บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 1963

หลังจากคณะแคว้นจินกลับไปแล้ว องค์ชายรัชทายาทก็มีงานยุ่งจนแทบไม่ได้พัก ไม่เพียงออกไปแต่เช้า กลางคืนก็ทำงานตลอด สัญญาความร่วมมือหลายประการที่เซ็นร่วมกับแคว้นจิน หมายถึงนโยบายของราชสำนักในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะเป็นการพัฒนาภาคตะวันตกเฉียงเหนืออย่างแข็งขัน

นี่แผนนโยบายขนาดใหญ่ จะต้องประชุมกับทางท่านชายสี่อย่างใกล้ชิด ปรึกษาหารือกับสิ่งที่ต่อไปจะต้องทำ

อยากจะร่ำรวย ต้องซ่อมถนนก่อน ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหน ถือเป็นหลักการที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ซ่อมถนน เท่ากับว่าจะต้องใช้จ่ายเงินเป็นจำนวนมาก ผ้าไหม อาหาร สินค้าโภคภัณฑ์อย่างเช่นชาของเป่ยถัง ล้วนสามารถส่งออกไปยังแคว้นจินอย่างต่อเนื่อง ส่วนแร่ธาตุโลหะของแคว้นจินก็จะถูกส่งมายังเป่ยถังเป็นจำนวนมาก

ถนนผ่านทรัพย์สินเงินทองก็จะหลั่งไหลมา การซ่อมถนนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด

เมื่อก่อนพวกเขาก็เคยยื่นเรื่องซ่อมถนน แต่ก็โต้เถียงกันไปมา สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ จวนเจียงเป่ยยากจนมานานหลายปี เป็นตัวถ่วงมาตลอด แต่ตอนนี้องค์ชายรัชทายาทเสนอแนะ ให้จวนเจียงเป่ยกลายเป็นเมืองผลิตโลหะ มีการผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญที่นั่น แร่เหล็กแร่ดิบเอามาจากแคว้นจิน นำมาผลิตในจวนเจียงเป่ย หลังจากได้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปค่อยส่งไปขายยังทุกที่ในเป่ยถัง

ช่วงนี้เจ้าตาทับทิมเป็นเหมือนอย่างฟองน้ำ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กับความรู้ทุกอย่าง หลังจากฝึกเรียนหนังสือแล้ว ตอนนี้ก็เรียนการทำอาหาร เพราะช่วงนี้พี่ซาลาเปาทำงานตลอด กลับมาดึกมาก กลับมาแล้วยังไงก็ต้องทานมื้อดึก ดังนั้น ช่วงเวลาที่นางจะได้แสดงฝีมือมาถึงแล้ว

เจ้าตาทับทิมตั้งใจเรียนทุกอย่าง อย่างไม่ละเลย โดยเฉพาะอาหารการกินของซาลาเปา นางตั้งอกตั้งใจอย่างมาก

นางรู้ว่าแม่นมสี่ทำอาหารอร่อย มีรสชาติของความเป็นชาวบ้าน พี่ซาลาเปาชอบทานอาหารประเภทผัด ดังนั้นตอนกลางวันนางไปเรียนกับแม่นมสี่ในจวนอ๋องซู่ ตอนค่ำค่อยกลับมา

แน่นอนว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไปเลือกเนื้อสดๆ ในห้องเครื่องมาให้หมาป่าซาลาเปา ช่วงนี้หมาป่าซาลาเปาก็เหนื่อยมาก ผอมลงไปมาก แสดงว่าตอนที่อยู่กับพี่ซาลาเปา ไม่ได้กินดีแน่

เดิมหยวนชิงหลิงได้สั่งห้องเครื่องทำน้ำแกงให้ซาลาเปา แต่ได้ยินว่าเจ้าตาทับทิมเริ่มฝึกทำกับข้าว นางจึงไม่ต้องทำอะไรแล้ว

เจ้าตาทับทิมว่าง่ายกตัญญู ทำกับข้าวแล้วยังนำมาให้หยวนชิงหลิงกับหยู่เหวินเห้าด้วยตนเอง หลังจากส่งมาแล้ว นางค่อยกลับไปเตรียมให้ซาลาเปากับหมาป่าซาลาเปา

หยู่เหวินเห้าไม่ค่อยทานมื้อดึก แต่ลูกสะใภ้ในอนาคตเป็นคนทำ ยังไงก็ต้องชิม

ก่อนทานเขาก็พูดกับหยวนชิงหลิงว่า “อาหารนี้ แค่ชิมก็พอ ถือเป็นการไว้หน้านาง”

หยวนชิงหลิงถามขึ้นว่า “เจ้าไม่หิว?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน