คำพูดนี้เหมือนใบมีดที่นับไม่ถ้วน ในเวลาเดียวกันก็ได้ทิ่มแทงเข้าไปในใจหยู่เหวินเห้า
เขายื่นมือไปกอดนางเอาไว้ ในใจนั้นเจ็บปวดมาก หลับตาลง แต่ก็ไม่สามารถที่จะกดความเจ็บปวดและน้ำตาเอาไว้ได้
“ขอโทษ ขอโทษ.........” น้ำเสียงของเขา แผดเผาไปด้วยความเสียใจ
หยวนชิงหลิงก็เบิกตากว้าง แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ที่แท้ การเมตตาต่อศัตรู ก็คือการโหดร้ายต่อตัวเองคำพูดนี้ เป็นคำพูดที่ถูกต้องที่สุด
นางเคยใจอ่อนขนาดนั้น เคยเมตตาขนาดนั้น เคยบริสุทธิ์ขนาดนั้น บัดนี้ล้วนตลกสิ้นดี
ลูกน้องข้างกายโสวฝู่ฉู่ ได้นำยามามากมาย
โสวฝู่ฉู่ได้เทยาทั้งหมดออกมาบนโต๊ะ เลือกออกมาจากในนั้นสองสามขวด เปิดฝาแล้วเทยาออกมา ยาทุกชนิด เขาได้กินมันเข้าไปก่อนหนึ่งเม็ด อดทนรอเวลาไปสิบนาที แล้วก็ค่อยบดยาป้อนให้แม่นมสี่
หยวนชิงหลิงไม่ได้ห้ามเขา หมอหลวงก็ไม่ได้ห้ามเขา
อยู่ในห้องนี้ เขามีสิทธิ์ที่จะทำการรักษาช่วยชีวิตแม่นมสี่ได้ทุกวิถีทาง
เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น และก็ไม่ถามอะไรเลย ใบหน้าก็ไม่มีความโศกเศร้าหรือความกังวลเหมือนกับท่อนไม้ แต่ว่าบนตัวเขาได้แผ่กระจายความสิ้นหวังออกมา ความสิ้นหวังของคนแก่คนหนึ่ง
หลังจากป้อนยาไปแล้ว เขาก็นั่งอยู่ข้างเตียง จับมือของนางเอาไว้ ไม่พูดไม่จา
สักครู่ใหญ่ ฉางกงกงกับเซียวเหยากงก็มาถึง
เซียวเหยากงได้นำบัวหิมะมาหนึ่งดอก สั่งคนไปต้ม โสวฝู่ฉู่ได้ป้อนนางด้วยตัวเอง ยาได้ไหลออกมาทางมุมปาก เข้าไปน้อยมาก ไหลออกมาเยอะกว่า
ลมหายใจ ยังคงแผ่วเบาอย่างมาก
แต่ว่า ดีกว่าเมื่อกี้นิดหน่อย
หมอหลวงจับชีพจร คำตอบยังคงคือสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี
“โสวฝู่ฉู่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ ในเวลาอันใกล้ นางยังคงไม่สิ้นใจ” เซียวเหยากงกล่าวปลอบใจ “ท่านควรกลับไปจัดการธุระก่อน”
โสวฝู่ฉู่ไม่ขยับตัวเลย กล่าวอย่างเรียบเฉย “ใจร้อนทำไม?”
“ไท่ซ่างหวงตรัสว่า ลงโทษผู้ปล่อยข่าวลือให้หนัก” เซียวเหยากงกล่าวด้วยเสียงเบา
โสวฝู่ฉู่กล่าวอย่างเรียบเฉย “ลงโทษให้หนัก”
เขาหัวเราะแล้ว “พวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าอยากจะอยู่เป็นเพื่อนนาง”
ทุกคนก็ทยอยกันออกไป เหลือเพียงเขาสองคนที่อยู่ข้างใน
หยวนหย่งอี้อาศัยข้ออ้างอยู่เป็นเพื่อนอะซี่ ก็เลยไม่ได้กลับจวนอ๋องฉี
ค่ำคืนนี้ ไม่มีใครจะหลับตาลงได้อย่างจริงจัง ทั้งคืนหยวนชิงหลิงก็มาตั้งหลายครั้ง ให้น้ำเกลืออย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มา โสวฝู่ฉู่ยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง นั่งกุมมือของนางอยู่อย่างเงียบๆ จ้องมองนาง หวังอยากจะให้นางฟื้นขึ้นมา
มองจนหยวนชิงหลิงรู้สึกเศร้าใจนัก
ความหมายของหมอหลวงกับหยวนชิงหลิงก็คือเฝ้าสังเกตอาการหนึ่งคืน ดังนั้น ตอนใกล้ค่ำเซียวเหยากงก็ได้กลับไปก่อน ฉางกงกงนั้นอยู่ที่จวนต่อ
เช้าวันต่อมาพระอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น เซียวเหยากงก็มาแล้ว ครั้งนี้ เซียวเหยากงได้พาคนมาด้วยสองคน ให้หยู่เหวินเห้าต้อนรับอยู่ข้างนอก เขาเข้าไปหาโสวฝู่ฉู่ก่อน
เซียวเหยากงเข้ามา ก็เห็นเขายังนั่งอยู่ข้างเตียงเหมือนกับท่านั่งตอนที่เขาจากไปเมื่อวาน เซียวเหยากงถอนหายใจเบาๆเหมือนอยากจะร้องไห้ “โสวฝู่ฉู่ ผมของท่านหงอกแล้ว”
ผมของโสวฝู่ฉู่ เดิมนั้นมีทั้งผมหงอกผมดำ แต่บัดนี้มันผมได้หงอกไปทั้งหัวแล้ว
เขานั้นก็ดูแก่ลงไปอย่างมากเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังจะโรยรา จู่ๆก็โรยราไปทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...