บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1956

เจ๋อหลานสวมชุดกระโปรงจันทร์สีขาว กับจิ่งเทียนในชุดผ้าแพรเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ในอุทยานอวี้ฮัวยามค่ำคืนอันมืดมิด

เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายภายในวัง โคมไฟในอุทยานอวี้ฮัวมีน้อยมาก แสงไฟที่อยู่ไกลคล้ายกลุ่มควันหมอกเมฆ แสงสว่างก็ถูกบดบังอยู่ในหมอกเมฆนั้น ส่องสว่างไม่ถึงอุทยานอวี้ฮัว

“ตอนที่ข้าจะฆ่านาง พ่อแม่ของนางกระโจนออกมา ข้ามองดูแล้ว ท่าทีพ่อของนางเหมือนกับพ่อของข้ามาก พ่อแม่ของนางคุกเข่าอยู่ตรงหน้าข้า ให้ข้าปล่อยลูกสาวของพวกเขาไป ข้าเห็นพ่อของนางร้องไห้.....ข้าไม่กล้าคิดคนที่เหมือนกับพ่อของข้า ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกสาวไป ข้าคิดได้เช่นนี้แล้วก็ทรมาน”

ตอนที่เจ๋อหลานพูดอยู่นั้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความพ่ายแพ้ นางรู้ว่าคนคนนั้นสมควรถูกฆ่า และก็รู้ว่าไม่ควรที่จะถูกเรื่องทำให้หวั่นไหว แต่ ณ ตอนนั้นนางลงมือไม่ได้จริงๆ

เพราะนางรู้ว่า การที่พ่อคนหนึ่งต้องเห็นลูกของตนเองตายไปต่อหน้าต่อตา เป็นเรื่องที่ทรมานโหดเหี้ยมขนาดไหน

จิ่งเทียนฟังนางพูดจบ มองดูนางแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เห็นได้ชัดว่าภายในใจของเจ้า พ่อแม่คนในครอบครัวเป็นจุดอ่อนของเจ้าตลอดไป”

“ใครไม่เป็นบ้างล่ะ?” เจ๋อหลานหัวเราะอย่างขมขื่น

จิ่งเทียนพยักหัวเล็กน้อย แล้วก็ถามขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนั้น กระทำผิดด้วยเรื่องอะไรหรือ? ทำไมทางราชการจึงสืบไม่ได้?”

“นางชอบผู้ชายคนหนึ่ง แต่ผู้ชายคนนั้นมีคู่หมั้นแล้ว นางสั่งคนไปฆ่าคู่หมั้นคนนั้น นอกจากนี้ยังสั่งให้ข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิงคนนั้นอย่างทรมานหลายครั้งแล้วค่อยฆ่าตาย หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว นางหลอกล่อคนร้ายไปบนเขาแล้วก็ผลักลงเหวไป ไม่มีพยานบุคคล ไม่มีหลักฐาน ทุกอย่างกระทำอย่างมิดชิด แม้แต่ทางการยังไม่ขาดคิดว่าน่าจะเป็นคนร้าย”

“ผู้ชายคนนั้นเสียใจที่สูญเสียคู่หมั้น ทุกข์ทรมานอย่างมาก ดื่มเหล้าเมาทุกวัน นางกลับคอยอยู่เคียงข้างอย่างไม่สนใจคำติฉินนินทา สุดท้ายผู้ชายคนนั้นใจอ่อนต่อนาง ไปสู่ขอนางกับครอบครัว งานแต่งงานกำหนดไว้ในเดือนหน้า”

จิ่งเทียนขมวดคิ้ว พร้อมถามขึ้นว่า “คู่หมั้นของเขาตายไปนานแค่ไหนแล้ว?”

“สองปีแล้ว”

“แค่สองปีก็ใจอ่อนให้กับผู้หญิงคนหนึ่งแล้วหรือ? แสดงว่าความรักของเขาก็ไม่ได้ลึกซึ้ง หากเป็นข้า ชั่วชีวิตก็จะไม่มองผู้หญิงคนอื่นอีก....ถุยๆ ๆ ๆ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน