บัลลังก์หมอยาเซียน นิยาย บท 313

ฮองเฮาไม่รู้จะพูดยังไง มองดูฮ่องเต้หมิงหยวนอย่างอ้ำอึ้ง เห็นสีหน้าเขาเคร่งเครียด จึงรีบส่งสายตาให้ฮูหยินย่า ให้นางพูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้ดีขึ้น

ฮูหยินย่ากลับพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ฮ่องเต้ แม่นางฮองเฮา อ๋องฉีเป็นถึงลูกหลานเชื้อพระวงศ์หลงใหลชายารองมากกว่าชายาเอก ถึงแม้ชุ่ยเอ๋อจะใจร้อน แต่ก็ไม่ใช่ความผิดนางคนเดียวทั้งหมด ตอนนี้เพราะมีพระชายารองอ๋องฉียืนกรานที่จะเลิกร้าง เป็นที่เลื่องลือออกไปจะกลายเป็นที่ขำขัน เสื่อมเสียชื่อเสียงราชวงศ์กับตระกูลฉู่ ขอฮ่องเต้มีราชโองการ รออาการบาดเจ็บของอ๋องฉีดีขึ้นแล้ว ขอฮ่องเต้พิจารณาลงโทษ พร้อมทั้งไม่ให้มีการเลิกร้าง

ฮูหยินย่าพูดอย่างไม่ได้มีความหมายขอร้องเลยสักนิด กลับกัน ยังค่อนข้างบีบบังคับ

แม้กระทั่งนางถึงขั้นเอาชื่อเสียงของราชวงศ์กับตระกูลฉู่มาพูดด้วยกัน ทำให้สีหน้าฮองเฮาเปลี่ยนไป รีบหันไปมองฮ่องเต้หมิงหยวนอย่างประหลาดใจ

สีหน้าฮ่องเต้หมิงหยวนเมื่อกี้ยังย่ำแย่ เมื่อได้ยินคำพูดของฮูหยินย่า เขากลับไม่โกรธแล้ว สีหน้ายังแฝงไปด้วยรอยยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮูหยินใหญ่ ใจเย็นๆ เรื่องนี้ข้าจะถามให้ชัดเจน ได้ยินโสวฝู่พูดว่า สุขภาพของท่านไม่ค่อยดี กลับไปพักผ่อนเถอะ เรื่องของลูกหลาน ปล่อยให้เป็นไปตามการกระทำของลูกหลาน อย่าเป็นกังวลเลย”

พูดเสร็จเขาลุกขึ้นเดินจากไป ก่อนไปได้หันไปมองดูฉู่หมิงชุ่ยอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง

ฮูหยินย่าโกรธอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้หมิงหยวนจะไม่พูดปลอมเลยสักประโยค ไปเสียแบบนี้ ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ

หลังจากฮ่องเต้หมิงหยวนออกไปแล้ว ได้สั่งมู่หรูกงกงว่า “ไปตามอ๋องฉู่กับอ๋องฉีเข้าวัง”

มู่หรูกงกงอึ้ง แล้วถามขึ้นว่า “ฮ่องเต้ อ๋องฉียังบาดเจ็บอยู่”

“ไม่ถึงตาย” ฮ่องเต้หมิงหยวนพูดขึ้นอย่างเย็นชา หากอาการสาหัส คนในจวนคงมารายงานแต่แรกแล้ว “อีกอย่าง เอาเรื่องนี้ไปรายงานไทเฮา ให้ไทเฮาไปด้วยตัวเองสักครั้ง”

มู่หรูกงกงรับคำสั่ง

ฮองเฮาเห็นฮ่องเต้หมิงหยวนไปแล้ว ก็ได้สั่งคนพยุงฮูหยินย่านั่งลง พร้อมรีบพูดขึ้นว่า “ท่านย่า ทำไมถึงพูดกับฮ่องเต้เช่นนี้? ไม่เป็นการทำให้ฮ่องเต้โกรธหรือ?”

ฮูหยินย่าพูดขึ้นด้วยสีหน้าค่อนข้างเคร่งขรึมว่า “ฮองเฮา เดิมนี่ถือเป็นความบกพร่องของเจ้า ที่ไม่อบรมสั่งสอนอย่างเข้มงวด ทำให้ชิงเอ๋อเอาแต่ใจเช่นนี้ กล้าคิดเลิกร้างกับชายาเอกเพื่อชายารอง เป็นที่เลื่องลือออกไป ตระกูลฉู่ของข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? เจ้าจะให้ชุ่ยเอ๋อมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร?”

ฮองเฮาพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ท่านย่า ท่านพูดเช่นนี้ข้าไม่ชอบฟัง อย่างอื่นไม่ว่า แต่ชิงเอ๋อไม่มีทางเลิกร้างกับชายาเอก เพราะหลงใหลชายารองหยวน เขาเคยเข้าวังมาทูลเรื่องนี้แล้ว ข้าก็ได้ต่อว่าเขาไปแล้ว ส่วนเมื่อหลังจากกลับไปแล้วพวกเขาทะเลาะกันยังไง ข้าไม่รู้”

นางหันไปมองฉู่หมิงชุ่ย พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเย็นชาว่า “แต่ต่อให้อย่างไร เจ้าก็ไม่ควรทำร้ายเขา หากไม่ใช่เพราะเจ้าทำอะไรเกินเหตุ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะเลิกร้างกับเจ้า อีกอย่าง คำพูดเมื่อกี้ที่เจ้าพูดต่อหน้าฮ่องเต้ ไม่เป็นการทำให้ฮ่องเต้สงสัยในตัวลูกเจ็ดหรือ? เจ้ากำลังทำร้ายเขา เดิมพวกเจ้าก็ไม่ควรที่จะเข้าวังมาในครั้งนี้ มีเรื่องอะไร สั่งคนมาบอกข้าไม่ได้หรือ?”

ฉู่หมิงชุ่ยเห็นฮ่องเต้ไปแล้ว ก็ไม่ร้องไห้อีก คุกเข่าพร้อมพูดร้องขอว่า “ท่านน้า หลานไม่อยากเลิกร้าง ขอท่านช่วยพูดให้เขาล้มเลิกความคิดนี้เสีย”

“ตระกูลฉู่ของข้า ไม่เคยมีชายาเอกที่ถูกทอดทิ้ง” ฮูหยินย่าก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “หากอ๋องฉีจะเลิกร้างจริงๆ ข้าจะไม่ยอมเป็นคนแรก”

ฮองเฮาอดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลอยู่ในใจ

นางเป็นลูกสาวคนหนึ่งของตระกูลฉู่ เดิมควรที่จะเห็นตระกูลฉู่สำคัญที่สุด

แต่อ๋องฉีเป็นลูกแท้ๆของนาง หากจะช่วยตระกูลฉู่ ก็จะต้องลงโทษลูกชายตนเองอย่างหนัก

นางคิดไปคิดมา ไม่กล้าล่วงเกินฮูหยินย่า จึงทำได้เพียงระบายอารมณ์ทั้งหมดลงที่ฉู่หมิงชุ่ยว่า “เจ้าว่ามาสิเจ้าก่อเรื่องอะไร? ก่อนหน้านี้ชิงเอ๋อเอาใจเจ้าอย่างดีที่สุด เจ้ากลับทำให้เขาโกรธ เจ้าบอกข้ามาตามตรง เจ้าทำอะไรกันแน่? เขาบอกว่าเจ้าคบชู้กับอ๋องฉู่ มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือไม่?”

ฉู่หมิงชุ่ยประหลาดใจ แล้วน้ำตาก็ไหลพรากลงมา พูดขึ้นอย่างโศกเศร้าว่า “ท่านน้า ท่านพูดเช่นนี้ จะบีบคั้นให้ข้าตายเลยหรือ”

ฮูหยินย่าพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “ฮองเฮา เจ้าพูดเช่นนี้ก็เกินไป มีผู้อาวุโสที่ไหนเขาพูดกันเช่นนี้? ชุ่ยเอ๋อเป็นคนเช่นนั้นหรือ? นางเติบโตอยู่ในวังกับเจ้ามาตั้งแต่เด็ก นางเป็นคนยังไงเจ้าไม่รู้หรือ? นั่นเป็นคำพูดที่นังสารเลวนั่นพูดขึ้นมาเพื่อให้ทั้งสองสามีชายาเอกแตกแยกกันอย่างเห็นได้ชัด เจ้าเจ็ดเชื่ออย่างโง่เง่าก็ช่าง เจ้าก็เชื่อหรือ? เจ้าสูญเสียมโนธรรมไปแล้วหรือ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน