โลกปัจจุบัน
มู่หรูกงกงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ แล้ว ยังคงไม่ฟื้นคืนสติมาอย่างสมบูรณ์ เขามึนงงไปหมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้เห็นที่นี่ แทบจะไม่มีอยู่ในเป่ยถังเลยสักอย่าง
เขาไม่เคยเห็นบ้านที่สูงขนาดนี้มาก่อนเลย บ้านสูงขนาดนี้ ต้องขุดฐานรากลงไปลึกแค่ไหนกันนะ? ต้องทำให้ช่างฝีมือกับแรงงานเหนื่อยตายไปกี่คนกันล่ะนี่?
ยังมีรถพวกนั้น องค์หญิงบอกว่าที่นี่ไม่ได้เรียกว่ารถม้า แต่เรียกว่ารถยนต์ แล้วก็ไม่รู้ว่าใช้อะไรลากรถ แต่มันวิ่งได้เร็วมาก เร็วจนทั้งกระเพาะทั้งลำไส้ในท้องปั่นป่วนจนแทบจะมากองรวมกันหมด นั่งทีเดียวก็อยากอาเจียนแทบตายแล้ว
เมื่อกลับถึงบ้าน องค์หญิงช่วยพยุงเขาให้สามารถเหลียวมองไปรอบ ๆ ได้ เขามองดูจนในใจรู้สึกเจ็บปวดไปหมด บ้านหลังนี้ยังมีขนาดไม่ถึงครึ่งห้องบรรทมของฝ่าบาทเลยด้วยซ้ำ
อีกทั้งบ้านหลังนี้ ยังเป็นแบบคนหลายคนอาศัยอยู่รวมกัน นี่จะอยู่กันได้อย่างไรล่ะ?
ฝ่าบาทจะทนอยู่กับความลำบากเหล่านี้ได้หรือ?
"ถ้าเช่นนั้นแล้ว...." เขางุนงงไปชั่วขณะ จากนั้นค่อยเงยหน้าขึ้นถามเจ๋อหลานด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "ข้ารับใช้ในวังอาศัยอยู่ที่ไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
“ที่นี่ไม่มีข้ารับใช้หรอก งานบ้านทุกอย่างพวกเราล้วนต้องทำเอง”
“แบบนั้นจะได้อย่างไรกัน? ฝ่าบาทไม่มีคนดูแลเลยรึ?”
“พ่อเคยมาที่นี่แล้ว เขาไม่ต้องการให้ใครมาคอยดูแลหรอก”
“ไม่ได้ ๆ เงื่อนไขที่นี่เลวร้ายเกินไป ฝ่าบาทจะประทับอยู่ที่นี่ไม่ได้” ขอบตาของมู่หรูกงกงถึงกับเป็นสีแดงเรื่อไปแล้ว ถ้าพระองค์คิดจะเกษียณออกไปจริง ๆ ไม่ว่าจะอยู่กันแออัดแค่ไหน ก็ต้องเป็นสถานที่ที่ใหญ่พอ ๆ กับจวนอ๋องซู่ หรือไม่ก็หมู่ตึกเหมยถึงจะได้
ต่อให้ไม่ถึงขั้นมีคนรับใช้แบบกลาดเกลื่อน แต่ก็ต้องมีคนรับใช้ใกล้ชิดบ้างสักคน
อีกทั้ง เป็นการไม่สมควรที่จะมาประทับอยู่ในห้องที่มีลักษณะคล้ายกรงแบบนี้ มันช่างสร้างความต่ำต้อยด้อยค่าให้ฝ่าบาทเหลือเกินแล้วจริง ๆ
เจ๋อหลานปลอบใจเขาอยู่เป็นนาน แต่ก็ไม่ได้ผล เขาเอาแต่พูดทั้งน้ำตาว่าจะไม่ปล่อยให้ฝ่าบาทมาประทับอยู่ในบ้านหลังนี้ ยังบอกด้วยว่าเขามีเงินเก็บ ไม่รู้ว่าการซื้อบ้านที่นี่แพงขนาดไหน สามารถเพิ่มเงินของเขาเข้าไป เพื่อซื้อบ้านหลังใหญ่ประมาณคฤหาสน์ให้ฝ่าบาทได้
เจ๋อหลานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปหาเซเว่นอัพ เซเว่นอัพยิ้มพลางพูดว่า: "น้องก็บอกไปเขาว่าจะมาพักที่นี่กันแค่ชั่วคราว อีกสองสามวันก็จะย้ายไปที่วิลล่ากันแล้ว ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ฮุยจงก็เคยมีวิลล่ามาก่อนไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คุณปู่โพ่ตี้อวี้ก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ถึงเวลานั้นเราก็แค่ไปขอให้พ่อย้ายไปที่นั่น ไม่อย่างนั้นมู่หรูกงกงคงจะเป็นโรคซึมเศร้าไปก่อนแน่”
"ก็ดีนะ" เจ๋อหลานพูดจบ ก็หันหน้ากลับไปมอง เห็นว่ามู่หรูกงกงดึงตัวท่านอาสวีอีไปคุยกันอีกด้านแล้วเรียบร้อย
เสียงของมู่หรูกงกงดังมาก ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยินกันหมด
"ใต้เท้าสวี เจ้าเคยมาที่นี่กับฝ่าบาท ทำไมไม่รีบบอกแต่แรกว่าเงื่อนไขของที่นี่มันย่ำแย่ขนาดนี้? ข้ายังนับว่าพอมีเงินเก็บออมอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้ไม่ได้พกมาด้วย เจ้าคงพกมาบ้างสินะ? พวกเราออกไปดูบ้านกันเถอะ ต้องซื้อบ้านให้ฝ่าบาทสักหลังถึงจะเหมาะสม"
"กงกง บ้านหลังนี้ถือว่าดีแล้วนะ ก่อนหน้านี้ยังแย่กว่านี้อีก" สวีอีรู้สึกว่าแฟลตขนาดใหญ่แบบนี้มันดีมาก ดูหรูหรากว่าบ้านหลังเล็กก่อนหน้านี้หลังนั้นมากแล้ว "ประชาชนของที่นี่ มีหลายคนเลยที่ไม่อาจมาพักอาศัยอยู่ในบ้านลักษณะเช่นนี้ไหว ”
มู่หรูกงกงพูดด้วยความโกรธเคืองว่า: "ดูที่เจ้าพูดเข้าสิ ฝ่าบาทของพวกเราเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาหรือ? พระองค์ควรประทับอยู่ในที่ที่ใหญ่เท่ากรงนกนี่รึ? ที่นี่ยังใหญ่ได้ไม่ถึงครึ่งของห้องบรรทมฝ่าบาทด้วยซ้ำ ข้าไม่สน อย่างไรก็ให้ฝ่าบาทประทับอยู่ที่นี่ไม่ได้ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...