หยวนชิงหลิงฟังคำพูดนี้แล้ว ก่อนอื่นนางมองหน้าเต๋อเฟยก่อน
ในฐานะนางสนมผู้มีชื่อเสียงและมีคุณธรรมในวังหลัง สิ่งที่ได้ถูกอบรมสั่งสอนจากในครอบครัว นางน่าจะรับคำพูดที่น่าสะเทือนใจแบบนี้ไม่ได้
เป็นเช่นนั้นจริงๆ เต๋อเฟยเหมือนถูกฟ้าผ่า หัวสมองเกือบจะระเบิดจนว่างเปล่า หลังจากค่อยๆได้สติกลับคืนมา นางโกรธจนมือชา ชี้ไปที่สนมซู ปากสั่นเล็กน้อย แล้วจึงพูดออกมาไม่กี่คำ “เป็นคำพูดที่ไร้ยางอายสิ้นดี!”
สนมซูเผยรอยยิ้มที่แสนวิเศษ ราวกับดอกไม่ในสายหมอก ทำให้คนรู้สึกถึงความงดงาม นางมองเต๋อเฟย แล้วกล่าวต่อ “ท่านหญิงรู้สึกว่ามันไร้ยางอายเหรอ? ท่านเป็นคนที่รู้จักยางอาย แต่ว่าในชีวิตนี้ของท่าน ก็ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง โปรดปรานก็คือความว่างเปล่า เมื่อใบหน้าท่านแก่ลง ไม่รู้ว่าจะรู้สึกเสียใจมั้ย ที่ไม่เคยมีช่วงเวลาที่ร้อนแรงเช่นนี้มาก่อน?”
“หุบปาก เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้!” เต๋อเฟยชี้ไปที่นาง โกรธจนหน้าหมองคล้ำ “เจ้ารีบๆตายซะ”
สนมซูค่อยๆเดินไปที่ผ้าขาว ยื่นมือไปลูบมันหนึ่งที
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่า แม้คนผู้นี้จะเลวทราม แต่ว่า มันเป็นสิ่งที่นางเลือก หากนางรู้สึกว่านางกับอู๋ซูฮั่วนั้นคือความรัก เติมเต็มชีวิตนาง เช่นนั้นนางก็คงจากไปอย่างไม่เสียใจ
การมีชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ไม่มีอะไรน่าวิจารณ์
เต๋อเฟยที่ใบหน้าหมองคล้ำ มองสนมซูอย่างไม่เหลือความสงสารเลย ทำเพียงมองนางหยิบผ้าขาวอย่างเย็นชา
หยวนชิงหลิงก็รู้สึกว่า นางน่าจะแขวนคอตายอย่างไม่ลังเล
แต่แล้ว สนมซูก็กอดผ้าขาวแล้วคุกเข่าลงพื้น ร้องไห้ขอร้องอย่างเจ็บปวด ท่านหญิงเต๋อเฟย ขอร้องท่านช่วยไปขอร้องฮ่องเต้ บอกว่าหม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว หม่อมฉันไม่กล้าทำผิดอีกแล้ว ขอร้องฮ่องเต้ไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย ไล่ข้าออกจากวังก็ได้ หรือขังข้าในคุกก็ได้ ขอเพียงแค่ไว้ชีวิตของข้า
หยวนชิงหลิงปรับตัวไม่ค่อยทันกับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเช่นนี้
เมื่อกี้นางยังไม่มีความสำนึกผิดเลยอีกทั้งยังป่าวประกาศชีวิตที่มีความหมายของนางอย่างลำพองใจ แม้ว่าจะทำให้คนไม่เห็นด้วยแต่ก็ต้องนับถือต่อความกระตือรือร้นนี้
สุดท้ายทั้งคุกเข่าทั้งร้องไห้ คนทั้งคนหมดสภาพไปเลย
เต๋อเฟยกล่าวอย่างเย็นชา “เมื่อกี้เจ้ายังพูดได้น่าฟังอยู่เลยไม่ใช่รึ? เจ้าพูดว่าข้านั้นเป็นเหมือนคนที่ตายไปแล้วไม่ใช่รึ? ข้ายินดีที่จะเป็นคนที่ตายไปแล้ว เจ้าก็ไปเป็นคนตายของเจ้าเถอะ “
“ไม่ ไม่” สนมซูคลานเข่าขึ้นมา ร้องไห้ได้น่าสงสารมาก “กระหม่อมไม่รู้ว่าต้องใช้ความตายเป็นค่าตอบแทน หากรู้แต่แรก หม่อมฉันยินดีที่จะโดดเดี่ยวทั้งชีวิต ท่านหญิง ท่านช่วยขอร้องแทนข้าด้วยเถอะ”
สนมซูขอร้องเต๋อเฟยเสร็จ ก็ไปขอร้องหยวนชิงหลิง “พระชายาฉู่ ข้ารู้ว่าไท่ซ่างหวงเอ็นดูท่าน ท่านไปขอร้องไท่ซ่างหวง ให้ไว้ชีวิตข้าด้วยเถอะ”
หยวนชิงหลิงหันหลัง อยากให้เมื่อกี้นางแขวนคอตายไปเลย อย่างน้อย คนที่มองดูอยู่ยังจะสบายใจหน่อย
ความคิดที่เปลี่ยนไปมาของสนมซู อันที่จริงนางนั้นเข้าใจ
คำพูดที่นางพูดกับเต๋อเฟย เพียงเพื่อที่ต้องการเพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง อยากให้ตัวเองเผชิญกับความตายสงบ นางเคยได้ในสิ่งที่คนที่มีฐานะสูงส่งอย่างเต๋อเฟยไม่เคยได้ ไม่มีความเสียใจอะไรแล้ว ชีวิตนี้ไม่มีอะไรจะเสียใจแล้ว ตายก็ไม่กลัวแล้ว
แต่สุดท้ายนางก็เป็นคนที่โลภแต่ความสุขโดยไม่ยอมรับผิดชอบผลที่ตามมา
เมื่อวินาทีที่ต้องเผชิญกับความตาย นางไม่สามารถโน้มน้าวตัวเองด้วยความสุขที่ไร้สาระเหล่านั้นได้
นางรับไม่ได้ ความสุขที่ขโมยมา ต้องใช้ชีวิตตัวเองไปชดใช้
เผชิญกับการขอร้องของนาง หยวนชิงหลิงทำได้เพียงกล่าว “สนมซู ทุกคนต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...