ในเรื่องการพูดปลอบพ่อ เจ๋อหลานมีประสบการณ์ พ่อมีนิสัยอ่อนโยนอ่อนไหวอย่างที่สุด ทำให้นางกับแม่ เห็นว่าพ่อแลดูอ่อนไหวอ่อนแอที่สุด โศกเศร้าเสียใจได้ง่ายมาก
ถังกั่วเอ๋อออกมาจากความสุขแห่งความรักซึ่งกันและกัน เชื่อฟังคำพูดของเจ๋อหลาน แล้วก็กลับไปปลอบพ่อ
สวีอีดื่มกับฮ่องเต้ของเขาจนเมาแล้วก็กลับมาที่ห้อง ช่วงนี้เขามีเรื่องไม่สบายใจมากมาย แต่เรื่องพวกนี้กลับต้องเห็นเป็นเรื่องน่ายินดี อย่างเช่นเขาถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยา ไม่ช้าก็จะมีจวนเป็นของตนเองแล้ว เลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานได้เป็นเจ้าพระยา เป็นเรื่องน่ายินดีใช่ไหม?
อย่างเช่นลูกสาวเตรียมจะแต่งงานแล้ว สามีในอนาคตก็เป็นคนดีมาก เป็นที่น่าพอใจ นี่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีใช่ไหม?
แต่เขากลับไม่มีความสุข เขาคือสวีอีที่ไม่มีวิสัยทัศน์อะไร แค่อยากมีชีวิตที่สงบสุข ต้องโทษที่ตนเองมักถูกคนอื่นรังแกแล้วไม่ตอบโต้ จึงทำให้ฮ่องเต้จำเป็นต้องปกป้องเขา แต่งตั้งให้เป็นเจ้าพระยา ดูเหมือนจะเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นบุญวาสนาของลูกหลาน แต่ที่ต้องเสียสละคือชีวิตที่สงบสุขมาตลอดของเขา
เขาหวังอยากให้ชีวิตดำเนินเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดชีวิต
เมื่อกี้ตอนที่ดื่มเหล้า จู่ฮ่องเต้ก็เอามือมาวางบนไหล่ของเขา แล้วก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง ทำให้เขาเกือบร้องไห้
ฮ่องเต้พูดว่า สักวันหนึ่ง คนข้างกายก็ต้องจากไปทีละคน รอถึงตอนนั้นแล้วหวนคิดถึงตอนที่ลูกสาวแต่งงาน ก็จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
มีบางครั้งช่างน่าโมโหฮ่องเต้จริงๆ ทำไมจะต้องพูดอะไรตรงขนาดนี้? ทำไมจะต้องพูดถึงความจริงของชีวิต? เขาเป็นคนที่สามารถทนรับได้แบบนั้นหรือ?
การเป็นครูยังต้องสอนนักเรียนตามความถนัด เป็นฮ่องเต้แล้วทำไมไม่สั่งสอนตามอุปนิสัยของขุนนาง?
ถังกั่วเอ๋อยกน้ำแกงสร่างเมามาให้กับพ่อด้วยตนเอง ประคองเขาขึ้นมานั่งบนเตียงหลัวฮั่น พร้อมพูดขึ้นด้วยดวงตาแดงๆ ว่า “หากเพราะเรื่องแต่งงานของข้าแล้วทำให้พ่อลำบากใจ หรือทำให้พ่อรู้สึกไม่มีความสุข ลูกยอมที่จะไม่แต่งงานไปตลอดชีวิต ในใจของลูก ไม่มีใครในโลกที่สำคัญไปกว่าพ่อกับแม่”
สวีอีอยู่กับหยู่เหวินเห้ามานาน ยังไงก็ถูกกลมกลืน หยู่เหวินเห้าไม่สามารถต้านทานคำพูดเช่นนี้ของลูกสาว ตอนนี้สวีอีก็เหมือนกัน
เพียงเพราะประโยคเดียวที่พูดว่า ไม่มีใครในโลกที่สำคัญไปกว่าพ่อกับแม่ ทำให้ความโศกเศร้าในใจสวีอี ปกคลุมไปด้วยความหวานซึ้ง เขาเชื่อทุกคำพูดของลูกสาว ลูกสาวไม่เคยโกหกใคร
เรื่องงานแต่งงาน ถูกกำหนดไว้ในใจของผู้ใหญ่ทุกคน ท่านย่าตระกูลหยวนสั่งคนมาทำบัตรแลกเปลี่ยนประวัติกัน ทางด้านจวิ้นจู่ใหญ่อานก็ให้ความร่วมมืออย่างมาก พูดคุยกับท่านย่าตระกูลหยวนอย่างอบอุ่น พูดถึงความดีของหลานตัวเองอยู่ตลอด
ท่านย่าตระกูลหยวนก็เป็นคนเฉลียวฉลาด ไม่มีเรื่องกับใคร แต่ในใจเห็นทุกอย่างราวกับกระจก จวิ้นจู่ใหญ่อานมายังจวนหยวนบ่อยๆ นางก็เพียงวางตัวเป็นคนดูละคร ไม่เชื่อว่าต่อไปนางจะปฏิบัติดีต่อกั่วเอ๋อ
โชคดีที่ฮองเฮาเคยพูดเตือนนางแล้วในก่อนหน้านี้ ต่อไปกั่วเอ๋อแต่งงานจะมีตำหนักเป็นของตนเอง ไม่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของนาง
ทุกคนต่างกำลังแอบเตรียมสินสอดของกั่วเอ๋อ ในพระราชวัง ตระกูลหยวน ตระกูลสวีต่างเตรียมไว้พร้อมกัน บอกว่าขบวนสินสอดยาวสิบลี้ก็ไม่เกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...