อ๋องฉีหดหู่ “ทำไมน้ำเสียงของเจ้าเหมือนกับกำลังกล่อมเด็กน้อยเลย? ยังจะแนะนำพระชายาให้ข้าอีก เรื่องแต่งงานของข้า ต้องให้เสด็จแม่เป็นคนตัดสินใจ”
หยวนหย่งอี้ยิ้มแล้ว ฉีกยิ้มยิงฟัน เผยให้เห็นลักยิ้มที่น่าหลงใหล “ท่านย่าบอกว่า ผู้ชายก็เหมือนเด็กน้อย ปลอบหน่อยก็ดีแล้ว สำหรับเสด็จแม่ของท่าน..........”
อ๋องฉีโกรธแล้ว “ก็เป็นเสด็จแม่ของเจ้าด้วย!”
หยวนหย่งอี้เหมือนเพิ่งจะนึกถึงความสัมพันธ์ของเขาสองคน ถูจมูกอย่างไร้อารมณ์ “ข้าไม่ใช่พระชายา ไม่ควรเรียกเสด็จแม่”
อ๋องฉีหรี่ตาลง “เจ้าบอกให้ข้าเลิกร้างมาโดยตลอด ตอนนี้ก็มาพูดแบบนี้ เพราะเจ้าอยากจะเป็นพระชายาใช่มั้ย?”
หยวนหย่งอี้ถาม “เป็นพระชายามีอะไรดี?”
“ข้อดีมีเยอะแยะ อ๋องฉีคิดไปครู่หนึ่ง อย่างน้อย เจ้าก็จะเป็นภรรยาที่ข้าแต่งเข้าจวนอย่างถูกต้องครรลองคลองธรรม”
“เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรมมีอะไรดี?” หยวนหย่งอี้ถามอีก
อ๋องฉีมองนาง “ก็เจ้าอยู่ในจวนอยากได้ลมก็ได้ลมอยากได้ฝนก็ได้ฝน บ่าวไพร่ต่างก็จะฟังเจ้า”
หยวนหย่งอี้ถามกลับ “แล้วตอนนี้ข้าอยู่ในจวนข้าไม่สามารถได้สิ่งที่ข้าต้องการหรือ? ตอนนี้บ่าวไพร่ไม่ฟังข้าหรือ?”
“เจ้าสามารถออกงานที่ใหญ่เล็กกับข้าได้”
หยวนหย่งอี้หัวเราะแล้ว “ตอนนี้ข้าไม่สามารถออกงานเล็กงานใหญ่หรือ?”
อ๋องฉีจ้องมองนาง “เจ้านั้นจงใจเถียงโดยเฉพาะใช่มั้ย? เจ้าคงไม่ถึงกับไม่รู้ข้อแตกต่างระหว่างพระชายากับชายารองหรอกนะ พระชายาเป็นภรรยา ชายารองเป็นอนุ สถานะไม่เหมือนกัน”
“ภรรยาก็ดี อนุก็ดี ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงว่าข้านั้นเป็นใคร” หยวนหย่งอี้ยกมือขึ้น “ข้าไม่ชอบเป็นภรรยาของท่าน ทางที่ดีที่สุดหาคนอื่นเถอะ สำหรับเรื่องที่ห่วงว่าท่านจะเลิกร้างกับฉู่หมิงชุ่ยหรือไม่ มันมีผลต่อผลประโยชน์ของข้า ใครอย่าจะมีนายหญิงแบบนี้ในจวนล่ะ? ข้าไม่ชอบที่เห็นนาง”
พูดจบ นางก็ลุกขึ้นจะเดินจากไป
อ๋องฉีดึงมือนางเอาไว้ “อย่าไป คุยเป็นเพื่อนข้าก่อน”
หยวนหย่งอี้กล่าว “จะกินข้าวแล้ว”
เรื่องกินข้าวใหญ่กว่าฮ่องเต้เสียอีก เรื่องนี้ชักช้าไม่ได้
“แค่ไม่กี่ประโยค ข้ามีคำถามจะถามเจ้า เรื่องสำคัญ” อ๋องฉีท่าทางจริงจัง
หยวนหย่งอี้ทำได้เพียงนั่งลง สะบัดมือเขาออก “เจ้าก็ถามมาเลย อย่าถึงเนื้อถึงตัว”
อ๋องฉีก็ไม่ได้ถือสานาง ถามขึ้น “วันนั้นที่ข้าทะเลาะกับนาง พูดถึงเรื่องแย่งตำแหน่งรัชทายาท ข้าอยากรู้ว่าเจ้านั้นคิดยังไง? เจ้าคิดว่าข้าควรที่จะไปแย่งชิงมั้ย?”
หยวนหย่งอี้ถามกลับ “ท่านอยากเป็นรัชทายาทมั้ย?”
อ๋องฉีส่ายหัว “ไม่อยาก”
“อยากเป็นฮ่องเต้มั้ย?”
อ๋องฉีได้ยินคำพูดนี้ ลูกตาแทบจะหลุดออกมาแล้ว รีบยกมือขึ้นห้าม อย่าพูดไปเรื่อย คำพูดเหล่านี้มันคือกบฏ พูดไม่ได้เด็ดขาด
“ข้าก็แค่ถามว่าท่านอยากเป็นหรือเปล่า ท่านลองคิดดูให้ดี ค่อยตอบคำถามนี้กับข้า” หยวนหย่งอี้กล่าว
อ๋องฉีส่ายหัว “ไม่ต้องไปคิดให้ดี ข้าสามารถตอบเจ้าตอนนี้เลย ไม่อยาก ไม่อยากเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ทำไมถึงไม่อยาก?”
อ๋องฉีพูดตามความจริง “ข้านั้นรู้ความสามารถของตัวเองดี”
เขามองนาง กล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าพูดแบบนี้ เจ้ารู้สึกอยากจะดูถูกข้าใช่มั้ย?”
หยวนหย่งอี้ส่ายหัว ดวงตาที่กลมโตเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ในทางกลับกัน ข้าจะมองท่านสูงขึ้นไปอีกหนึ่งขึ้นเพราะว่าท่านนั้นรู้จากตัวเอง ท่านย่าพูดเป็นประจำ คนเรานั้นต้องรู้จักตัวเอง เป็นการสั่งสอนพวกเรา มีความสามารถแค่ไหน ก็ทำเรื่องแค่นั้น อย่าคิดไปอาจเอื้อม อย่าหวังสูงเกินไป
อ๋องฉีตกใจ “ความหมายของเจ้าคือ เจ้าเห็นด้วยที่ข้าไม่ไปแย่งชิง?”
หยวนหย่งอี้กล่าวอย่างจริงจัง “ท่านอ๋องฉี ชีวิตมีค่ามาก ทุกคนมีแค่ชีวิตเดียว อย่าเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงส่งเดช ยิ่งอย่าเพราะผู้หญิงที่ไม่ได้รักท่านคนหนึ่ง ไปท่านเรื่องที่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้ ฉู่หมิงชุ่ยไม่มีค่าพอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...