บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1901

ไม่เพียงเท่านั้น อู๋ซ่างหวงยังมีคำสั่งลงไปว่ารอหลังจากที่แม่นมสี่หายดีแล้ว ให้เริ่มบูรณะซ่อมแซมจวนครั้งใหญ่ ต้องสร้างบ้านเรือนที่งดงามโอ่โถง ต้องมีภูเขาจำลองกับธารน้ำตกรินไหล ต้องมีศาลารับลม รวมถึงหอคอยชมจันทร์แบบเดียวกับจวนของผู้มีฐานะทั้งหลาย ไม่ใช่เอาพื้นที่ว่างทั้งหมดมาสร้างบ้านสร้างเรือนแบบง่าย ๆ ชุ่ย ๆ แล้วปล่อยให้พวกชายชราชุดดำโขยงใหญ่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ ไปอาศัยอยู่รวมกันในสภาพแออัดยัดเยียดแบบนั้น

ที่เมื่อก่อนไม่ทำ เพราะเอาแต่รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนั้น ทุกคนต่างก็กระเบียดกระเสียรกันจนติดเป็นนิสัยไปแล้ว อันไหนที่ไม่ต้องจ่ายเงินได้ ก็ไม่ต้องจ่าย

แต่พวกเขาจ่ายไม่ไหวอย่างนั้นรึ ? พวกเขาจ่ายไหว ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่จะใช้พักพิงในยามบั้นปลาย จึงต้องปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตต่อไปในวันข้างหน้า

ทันทีที่อู๋ซ่างหวงมีคำสั่งลงไป ทุกคนก็ไม่รอให้แม่นมสี่ลืมตาตื่นแล้ว ต่างเร่งลงมือจัดการเก็บกวาดบรรดาก้อนหินดินกรวดทันที

อู๋ซ่างหวงสั่งให้โยนก้อนกรวดทิ้งออกไปข้างนอกให้หมด แต่ทว่า หลังจากโยนทิ้งไปได้ตะกร้าเดียว เหล่าชายชราชุดดำก็ตัดสินใจใหม่ ค่อย ๆ ขนย้ายก้อนกรวดเหล่านั้นกลับเข้าไปช้า ๆ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นแค่ก้อนกรวดที่ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่เพราะกว่าจะขนย้ายออกมาจากเหมืองได้ต้องลำบากลำบนขนาดนี้ จะให้โยนทิ้งไปง่าย ๆ มันก็ออกจะน่าเสียดายอยู่สักหน่อย

นอกจากนี้มันยังเป็นตัวการที่ทำร้ายแม่นมสี่ด้วย มีหรือจะยอมเลิกแล้วกันไปง่าย ๆ แบบนี้ ? ไม่ใช่ว่ามันสมควรจะถูกเอามาปูให้เป็นถนน แล้วเดินเหยียบเดินย่ำทุกวัน เพื่อเป็นการแก้แค้นให้แม่นมสี่หรอกรึ?

พวกเขาเก็บกวาดส่วนลานหลังบ้านจนเกิดพื้นที่โล่งว่างขึ้นมาผืนหนึ่ง นำก้อนกรวดเหล่านี้มากองซ้อนกันไว้ก่อน ส่วนดี ๆ ที่ควรใช้ในลานบ้านก็คัดแยกที่ดี ๆ ไว้ใช้ พวกก้อนกรวดที่เหลือเหล่านี้ค่อยเอามาใช้ปูเป็นทางเดินเล็ก ๆ

พวกเขาแค่ยึดหลักไม่ทิ้งอะไรให้เสียเปล่าก็เท่านั้นเอง อีกทั้งของอะไรที่เกลียด แค่โยนทิ้งก็ไม่แน่ว่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเสมอไป การใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่ต่างหาก คือวิธีที่ดีที่สุด

หลังจากหยวนชิงหลิงให้น้ำเกลือแม่นมสี่แล้ว ท่านน้าทั้งสองก็เข้าครัวเพื่อทำบะหมี่ให้นางด้วยตัวเอง นางถึงรู้สึกว่ากระเพาะตัวเองว่างเปล่าโหรงเหรงอย่างยิ่ง จึงนั่งลงแล้วกินบะหมี่ทันที

หลังจากกินเสร็จ เดินออกไปก็เห็นพวกเขากำลังขนย้ายก้อนกรวดไปที่ลานหลังบ้าน ได้ยินองครักษ์ฟ้าผ่าเฒ่าพูดว่า ก้อนกรวดพวกนี้ยังไม่ต้องทิ้งจะดีกว่า ต่อจากนี้ยังพอจะเอาไว้ใช้ได้อยู่ ในใจของนางพลันรู้สึกหน่วงหนักขึ้นมาไม่น้อย

แม้ว่าทุกคนจะมีวิถีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่กับคนที่เคยผ่านประสบการณ์ปากกัดตีนถีบในช่วงสงคราม ผ่านความทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสมา พวกเขามักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าถ้าใช้ชีวิตสงบสุขเกินไป ในใจจะรู้สึกไม่เป็นสุข เพราะไม่แน่ว่าเรื่องดี ๆ ก็อาจมีตอนจบที่เลวร้ายได้

จนถึงช่วงค่ำแม่นมสี่ถึงค่อยลืมตาตื่นขึ้นมา นางอ่อนแอมากเสียจนถึงขั้นพูดออกมาไม่ไหว แต่เมื่อกวาดสายตามองดูผู้คนที่เฝ้าไข้นางอยู่รอบ ๆ นางก็เผยรอยยิ้มออกมา น้ำตาค่อย ๆ รินไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง

มีพวกเขาอยู่ นางจะตัดใจกล่าวคำลาได้อย่างไรกัน? ต่อให้ยากเย็นแค่ไหนก็ต้องกลับมาให้จงได้

เดิมทีหยวนชิงหลิงคิดว่าหลังจากแม่นมสี่ตื่นขึ้นมา ทุกคนจะมารวมตัวกันไถ่ถามอาการให้เซ็งแซ่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่า พอพวกชายชราชุดดำเห็นนางตื่นขึ้นมาแล้ว ก็ยืดเอวบิดขี้เกียจสองสามที จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินออกไปเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน