลต่อราชวงศ์ด้วย คนด้านนอกคงมีจำนวนไม่น้อยที่ซุบซิบกันว่าราชวงศ์ไม่มีใครคลอดลูกชาย แต่พอคลอดออกมากลับถูกฟ้าเอาคืน แบบนี้เรียกว่าสวรรค์ลงโทษตระกูลหยู่เหวิน

พระชายาจี้ป่วยเป็นวัณโรค ก็เพราะไปดูแลอ๋องหวย

พระชายารองป่วยเป็นโรคติดต่อ กลับต้องมาดูแลพระชายาจี้ นี่ก็ถือว่านางเป็นผู้มีจิตใจเมตตาแล้ว ยังเกินครึ่งของความผิดนาง ควรจะมอบรางวัลให้

นางจะโทษใครได้?

ไทเฮาพูดขึ้นด้วยเสียงเจ็บปวด: “สวรรค์ไม่สงสารตระกูลหยู่เหวินเรา!”

หยู่เหวินเห้ารู้ดีว่าแค่เวลาอันน้อยนิดไม่สามารถทำให้นางหายโกรธได้ แต่ว่าแต่ละวันทำความดี ผ่านไปสักพัก เรื่องนี้ก็คงเงียบหายไปเอง

เขาพยายามพูดให้นางสบายใจ และให้นางกินโจ๊กให้เยอะๆ

ใครจะรู้ พอหลังจากเฮาดื่มโจ๊กหมดแล้ว กลับหันไปพูดว่า: “เจ้ากับชายาเจ้าอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่แล้ว ทำไมยังไม่มีข่าวดีเลย?ถ้าหากว่าท้องนางไม่ได้เรื่อง เจ้าก็ควรจะแต่งชายารองมาอีกคน ตอนนี้ชายารองของอ๋องฉีเองก็ได้เลือกเรียบร้อยแล้ว เจ้าเองก็ควรจะรีบหน่อย”

ดูแล้วไม่ว่าตอนไหนนางก็ยังคงรักหยู่เหวินเห้า ในใจของนางนั้นก็เอาแต่คิด ในบรรดาอ๋องทั้งหลาย คนที่นางโปรดมากที่สุดก็คืออ๋องฉู่

และแน่นอนว่าเพราะเสียนเฟยเป็นหลานสาวนาง ช่วงไม่กี่ปีนี้ตระกูลนางก็ไม่ได้เรื่องเลย และได้แต่เฝ้ารอคอยอ๋องฉู่ผู้เดียวที่จะพอช่วยดึงนางขึ้นได้

เพียงแต่ว่า หลานก็เป็นหลานแท้ๆ แม้จะไม่สามารถมองเหมือนกัน แต่ก็ยังหวังดี ดังนั้นเรื่องพระชายารองนางถึงได้ใส่ใจขนาดนี้

สิ่งที่หยู่เหวินเห้ากลัวมากที่สุดก็คือเรื่องพระชายารอง เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดเพื่อหยวนชิงหลิง “เรื่องชายารอง หลานไม่ได้มีความคิดเลย อีกอย่างตอนนี้หลานกับชายาเองก็ถือว่าเข้ากันได้......”

“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้!” พอนางได้ยินเขาพูดถึงหยวนชิงหลิง ก็โมโหขึ้นมาอีกครั้ง “ชายาของเจ้า ไม่ใช่ว่าข้าไม่ชอบนาง ที่นางขี้อิจฉา ใจแคบ ฮองเฮาจัดงานชมดอกไม้ขึ้น พระชายาทุกคนต่างบอกชื่อ แต่มีเพียงนางที่ตาสูง บอกว่าไม่มีคนที่ชอบเลย นางไม่ชอบใครเลยหรือว่ารับไม่ได้กันแน่?ถ้าหากนางมีความสามารถ ข้าเองก็จะไม่ว่านาง แต่แต่งงานมาเป็นปีแล้ว กลับยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย เจ้าเองก็เริ่มอายุมากแล้ว ทำไมถึงดูไม่กังวลเลย?”

ตอนแรกหยู่เหวินเห้าคิดว่าหยวนชิงหลิงเป็นคนโปรดของไท่ซ่างหวง แต่เสด็จย่านั้นกลับไม่ได้มาเอาใจใส่มาก ไม่นึกเลยว่าพอพูดก็โดนว่าเลย งั้นเขาก็ต้องปกป้องนาง

“เสด็จย่า จะโทษนางไม่ได้ พวกคุณหนูตระกูลสูงพวกนั้น หลานไม่ชอบเลย ก่อนออกจากจวน หลานเลยกำชับนาง ห้ามนางบอกชื่อใคร หลานสาบาน ว่าหลานไม่ได้พูดเท็จ ไม่อย่างนั้นขอให้ทั้งชีวิตนี้หลานไม่มี.....”

นางโมโหมากจนยกมือขึ้นมาตบที่หน้าเขาอย่างแรง : “เหลวไหล สาบานอะไรกัน?เจ้าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาหรือ?บังอาจเอาเรื่องสาบานมาพูด ข้าจะฉีกปากเจ้าเดี๋ยวนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ หลานสำนึกผิดแล้ว เสด็จย่าอย่าได้โมโหเลย” หยู่เหวินเห้ารับพูดปลอบนาง

ไทเฮาใช้หางตามองเขา “พูดจริงหรือว่าเจ้าไม่ชอบ?”

“พูดจริงพ่ะย่ะค่ะ”

ไทเฮาถอนหายใจออกมา : “แล้วเจ้าอยากได้แบบไหน?เจ้าพูดมา ข้าจะไปเสาะหามาให้”

หยู่เหวินเห้าพูดขึ้น: “เสด็จย่ารู้ ว่าตั้งแต่ข้าอายุสิบหกก็เข้าไปอยู่ในกองทัพ และรู้สึกว่าคุณหนูเมืองหลวงนั้นอ่อนแอ แค่ลมพัดก็ปลิวแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ ถ้าหากว่าได้รับความทรมาน เกรงว่าความลำบากในการตั้งครรภ์นั้นก็อาจจะทนไม่ได้”

ไทเฮาได้ยินและเข้าใจแล้ว จึงพูดขึ้น: “เจ้าพูดก็ถูก เพียงแต่ในเมืองหลวงนั้นก็มีแต่พวกตัวเล็กๆ ถ้าต้องการจะหาคนร่างใหญ่อ้วนท่วม มันก็ช่างหายากเหลือเกิน และไม่ควรจะหาแบบทั่วไปมาเป็นชายารอง”

ไทเฮาคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ถูกเลี้ยงมาอย่างยากลำบาก ตัวนางเองก็เคยตลอดมา ก็พอจะรู้ว่ามันเจ็บปวดทรมานขนาดไหน

หญิงสาวที่อ่อนแอ ที่จริงนั้นยากเหมือนกัน

ถ้าหากว่าเป็นคนที่รูปร่างใหญ่หน่อย สามปีมีสองคนก็คงไม่มีปัญหา

เด็กคนนี้ช่างเลือกดีจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน