โพ่ตี้อวี้คิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตั้งทีมเขียนบท แต่สามารถหาผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ในการเขียนบทแนะแนวทางให้เซเว่นอัพ
ผู้จัดการใหญ่ติดต่อผู้มากด้วยประสบการณ์คนหนึ่งทันที เขาบอกกับทุกคน ว่านักเขียนบทคนนี้มีประสบการณ์แน่นเอียด มีประสบการณ์เขียนบทเมฆ(*ชื่อแพลตฟอร์มการสร้างผลงานอัจฉริยะแบบครบวงจรของจีน)มากถึงสิบกว่าปี
โพ่ตี้อวี้สงสัย “เขียนบทเมฆ? อะไรคือเขียนบทเมฆ”
ผู้จัดการใหญ่หัวเราะเอ่ย “ใช้หัวเขียนบทยังไงล่ะครับ เห็นว่าแต่ละปีเธอใช้หัวเขียนบทตั้งสิบกว่าเรื่องเลยนะ”
“ใช้หัวเขียนบท? เขียนยังไง” แม้แต่เซเว่นอัพก็รู้สึกฉงนสนเท่ห์ด้วย
“ก็...คิดบทในหัวทีหนึ่ง ก็ถือว่าเขียนเสร็จแล้ว”
ทุกคนอ้าปากตาค้าง ฉะนั้น เงินทุนอัตคัดเช่นนี้เชียวหรือ ได้แต่หาไก่อ่อนหัดที่ไม่มีประสบการณ์
โพ่ตี้อวี้ไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ ต้องหาคนที่มีประสบการณ์ จุดประสงค์ของฉันคือชี้แนะหลานชายฉันสักหน่อย เขียนบทเมฆอะไร พูดตามตรงแม้แต่ผลงานที่ให้เห็นระดับก็ยังไม่มี จะมีคุณสมบัติชี้แนะหลานชายฉันได้ยังไง”
แต่เซเว่นอัพกลับเห็นด้วย เพราะเขามีสิทธิ์ควบคุมบทโดยสมบูรณ์ นักเขียนบทชื่อดังมากด้วยประสบการณ์มักมีรูปแบบของตนเอง จะเกิดประกายไฟได้ง่าย...อื่ม ประกายไฟแห่งการชกต่อย
หาคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยมาเป็นผู้ช่วยก็ไม่เลวเหมือนกัน เพราะเขายังต้องเรียนหนังสืออีก
“นักเขียนบทนี้ชื่อว่าอะไรเหรอครับ” เซเว่นอัพถาม
“หวางลิ่วเยว่” ดวงตาผู้จัดการใหญ่ทอประกาย บ่งบอกท่าทางที่ไม่ค่อยมั่นใจ
จะให้ท่านประธานรู้ว่าหวางลิ่วเยว่เป็นญาติห่างๆ ของเขาไม่ได้ เฮ้อ ลำบากจัง เขาเป็นชายหงส์(*ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากศูนย์)ตามมาตรฐาน ปีนั้นแม่ของหวางลิ่วเยว่ยืมสามร้อยหยวนเป็นค่าเดินทางให้เขาไปศึกษาที่มหาวิทยาลัย ดังนั้น ป้าอิงแม่ของหวางลิ่วเยว่มักพูดกับคนทั้งหมู่บ้านว่าถ้าไม่ใช่เงินสามร้อยต้าหยวน(*ชื่อเรียกเงินหยวนในสมัยก่อน)ของเธอ เขาก็เข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ และจะไม่มีความสำเร็จในตอนนี้ด้วย
ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน นังเด็กอ้วนหวางลิ่วเยว่ก็สาบานว่าต้องเขียนผลงานก้องโลกให้ได้ ไม่ยอมไปทำงาน เกาะพ่อแม่กิน กินจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ มุดหัวอยู่แต่ในบ้านหลายปีขนาดนี้ ผลคือยังหลบไม่พ้น
“หวางลิ่วเยว่?” โพ่ตี้อวี้กับเซเว่นอัพมองกันทีหนึ่ง ทำไมชื่อนี้คุ้นๆ นะ
เซเว่นอัพคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ราวกับเคยได้ยินที่ไหนว่าปีนั้นมีคนหนึ่งตามจีบปู่องครักษ์เงาดำอย่างหนัก ที่บ้านขายเนื้อหมู บังเอิญจริง ชื่อแซ่เดียวกันเลย
เซเว่นอัพพูดหยอก “บ้านหวางลิ่วเยว่นึ่คงไม่ได้ขายเนื้อหมูกระมัง”
ผู้จัดการใหญ่เบิกตาโต “เธอรู้ได้ยังไง ตระกูลเขาขายเนื้อหมูมาทุกรุ่น บรรพบุรุษเป็นคนขายเนื้อที่มีชื่อเสียงเลยล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...