บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 222

มีฮูหยินท่านหนึ่งลุกขึ้นมา ย่อคำนับต่อหยวนชิงหลิง “หม่อมฉันขอบพระทัยพระชายาที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ”

หยวนชิงหลิงจำนางได้ นางก็คือฮูหยินที่อยู่ในซุ้มโจ๊กวันนั้น ได้รับบาดเจ็บที่มือ นางเป็นคนทำแผลให้เอง

นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฮูหยิน อย่าถือเป็นบุญคุณอะไรเลย มือขอท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ”

“เรียนพระชายา ไม่เป็นไรเพคะ”ฮูหยินหยวนรู้สึกตื้นตัน เสียงจึงดังมาก ราวกับนักเรียนที่ตอบคำถามครู

ต่อมา ทุกคนในบ้านต่างก็ออกมาแนะนำตัว

คนกลุ่มใหญ่ ต่างก็แนะนำตัวจนหมด หยวนชิงหลิงได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ ยิ้มจนหน้าแข็งค้างไปแล้ว

แต่ว่า นางก็จำใครไม่ได้อยู่ดี ไม่เป็นฮูหยินหยวนกับคุณหนูหยวน ก็เป็น ลูกพี่ลูกน้องท่านน้าทั้งหลาย

หยวนชิงหลิงพบว่าทุกคนต่างก็มีพลังที่เปี่ยมล้น ตอนที่เดินออกมาฝีเท้ามั่นคงเสียงดัง ราวกับทุกคนต่างก็รู้วิชากังฟู

นางอดไม่ได้ที่จะถามแม่นมเฉียนที่อยู่ข้างๆว่า “หญิงตระกูลหยวนล้วนฝึกวิทยายุทธด้วยหรือ”

“ทุกคนต่างเป็นยอดฝีมือ”แม่นมเฉียนพูดเสียงเบา

หยวนชิงหลิงเกิดความนับถือขึ้นมา

นางมองไปยังสาวน้อยเหล่านั้น เด็กที่สุดน่าจะเจ็ดแปดขวบ มากสุดก็ไม่เกินสิบห้าสิบหกปี พวกนางมีหน้าตาเหมือนหยวนหย่งอี้มาก ล้วนมีใบหน้ากลมน่ารัก

หลังจากแนะนำตัวกันแล้ว ก็ได้เวลามอบของขวัญ

ทุกคนต่างก็เตรียมของขวัญมาให้หยวนชิงหลิง

หยวนชิงหลิงตกใจจนพูดไม่ออก

นางมองโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาวุธกองโต ดาบยาว มีดสั้น ธนู มีดใหญ่ ขวาน กล่องอาวุธลับ

“ดาบเล่มนี้ข้าได้สั่งให้คนตีขึ้นที่ซีอี้ ตีมาจากเหล็กกล้า ตัดเหล็กราวกับตัดดินเหนียว เส้นผมลอยมากระทบก็ขาดได้ ไม่เชื่อพระชายาจะลองสะบัดดูก็ได้”ฮูหยินเฒ่าเอ่ยราวกับมอบของล้ำค่าที่สุดให้

“ท่านย่า พระชายาตั้งครรภ์ ไม่สามารถออกแรงลงมือได้ ”หยวนหย่งอี้เอ่ยเตือน

ฮูหยินเฒ่าออหนึ่งเสียง เอ่ยอย่างขออภัยว่า “ข้าเสียมารยาทแล้ว”

หยวนชิงหลิงโบกมือ ยิ้มอย่างแกนๆ “ไม่สะดวกจริงๆ ครั้งหน้า ครั้งหน้าข้าจะลองดู”

“ข้าเอง”น้องสาวคนเล็กของตระกูลหยวนเดินออกมา ก็คือเด็กหญิงอายุเจ็ดแปดขวบคนนั้น หยิบดาบขึ้นมา ดึงดาบออกจากฝักแล้วก็ชูขึ้นเป็นแนวนอนระดับเดียวกับสายตา ยิ้มอย่างเขินอายกับหยวนชิงหลิง แล้วก็เห็นนางก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็วประมาณสามจั้ง จนถึงหน้าประตู เขย่งเท้า แล้วก็กระโดดขึ้น ยื่นดาบออกไป ข้อมือก็ไม่รู้ว่าขยับเช่นไร เพราะหยวนชิงหลิงเห็นเพียงแสงเย็นๆที่ส่องประกายออกมาเป็นสายไม่ขาด แสงของดาบเบ่งบานราวกับดอกไม้ สาวน้อยคนเหินลงมาด้วยความเบาหวิว ดาบยาวฟันลงไปที่ฉากกั้นกลางโถงใหญ่ ได้ยินเพียงเสียงดัง “ฉับ ”ฉากกั้นแยกออกเป็นสองส่วน ล้มไปกับพื้น

น้องเล็กของตระกูลหยวนเก็บท่าแล้วก็ร่อนลงพื้น เก็บดาบคืนฝัก ยืนสองมือแนบลำตัว ใบหน้ามีรอยยิ้มจางๆ แต่เส้นผมกลับไม่เคลื่อนไหวเลยสักเส้น

แม่นมฉีหัวใจสลาย ฉากกั้นที่แกะสลักจากไม้เฮยถานที่ท่านอ๋องรักที่สุด สวรรค์

“ลองลูกตุ้มดาวตกของข้าดู ”แล้วก็มีสาวน้อยคนหนึ่งวิ่งออกมา เอาลูกตุ้มดาวตกที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ระหว่างที่กำลังดึงและปล่อยสายโซ่ ได้ยินเพียงเสียงลมหวือ ราวกับฟ้าพิโรธ ราวกับกำลังมหาศาล ชั่วพริบตา ก็เห็นลูกตุ้มดาวตกทุบไปทางซ้ายที ทางขวาที หลายครั้งที่หยวนชิงหลิงนึกว่าจะทุบมาทางตนเอง แต่ก็แค่การหลอกล่อเท่านั้น แล้วก็เก็บกลับไปอย่างรวดเร็ว

แม่นมฉีเห็นว่าบนพื้นเต็มไปด้วยหลุม ไม่รู้จะซ่อมให้เป็นเหมือนเดิมต้องเสียเงินอีกเท่าไหร่

“ยังมีข้า”หญิงสาวอายุราวสิบสามสิบสี่เดินออกมา เลือกธนูยาว แล้วก็ออกไปนอกประตูอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาก็ไม่เห็นเงาร่างของนางแล้ว

ระหว่างที่หยวนชิงหลิงกำลังประหลาดใจ ก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้น “ฟิ้ว”เสียงแหวกทะลุอากาศมา ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ก็รู้สึกเย็นเยือกที่หนังศีรษะ ราวกับมีลมผัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง นางยื่นมือออกไปจับ ปิ่นปักผมไม่อยู่แล้ว รีบหันกลับไปดูอย่างตกใจ เห็นเพียงลูกดอกธนูปักอยู่ที่กำแพงด้านหลัง ปั่นปักผมของนางก็ถูกปักเอาไว้ด้วย

หยวนชิงหลิงปรบมือด้วยร่างกายที่แข็งทื่อ และก็ไม่รู้ว่าใบหน้าของตัวเองเป็นสีอะไร ได้แต่ยืนขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นคงนัก พยายามใช้กิริยาที่เหมาะสมพูดว่าฮูหยินหยวนว่า “ฮูหยิน ขออภัยที่ข้าต้องเสียมารยาทสักครู่ ข้าจะไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน