บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1903

ระหว่างนายบ่าว โทสะค่อย ๆ สงบลง แล้วปรากฏความสมานฉันท์ขึ้นมาแทนที่

สวีอียืนอยู่ในพระตำหนักด้วยความกระอักกระอ่วนน้อย ๆ ไม่ต้องแบกออกไปแล้วรึ? นี่เรียกเขามาปั่นหัวเล่นหรืออย่างไรกัน?

ช่างเถอะ เขาหันหลังเดินออกไป ในใจเกิดความรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจอยู่ไม่น้อย

ก่อนหน้านี้ถังกั่วเอ๋อเคยพูดถึงเรื่องการแต่งงานไว้นานมากแล้ว เดิมทีก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจ แต่สุดท้ายด้วยเหตุผลที่เหนือจะคาดเดา กลับกลายเป็นว่าข้อตกลงต้องล่มไปอย่างไม่เป็นท่า

อะซี่ก็พูดเหมือนกันว่า ปีนี้จะต้องกำหนดให้ชัดเจนให้ได้

ทางฝั่งครอบครัวของเขาทางนี้ไม่มีใครที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ แน่นอนว่าต้องให้ทางตระกูลหยวนเป็นฝ่ายไปเสาะหาจัดการ

เขารู้ว่าตระกูลหยวนจะต้องเสาะหาคุณชายจากตระกูลดี ๆ มาแต่งงานกับถังกั่วเอ๋อแน่ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ไม่ว่าฝ่ายชายจะดีสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางดีไปกว่าตัวเขาที่ดีต่อลูกสาวได้ ขอแค่นางแต่งออกไป นางจะต้องได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจแน่นอน

แต่สิ่งที่กวนใจเขามากที่สุดยังไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ว่าหลังจากตระกูลหยวนมอบหมายให้แม่สื่อเป็นคนกลางจัดการเรื่องนี้ ก็มีเรื่องซุบซิบนินทากลับมาให้ได้ยินไม่หยุด

ลือกันว่า ถึงแม้เขาจะติดตามข้างกายฝ่าบาทมานานหลายปี แต่ตำแหน่งหน้าที่การงานกลับไม่สูงส่งอะไร ทั้งไม่มีทักษะความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยม หากวันหน้าจะพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งการงานก็คงยากมาก

ส่วนเรื่องการติดตามข้างกายฝ่าบาท ติดตามฮ่องเต้ก็เหมือนติดตามอยู่ข้างจอมพยัคฆ์ ไม่มีอำนาจที่แท้จริง ไม่มีตำแหน่งสูงส่ง แต่มีความเสี่ยงสูง เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบเป็นธรรมดา

ลูกสาวตระกูลหยวนย่อมคุยเรื่องแต่งงานได้ง่าย แต่หลานสาวตระกูลหยวนนั้น จะคุยเรื่องแต่งงานกลับไม่ง่ายเอาเสียเลย

พูดกันตรง ๆ ก็คือ เขาคนนี้ในฐานะพ่อมันไร้ความสามารถ

แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ? เขาเกิดมาในสถานะเช่นนี้ ดูไปแล้วเหมือนจะได้ใช้ชีวิตที่เพลิดเพลินกับความมั่งคั่งหรูหราของชนชั้นราชวงศ์ แต่กลับไม่มีกระทั่งจวนหลักของตัวเอง

ถังกั่วเอ๋อเกิดในภูมิหลังเช่นนี้ บรรดาพวกขุนน้ำขุนนาง พวกผู้ลากมากดีทั้งหลาย คงไม่เห็นนางอยู่ในสายตาแน่

อันที่จริงฮองเฮาก็เคยพูดถึงเรื่องการแต่งตั้งชั้นยศให้นางมาก่อน แต่เพราะมันทำอย่างนั้นไม่ได้ ถังกั่วเอ๋อมีคุณสมบัติอะไรล่ะ? ด้วยเหตุนี้ ความหยิ่งในศักดิ์ศรีชั่วขณะ จึงหยุดเรื่องที่ว่านั้นไป

เฮ้อ! ถ้าตัวเขามีความสามารถมากกว่านี้สักหน่อย ก็คงสร้างผลงานจนขอชั้นยศให้นางได้ อย่างน้อยได้ชั้นยศสักระดับเสี้ยนจู่ ก็คงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว

แน่นอนว่าสวีอีไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกไป ทั้งฮ่องเต้และฮองเฮาต่างก็ดีกับเขามากแล้ว กระทั่งคนที่มีความสามารถกว่าเขา มีความอดทนกว่าเขา ก็ยังไม่ถูกให้ความสำคัญขนาดนี้ด้วยซ้ำ เขารู้สึกพอใจในสิ่งที่มี ทั้งรู้คุณค่าของโชควาสนาที่เขาได้รับมากพอแล้ว

สวีอีเก็บซ่อนความรู้สึกที่สร้างความรำคาญใจนี้เอาไว้ แล้วตั้งหน้าหน้าตาทำงานตามหน้าที่ของตัวเองต่อไปอย่างซื่อสัตย์

ทุกวันนี้หยวนชิงหลิงต้องเดินทางไปจวนอ๋องซู่วันละครั้ง ได้เห็นแม่นมสี่ค่อย ๆ ดีขึ้นทีเล็กทีละน้อย ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

ท่านฉู่ตอนนี้ก็ทำตัวติดหนึบ จนแทบจะจับแยกออกไปไม่ได้แม้แต่นิ้วเดียวแล้ว ถึงขั้นจัดเตียงหลังหนึ่งเอาไว้ในห้องของนาง พอตกค่ำก็นอนค้างเสียในห้องเดียวกันกับนางทั้งอย่างนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน