ตอนนี้หยู่เหวินเห้าและหยวนชิงหลิงคืนดีกันแล้ว
แต่ทว่าท่าทีของทั้งสองนั้นยังไม่ได้ดีมากนัก และไม่มีการเท้าความเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกเลย ทางด้านหยู่เหวินเห้าเองก็ไม่ได้ไถ่ถามอะไรกับขอทานขาพิการอย่างหูหมิงด้วย เขาเพียงแต่ฟังสวีอีแจ้งว่าหยวนชิงหลิงรับเขาเอาไว้ในจวน และเขาเพียงแต่พยักหน้ายอมรับด้วยความเข้าใจเท่านั้น
ในตอนเช้าก่อนที่เขาจะกลับไปยังที่ทำการปกครอง เขาได้จูบลงบนหน้าผากของหยวนชิงหลิง “วันนี้ข้าจะกลับมาเร็วขึ้นจะได้ร่วมโต๊ะอาหารกับเจ้าด้วย”
หยวนชิงหลิงดึงแขนเสื้อแล้วลุกขึ้นมาช่วยจัดปกเสื้อให้กับเขา “ได้”
หลังจากมองดูเขาจากไป นางก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
เมื่อคืนนี้เขานอนกอดนางไม่ยอมปล่อยเลยทั้งคืน แต่ว่าเขาเอาแต่พูดจาอย่างระมัดระวังอยู่ตลอดเพราะกลัวว่าจะไปสะกิดใจนางหรือทำให้นางเสียใจ
ทั้งที่ความจริงแล้วนางไม่ได้ชอบให้ทุกอย่างเป็นเช่นนี้เลย นางรู้สึกว่าการที่ทั้งสองมีการต่อล้อต่อเถียงกันมันเหมาะสมกับทั้งสองมากกว่า
หลังจากที่ได้พูดคำนั้นไป นางรับรู้ได้ถึงความรักและความตื้นตันใจของเขา เขาราวกับว่ายิ่งมอบความใส่ใจกับนางมากขึ้น ในยามกลางดึกเพียงนางขยับตัวนิดเดียวเขาก็จะรีบลืมตาขึ้นมาดูนางทันที
หรือบางทีที่จริงแล้วไม่ว่าหลักการใดๆ หรือมุมมองต่างๆ มันไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้น
วันข้างหน้าเพียงแค่ต้องพยายามที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
นางเองก็ต้องพยายามลืมความกลัวจากการตายของสนมซูที่ได้เกิดขึ้นเช่นกัน
หลังจากออกจากห้องนางก็พยายามที่จะลืมเลือนเรื่องนี้ไปเสีย และไม่คิดที่จะไม่พูดกล่าวถึงมันอีกเพราะว่านั่นนับเป็นความฝันที่เลวร้าย
ส่วนเรื่องคดีนี้จะถูกตัดสินอย่างไรนั้น นางเองไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก
และในกล่องยาจะมีแว่นตาอันหนึ่งอยู่ ซึ่งรู้ว่าจะต้องมอบให้แก่องค์ชายแปด แต่นางยังคงไม่ได้นำเข้าไปส่งในวังเสียที
“พระชายา พระชายาจี้มาถึงแล้วเจ้าค่ะ” แม่นมสี่เข้ามาด้านในพร้อมกล่าวแจ้ง
หยวนชิงหลิงพยักหน้า “ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”
วันนี้พระชายาจี้สวมเป็นชุดผ้าแพรสีน้ำเงินอมเขียว พร้อมคลุมด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอก ท่าทีของนางดูสดใสขึ้นมาก ใบหน้าก็ไม่ได้ซีดเซียว
ภายในแววตาของแฝงด้วยความรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น แต่ทว่าสายตาของนางนั้นกลับจ้องไปยังแม่นมสี่อยู่เสมอ
หยวนชิงหลิงที่ให้ยานางกับนางเรียบร้อยจึงกล่าวถาม : “มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ อัดอั้นไว้คนเดียวไม่ดีนักหรอก”
หลังจากที่ได้พบปะกับพระชายาจี้มานาน จึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วนางไม่ใช่คนที่เดาใจยากถึงเพียงนั้น
พระชายาจี้ที่เหมือนจะอัดอั้นมานานเมื่อได้ยินหยวนชิงหลิงพูดเช่นนี้ นางจึงได้เล่าความทันที : “วันนี้ในช่วงเช้าตรู่ ข้าได้ยินเรื่องที่น่าสนใจบางอย่างมา”
“จะเป็นเรื่องน่าสนใจหรือไม่น่าสนใจ ข้าก็ไม่ชอบฟังทั้งนั้น” หยวนชิงหลิงย้อนกลับอย่างเฉยเมย
“มีความเกี่ยวข้องกับแม่นมสี่ บางทีเจ้าลองฟังสักหน่อยจะดี” พระชายาจี้กล่าว
หยวนชิงหลิงรีบเหลียวหันไปมองแม่นมสี่ทันที และได้เห็นสายตาของนางที่มองมา ใบหน้าของนางที่ตกใจกลายเป็นซีดเผือดขึ้นมา
“แม่นมสี่เจ้าออกไปก่อนเถอะ” หยวนชิงหลิงกล่าว
แต่แม่นมสี่กลับมองไปยังพระชายาจี้ “ไม่ทราบว่าพระชายาได้ข่าวอะไรมาหรือเจ้าคะ?”
พระชายาจี้เล่าความพลางมองหน้านาง : “ที่จริงตัวข้ารู้ดีว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่น่าขบขันและไร้ซึ่งที่มาที่ไป แต่ด้านนอกมีการแพร่กระจายไปทั่วว่าในปีนั้นแม่นมสี่ใช้สิทธิ์จากการเป็นหัวหน้านางข้าหลวงในตำหนักไท่ซ่างหวง คุกเข่าต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์เป็นเวลาสามวันสามคืนเพื่อให้ไท่ซ่างหวงสั่งการให้โสวฝู่ฉู่อภิเษกนางเป็นพระชายาเอก แต่ทางโสวฝู่ฉู่นั้นไม่ยินยอม แม่นมสี่จึงบีบบังคับด้วยการจะแขวนคอฆ่าตัวตายเสีย จนท้ายที่สุดนางก็สร้างเรื่องจนไท่ซ่างหวงสั่งโบยนางไปยกใหญ่ แต่นางยังคงไม่ยอมรามือและใช้โอกาสในยามที่โสวฝู่ฉู่เดินทางเข้าวังพยายามใช้เสน่ห์ความงามเพื่อล่อลวง จนนางถูกโสวฝู่ฉู่ต่อว่าอย่างรุนแรงจนต้องอับอาย นับตั้งแต่นั้นโสวฝู่ฉู่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าวัง เพราะต้องการที่จะหลบหลีกนาง ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปความของตัวข้าเอง เพราะด้านนอกลือกันได้น่ารังเกียจเกินไป ทั้งเรื่องการใช้ความงามหลอกล่อนั่นก็เล่าได้อย่างสมจริงสมจังอย่างมากด้วย ไม่ น่าฟังต่างหาก”
ทันใดนั้นสีหน้าของแม่นมสี่ก็ซีดขาวจนดูไม่ได้พร้อมกับพูดออกมาด้วยความเย็นชา: “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง”
“เรื่องจริงเป็นเช่นไร ไม่มีผู้ใดทราบอยู่แล้ว และคนที่ปล่อยข่าวลือเองก็ไม่ได้สนใจด้วยว่าเรื่องจริงมันเป็นเช่นไรด้วย” พระชายาจี้ปิดปากยิ้มอยู่ชั่วขณะก่อนจะกล่าวต่อ : “ยังมีที่หยาบคายกว่านี้อีกว่าการที่จวนอ๋องฉู่เลี้ยงดูคนเช่นนี้เพราะว่าแม้แต่ตำแหน่งพระชายาฉู่เองก็ได้มาเช่นนี้เหมือนกัน”
แม่นมสี่ที่ตอนนี้ริมฝีปากสั่นเครือ แต่กลับพยายามที่จะแสดงสายตาที่เย็นชา “เช่นนั้นก็ปล่อยให้คนอื่นพูดกันตามสบาย ในเมื่อคนพูดไม่ได้สนใจ แน่นอนว่าคนอื่นไม่มีทางสนใจหรอกเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...