หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ได้ ข้าตกลง”
“ท่านใช้ชีวิตของหยวนชิงหลิงมาสาบานสิ”ฉู่หมิงชุ่ยไม่เชื่อ
หยู่เหวินเห้าสีหน้ายังคงเฉยเมย “ข้าใช้ชีวิตของตัวเองกับพระชายาฉู่สาบาน ตอนที่เจ้าตาย ข้าจะอยู่ข้างกายเจ้า ”
ฉู่หมิงชุ่ยค่อยๆผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่ง “ข้าจะเชื่อท่านเป็นครั้งสุดท้าย ”
นางใช้สองมือยันพื้น พยายามโน้มไปข้างหน้า รอยเลือดนั้นราวกับร่องรอยแตกร้าวบนกำแพงเมืองหลากสี แตกร้าวคดเคี้ยวไปอย่างไร้กฎเกณฑ์ ภายใต้แสงสว่างริบหรี่ ดูแล้วช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
“ท่านปู่ของข้า ”นางใช้แรง พูดสี่คำนี่ใกล้หูของเขา
พูดจบ นางก็ถอนหายใจหนักๆหนึ่งครั้ง มองเขาอย่างเจ็บปวดเคียดแค้น
ริมฝีปากของหยู่เหวินเห้าโค้งขึ้น ยิ้มอย่างเย็นยะเยือก “ข้าก็คิดว่าเป็นเขา นอกจากเขาแล้ว คงไม่มีใครคิดแผนได้รอบคอบเช่นนี้ ”
“ใช่แล้ว นอกจากเขา ใครกันจะสามารถควบคุมทุกสิ่งให้อยู่ในมือได้”ฉู่หมิงชุ่ยแววตาว่างเปล่า “ที่จริง เขาคิดจะฆ่าข้าด้วย ตอนแรกคุยกันไว้แล้วว่า เขาจะไว้ชีวิตข้า ขอเพียงหยวนชิงหลิงตาย เขาจะล้างมลทินทั้งหมดให้ข้า ข้าจะยังคงเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนโสวฝู่ แต่ที่จริงแล้ว สุดท้ายคนพวกนั้นคงฆ่าข้าไปด้วย ถ้าหากพวกท่านไม่มา ข้าก็คงจะตายอยู่บนเรือนั้น ”
“โสวฝู่ช่างใจร้ายจริงๆ ”หยู่เหวินเห้าพูด
ฉู่หมิงชุ่ยแววตาเจ็บปวด “ใช่แล้ว ใจร้ายมาก เขาจะฆ่าข้ากับท่านแม่ ข้าเกลียวเขาเข้ากระดูกดำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ”
หยู่เหวินเห้าถาม “พวกโจรภูเขา เขาเป็นคนหามาหรือ”
“ใช่แล้ว ”ฉู่หมิงชุ่ยพูด
“เขาไปรู้จักพวกโจรภูเขาเหล่านั้นได้อย่างไร ”
ฉู่หมิงชุ่ยยังคงนิ่งอึ้ง แล้วก็พูดโพล่งออกไปว่า“ แน่นอน เขาเคยพาทหารไปปราบโจร พวกโจรซ่องสุมกันอยู่ที่ไหน เขาย่อมรู้ดีแก่ใจ ”
หยู่เหวินเห้ามองนาง “เขาเคยพาทหารไปปราบโจรหรือ”
ฉู่หมิงชุ่ยเงยหน้าขึ้นมองเขา “เขาพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าคงไม่ใช่เขาที่ไปด้วยตนเอง เพียงแต่เป็นคำสั่งของเขาเท่านั้น ”
หยู่เหวินเห้าพูด “ปราบโจร เจ้าพูดถึงอ๋องจี้หรือเปล่า ”
นางมองหน้าเขา หัวเราะขึ้นมา “ท่านสงสัยอ๋องจี้หรือ ไม่ใช่อ๋องจี้ ”
“ไม่ใช่พี่ใหญ่ ”ดวงตาของหยู่เหวินเห้าดำสนิทดุจท้องฟ้ายามราตรี “จะถึงวันมงคลของเขาแล้ว ย่อมไม่ใช่เขาแน่ ”
ฉู่หมิงชุ่ยค่อยๆพูดอีกว่า “ข้ารู้ว่าท่านเองก็คงจะแค้นใจท่านปู่ของข้ามาก ท่านวางใจได้ เมื่อไปทำการสอบสวนร่วมสองฝ่าย ข้าจะยอมสารภาพความจริงเรื่องของเขา เพื่อให้ท่านล้างแค้นให้หญิงคนนั้น ”
หยู่เหวินเห้าพูด “ใครบอกเจ้า ว่าจะมีการสอบสวนร่วมสองฝ่าย ”
ราชโองการของฮ่องเต้ เพิ่งจะมาถึงกรมการพระนครไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม นางก็รู้แล้ว
“ไม่มีหรือ ”ฉู่หมิงชุ่ยอึ้ง “ข้านึกว่าคดีใหญ่ขนาดนี้ คงไม่ได้ให้กรมการพระนครสอบสวนเพียงฝ่ายเดียวแน่ ”
หยู่เหวินเห้าพูดว่า “ใช่แล้ว มีราชโองการลงมาจริงๆ ให้กรมอาญาร่วมสอบสวนกับกรมการพระนคร แต่ว่า ในเมื่อเจ้าให้การสารภาพแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นศาลแล้ว ”
ฉู่หมิงชุ่ยมองเขา เอ่ยอย่างสงบว่า “ก็ดี ”
หยู่เหวินเห้าค่อยๆยื่นมือออกไป กำที่ข้อมือของเขาเอาไว้
แววตานางยินดีขึ้นมา น้ำเสียงสั่นเครือ “พี่เห้า ”
หยู่เหวินเห้าหลุบตาลง สะกดกลั้นไอสังหารที่ผุดขึ้นมาในดวงตา เอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “หลับตาซะ”
“พี่เห้า ท่านยังคงลืมข้าไม่ได้สินะ”หางเสียงของนางยังคงแฝงแววตื่นเต้น “ท่าน”
กำลังภายในส่งผ่านไปช้าๆ บาดแผลที่ข้อมือนางปริออก เลือกทะลักพุ่งออกมา
เขายืนขึ้น ถอยไปหนึ่งก้าว มองหน้านางที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นางใช้อีกมือไปกำข้อมือเอาไว้ อยากจะหยุดไม่ให้เลือดไหล แต่ว่า ก็ไร้ประโยชน์
แสงรำไรถูกร่างของหยู่เหวินเห้าบังไว้จนมิด เขายืนอยู่ท่ามกลางความมืด น้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้าตายอย่างวางใจเถอะ ข้าบอกแล้ว ตอนที่เจ้าตาย จะจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าที่นี่ ข้าไม่คืนคำ และขอบคุณความร่วมมือของเจ้า ที่สารภาพถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง ”
ฉู่หมิงชุ่ยสั่นไปทั้งร่าง เสียเลือดในระยะเวลาอันรวดเร็วทำให้นางตัวเย็นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวเข้าโจมตีจิตใจนางราวกับแมลงนับหมื่นตัวที่เข้าเกาะกินในใจ ทุกส่วนของร่างกายสั่นเท่าขึ้นมาด้วยเหตุนี้ “พี่เห้า ช่วยข้า”
“เป็นอ๋องจี้”หยู่เหวินเห้ามองเขา “ส่วนหัวหน้าพลตระเวนซุน เมื่อก่อนเคยติดหนี้บุญคุณอ๋องจี้”
ผู้ช่วยเจ้ากรมตกตะลึง “ที่แท้ก็เป็นอ๋องจี้หรอกหรือ”
หยู่เหวินเห้าพูดอย่างไม่พอใจ “เสียดาย ที่ข้าไร้หลักฐาน ได้แต่ละเว้นเขาไว้ก่อนในครั้งนี้”
ผู้ช่วยเจ้ากรมมองเขา “แต่วันนี้ตอนที่ท่านอ๋องอยู่ในคุก เหมือนจะเคยบอกกับฉู่หมิงชุ่ยว่า ไม่ใช่อ๋องจี้ ”
“นั่นก็แค่คำพูดหยั่งเชิง ”หยู่เหวินเห้าพูด
ผู้ช่วยเจ้ากรมพยักหน้า “ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ”
“เจ้าออกไปเถอะ คดีนี้สิ้นสุดแล้ว ไม่ต้องเอ่ยขึ้นอีก”หยู่เหวินเห้าพูด
ผู้ช่วยเจ้ากรมคำนับแล้วถอยออกไป
หยู่เหวินเห้ามองเงาหลังของเขา แววตาเย็นเยียบ
เขาเก็บสายตากลับมา พูดกับทังหยางว่า “ส่งคนไปจับตาดูผู้ช่วยเจ้ากรมเอาไว้”
ทังหยางไม่ได้ตามเข้าไปในคุกด้วย ฉะนั้นจึงไม่รู้ถึงเรื่องราวที่สอบสวน เมื่อครู่ท่านอ๋องพูดถึงอ๋องจี้ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
“ไม่ใช่อ๋องจี้ ใช่หรือไม่ ”ทังหยางถามขึ้น
“ไม่ใช่”นิ้วของหยู่เหวินเห้าจับแท่นฝนหมึกเอาไว้ ปลายนิ้วขาวซีด ดวงตาดำขลับมีไอเย็นเยือกส่งออกมาเป็นระลอก “แรกเริ่ม ข้าก็คิดว่าเป็นพี่ใหญ่”
ทังหยางพูดว่า “ถ้าอ๋องจี้ต้องการทำร้ายพระชายา ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ อีกอย่างเขากำลังจะมีงานมงคล ไม่จำเป็นต้องทำให้ตนเองหมดอำนาจลงเช่นนี้ ถึงแม้อยากจะให้พระชายาตาย เขาย่อมต้องมีวิธีการอื่น ไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องมันใหญ่โตขนาดนี้ ไม่ได้มีผลดีกับเขาเลย ”
“เขา เดาใจเสด็จพ่อไม่ได้ และเขาก็ไม่เข้าใจเกี่ยวกับองครักษ์ลับผี เรื่องนี้ เขาทำไม่ได้ อีกอย่าง คนคนนี้นั้นมาหาฉู่หมิงชุ่ยอย่างกะทันหัน เดิมฉู่หมิงชุ่ยไม่ได้คิดวางแผนจะทำเช่นนี้ เดิมทีนางแค่อยากจะสร้างความร้าวฉานระหว่างพี่น้องของข้ากับเจ้าเจ็ด เจ้าลองคิดดูดีๆก็จะเข้าใจ”หยู่เหวินเห้าพูด
ทังหยางพยักหน้า “จริงพ่ะย่ะค่ะ เดิมที่ฉู่หมิงชุ่ยคิดจะใช้เรื่องในร้านเหล้าเยว่เต๋อมาทำให้ท่านอ๋องกับอ๋องฉีผิดใจกัน เห็นได้ชัดว่าแผนการได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ”
หยู่เหวินเห้าหรี่ตาลง ฉายแววเย็นยะเยือก “สามารถวางแผนการที่แยบยลรอบคอบได้ในระยะเวลากระชั้นชิดเช่นนี้ ยังคิดไปถึงองครักษ์ลับผี เสด็จปู่ด้วย คนพวกนั้นต้องคุ้นเคยกับองครักษ์ลับผีเป็นอย่างดี รู้ว่าต้องปล่อยข่าวอย่างไรเพื่อให้องครักษ์ลับผีได้ยิน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...