นางลากร่างที่ชาดิกของตัวเองไปยังเตียงที่หยู่เหวินเห้านอนเมื่อครู่ ล้มตัวลงนอน พยายามทำใจให้สงบ แต่ก็ยังรู้สึกว่าสั่นไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ต่อให้นางใช้เซลล์สมองทั้งหมดที่มีมาคิดวิเคราะห์ ก็ยังไม่สามารถคิดหาคำตอบออกมาได้เลยแม้แต่ข้อเดียว
การพัฒนาสมองยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่กลับมุ่งมาทางด้านสิ่งแปลกประหลาด เหนือธรรมชาติแทน
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า วิทยาศาสตร์กับเทววิทยาแม้จะเป็นวิชาที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายก็มีบทสรุปเดียวกันได้
เมื่อสมองได้รับการพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับหนึ่ง มันจะสามารถหยิบจับสิ่งของได้โดยผ่านกระแสจิต สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ สมองจะสามารถอ่านและรับข้อมูลทุกประเภทได้โดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับเทพเจ้าที่คนในโลกทางนี้เคารพบูชาเลยทีเดียว
นางยกมือขึ้นด้วยอาการสั่นเทา คิดจะลองสัมผัสกล่องยาที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าแขนเสื้อ เพื่อจะได้รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่มันเป็นความจริง แต่แขนเสื้อเลื่อนลงเผยให้เห็นข้อมือขาวเนียน แต่กลับมีรอยแผลเล็ก ๆ ที่เกิดเป็นรอยแดงอยู่บนข้อมือ อีกทั้งแผลที่ว่านี้ ยังเป็นแผลที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่เสียด้วย
นางผงะไปเฮือกหนึ่ง รอยแผลนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? หรือจะเป็นตอนที่สู้พัวพันอยู่กับหยู่เหวินเห้าเมื่อครู่นี้อย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่นี่ เลือดที่ขอบปากแผลนั้นแข็งตัวไปแล้ว อีกทั้งที่แขนเสื้อก็มีรอยเปื้อนเลือดด้วย บาดแผลนี้ จะต้องเกิดขึ้นเมื่อราวๆครึ่งชั่วโมงที่แล้วเป็นอย่างต่ำ
ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว?
หยวนชิงหลิงหยีตาอย่างใช้ความคิด จนนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนที่มารอเข้าเฝ้าอยู่นอกตำหนัก นางถูกหยู่เหวินเห้าสะบัดทิ้ง แล้วฉู่หมิงชุ่ยก็เข้ามาช่วยพยุงนาง
เป็นไปได้ไหมว่า นางไม่ได้มีเจตนาจะช่วยอย่างบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรกแล้ว?
นางจำได้ว่าตอนที่ฉู่หมิงชุ่ยถอยกลับไปยืนข้างอ๋องฉี สายตาของนางคล้ายจะฉายแววประหลาดใจออกมาวูบหนึ่ง
ทันใดนั้น หยวนชิงหลิงก็พลันเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งขึ้นมาทันที
ฉู่หมิงชุ่ยมีเจตนาจะทำร้ายนางให้ได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะนางไม่รู้ว่า นางได้ดื่มน้ำจื่อจิน จนไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นหยวนชิงหลิงคนเดิมในอดีตล่ะก็ นางคงจะเกรี้ยวกราดโวยวาย ร้องด่าสาปแช่งตั้งแต่ตรงนั้นอย่างแน่นอน ในงานพิธีการที่ต้องเคร่งขรึมจริงจังเช่นนี้ แม้ว่านางอาจจะไม่ถูกลงโทษร้ายแรงถึงชีวิต แต่ก็มีสิทธิ์ถูกจับขังคุก หรือไม่ก็อาจถูกหย่าร้างได้ในภายหลัง
หยวนชิงหลิงรู้สึกหนาวเยือกไปทั้งตัว ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจิตใจของคนเราจะเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้
เดิมทีนางเคยมองว่าฉู่หมิงชุ่ยนั้นเป็นคนที่ไม่เลวเลยทีเดียว คนอื่น ๆต่างใช้สายตาแบบนั้นมองตนเอง มีแต่นางทักทายปราศรัยกับตนอย่างเป็นกันเอง
แต่ทว่า ภายใต้ใบหน้าอันงดงามเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยนของนาง กลับกลบฝังซ่อนเร้นจิตใจอันชั่วร้ายเลวทรามอยู่ในนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...