บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1880

ทังหยวนเป็นคนมีทักษะในการพูด เขายกเอาเสด็จพ่อมาเปรียบเทียบกับเสด็จปู่ ใช้คำว่าขยันหมั่นเพียรมาเปรียบเทียบระหว่างพ่อกับลูก นี่ไม่ใช่คำโกหก เพราะเสด็จปู่รู้ดีว่าตัวเองมานะบากบั่น ขยันหมั่นเพียรแค่ไหนในตอนที่ครองบัลลังก์

ต่อจากนั้น ทังหยวนก็ยกตัวอย่างเหตุการณ์สำคัญในตอนที่เสด็จปู่อยู่ในตำแหน่งมาพูด ในระหว่างที่พูดคำเหล่านั้น ก็คอยหยอดคำชมในด้านดี การเป็นที่น่าเคารพ บางครั้งก็ผสมคำพูดดี ๆ สักสองสามคำจากสามยักษ์ใหญ่เข้าไป แน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นคำชม ยังบอกอีกว่าหากไม่เพราะรากฐานที่เสด็จปู่วางเอาไว้ในตอนแรก จะเป็นไปได้อย่างไรที่เป่ยถังจะรุ่งเรืองได้ดั่งเช่นวันนี้

คำพูดเหล่านี้ ได้ยินแล้วช่วยส่งผลให้หัวใจของท่านหมิงเต้นแรงขึ้นมาครู่หนึ่ง เรื่องราวในอดีตผุดขึ้นในใจไม่หยุด จริงอยู่ว่าเมื่อตอนนั้นที่เขาอยู่ในตำแหน่ง ได้ทุ่มเทอุทิศตนเพื่อเป่ยถังมากมาย ไม่เคยกล้าที่จะดื่มด่ำกับความสุขอย่างแท้จริง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่เคยกล้าอวดดีเกินตัว หรือทำอะไรเกินเลย เพราะกลัวว่าตัวเองจะเสียสมาธิ

นอกจากตื่นเต้นยินดีแล้ว ก็อดรู้สึกรักใคร่ในตัวทังหยวนขึ้นมาอีกหลายส่วนไม่ได้ เด็กคนนี้ช่างพูดจาได้ ไพเราะเสนาะหูเสียจริง

เมื่อทังหยวนได้เห็นแววตารักใคร่ในดวงตาของเขา ก็เปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นว่า "จริงสิ เสด็จปู่ หลานได้ยินมาว่าภูเขาด้านหลังหมู่ตึกเหมยทั้งหมด ล้วนเป็นหินอ่อนสีขาวใช่หรือไม่?"

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ประกายในแววตาของท่านหมิงก็หม่นลง ตอนแรกที่เขาซื้อหมู่ตึกเหมยมาจากเสด็จลุง ก็เป็นเพราะเขาถูกบรรดาหินอ่อนสีขาวพวกนั้นหลอกล่อ หลงคิดว่ามันเป็นหยกนั่นล่ะ

“อืม!” เขาตอบรับเสียงงึมงำ

ทังหยวนยิ้มยินดีพลางพูดว่า "ขอแสดงความยินดีกับเสด็จปู่ด้วย หินอ่อนสีขาวเต็มภูเขา ทั้งหมดนั้นทำเงินได้มากมายเท่าไหร่หรือพ่ะย่ะค่ะ?"

“ไม่คุ้มเงิน” ท่านหมิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์

ดวงตาของทังหยวนเบิกกว้าง "ทำไมจะไม่คุ้มเงินล่ะ? ตอนนี้เป่ยถังร่ำรวยมั่งคั่ง บรรดาพ่อค้าที่ร่ำรวยต่างก็สร้างบ้านเรือน ประดับตกแต่งจนวิจิตรงดงาม พวกเขาต่างก็ชอบใช้หินอ่อนสีขาวสร้างรั้ว ทำรูปปั้นแกะสลักงานประติมากรรมทั้งหลาย กระทั่งชามเอย แก้วเอย โต๊ะเอย ล้วนเป็นที่นิยมใช้ ตอนนี้ไม่ว่าที่ไหน ๆ ล้วนถูกขุดออกไปจนว่างเปล่าหมดแล้ว เสด็จปู่นั่งอยู่บนเขาที่มีหินอ่อนทั้งลูก เรียกว่ามั่งคั่งจนไม่มีใครเทียบได้แล้วจริงๆ”

ในอดีต หินอ่อนสีขาวจะใช้ในการสร้างพระราชวัง หรือไม่ก็จวนของพวกขุนนางใหญ่ที่มีความใกล้ชิดกับแวดวงราชนิกุลเท่านั้น ทั้งไม่ได้ข้อกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด จนตอนนี้ก็ปล่อยปละไปนานมากแล้ว ขอแค่ใครก็ตามที่มีเงินก็สามารถใช้ได้

เป้าหมายหลักของทังหยวนที่มาเยี่ยมเยือนครั้งนี้ ก็คือเหมืองแห่งนี้นี่เอง แน่นอนว่า การปลอบใจเสด็จปู่ก็เป็นภารกิจที่สำคัญมากเช่นกัน

ทังหยวนกล่าวว่า "ตอนนี้วังบูรพากำลังต่อเติมซ่อมแซม ต้องใช้หินอ่อนสีขาวแน่นอน หากขุดได้จากที่นี่ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก แน่นอนว่า จะไม่รบกวนความเงียบสงบของเสด็จปู่"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็เปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง ถามไถ่ถึงสุขภาพของเสด็จปู่กับฮู่เฟย คำพูดคำจาที่ใช้รื่นสบายหู จนทำให้ท่านหมิงถึงกับชมไม่ขาดปาก ว่าเขาเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย รู้ความมีเหตุมีผล กตัญญูรู้คุณ ขนาดเจ้าสิบก็ยังสู้ไม่ได้ สู้ไม่ได้เลยจริง ๆ

อีกสองวันต่อมา ทังหยวนก็ใส่ใจเพียงการดูแลปรนนิบัติเสด็จปู่เท่านั้น หลังจากดูแลครบถ้วนดีแล้ว ถึงค่อยไปดูเหมือง สร้างความรู้สึกประการหนึ่งให้เสด็จปู่ ว่าเขาไม่เพียงแต่มาเพราะหวังจะทำธุรกิจ แต่ในเวลาเดียวกันก็ยังทำให้รู้สึกว่า เขาใส่ใจจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก

สามวันต่อมา ทังหยวนก็ออกจากหมู่ตึกเหมย พร้อมสัญญาในมือเสร็จสรรพ เขาลงนามในสัญญากับเสด็จปู่ มอบอำนาจให้เขาเปิดภูเขาเพื่อขุดทำเหมืองแร่ หลังหักค่าใช้จ่ายในการขุดทั้งหมดแล้ว บัญชีแบ่งการปันผลออกเป็นสามส่วนเจ็ด เขาได้สาม เสด็จปู่ได้เจ็ด

จริง ๆ แล้วกว่าจะได้สามส่วนนี้มามันไม่ง่ายเลย ทั้งต้องกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งยังต้องดำเนินการขายไปด้วย แต่ส่วนของการขายนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล เขายังถึงขั้นขายออกไปได้ในราคาที่สูงด้วยซ้ำ เพราะนี่คือยอดเขาที่ไท่ซ่างหวงอาศัยอยู่เชียวนะ

มีไอมังกรสถิต!

ทังหยวนเชื่อว่า ยกเว้นแค่ความรักอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่สามารถขายแลกเงินได้ อย่างอื่นที่เหลือไม่ว่าอะไรล้วนขายได้หมด ไอมังกรศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองกายน่ะรึ? ที่ใดมีอุปสงค์ ที่นั่นย่อมมีการผลิต

หลังจากนี้ไป เขายังมีแผนการที่จะขายดอกเหมยอีกด้วย

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น หลังจากยืนหยัดได้อย่างมั่นคงแล้ว ยังต้องทำธุรกิจที่เกิดการผลิตในระยะยาวต่อไปด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน