หยวนชิงหลิงยื่นมือออกไปดึงแขนเสื้อของมู่หรูกงกงเบาๆ เอ่ยเสียงเบาว่า “กงกง เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีของฉู่หมิงชุ่ยใช่หรือไม่ ”
มู่หรูกงกงพูดว่า “พระชายา ท่านอย่ากังวลไปเลย ไม่ว่าเรื่องอะไร ฮ่องเต้ย่อมต้องถามความคิดเห็นของท่านก่อน ถ้าหากท่านไม่เห็นด้วย ฮ่องเต้เองก็รู้ว่าควรทำเช่นไร ”
คำพูดนี้ ทำให้หยวนชิงหลิงหัวใจกระตุก
มันเรื่องอะไรกันจึงต้องถามความคิดเห็นของนางก่อน เรื่องส่วนรวมนั้นคงไม่ต้อง นอกจากเรื่องภายในจวน
และเรื่องภายในจวน ถ้าถามนางแล้วนางจะต่อต้านอย่างถึงที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องแต่งพระชายารอง
หยวนชิงหลิงลำบากใจ นี่เพิ่งจะสงบลงได้ไม่นาน ฉู่หมิงหยางก็เพิ่งจะแต่งงานไป นับว่าได้หายใจโล่งเฮือกหนึ่ง ตอนนี้จะมีเรื่องอีกแล้ว
ข้าวมื้อนี้ เกรงว่าจะกินไม่ลงซะแล้ว
เข้าสู่วังแล้ว มู่หรูกงกงก็พานางไปยังหอหยุนหลง
หอหยุนหลงอยู่บริเวณทิศตะวันออกของราชวัง มีอาณาเขตติดกับตำหนักบูรพาตงกง
ข้างหอหยุนกลง เป็นตำหนักหยุนหลง เป็นตำหนักบรรทมในฤดูหนาวของฮ่องเต้
หอหยุนหลงสูงสามชั้น ไม่ใหญ่นัก ข้างนอกมีบันไดหมุนวนขึ้นไป ชั้นสองใช้เป็นที่เสวยอาหาร
หมันเอ๋อกับอะซี่ต่างก็รออยู่ข้างล่าง หยวนชิงหลิงตามมู่หรูกงกงขึ้นไป
ฮ่องเต้หมิงหยวนยังไม่เสด็จ แต่ว่าได้จัดเตรียมโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้ว มีนางกำนัลสองคนคอยรับใช้อยู่ข้างๆ
ที่นี่แบ่งออกเป็นในและนอกตำหนัก กินข้าวนั้นต้องกินนอกตำหนัก ตกแต่งได้เรียบง่ายสะอาดตา กำแพงด้านตะวันออกมีภาพอักษรติดอยู่ เขียนไว้ว่า “ผลผลิตอุดมสมบูรณ์” เหมือนเป็นตัวแทนแสดงให้เห็นถึงความหวังสูงสุดของฮ่องเต้หมิงหยวน
ด้านตะวันตกมีฉากกั้นหนึ่งแผ่น ข้างในสามารถทะลุไปยังตำหนักชั้นใน
ด้านทิศใต้เป็นบันได ด้านทิศเหนือมีโต๊ะหนังสือวางอยู่หนึ่งตัว บนโต๊ะมีหนังสือวางอยู่ไม่กี่เล่ม ยังมีพวกหมึกและเครื่องเขียน ที่สะดุดตามากที่สุดบนโต๊ะนั้นก็คือสิงโตหยกตัวหนึ่ง แกะสลักได้ประณีต ดูมีชีวิตชีวามาก
ในห้องมีการจุดเตาผิง อบอุ่นมาก พอประตูด้านใต้ปิดลง ก็ไม่มีลมหนาวพัดเข้ามาได้อีก แต่ยังคงได้ยินเสียงลมพัดจากภายนอก
“พระชายาเชิญนั่ง อีกครู่ฮ่องเต้คงจะเสด็จมาถึง”มู่หรูกงกงพูด
หยวนชิงหลิงนั่งลง นางกำนัลยกน้ำร้อนเข้ามาให้นางล้างมือ จากนั้นก็ยกน้ำชาเก๋ากี่ดอกเก๊กฮวยมาหนึ่งแก้ว
หยวนชิงหลิงดื่มไปคำหนึ่ง กลิ่นดอกเก๊กฮวยแรงมาก มีรสขมเล็กน้อย ความหวานของเก๋ากี่ยังไม่สามารถกลบความขมและฝาดนี้ไปได้
หลังจากดื่มเข้าไปแล้ว ยิ่งทวีความหอมมากขึ้น
ดื่มชาหมดไปหนึ่งแก้ว ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมา
หยวนชิงหลิงยืนขึ้น ถอยไปยืนอยู่ด้านข้าง รอคำนับฮ่องเต้หมิงหยวน
เสียงฝีเท้าหยุดลงที่ด้านนอก ประตูเปิดออก ลมเย็นพัดโกรกเข้ามา แรงลมพัดเอาผ้าปูโต๊ะเลิกขึ้นในชั่วขณะ หยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกว่าลมหนาวพัดมาอย่างกะทันหัน จึงเกิดอาการหนาวสั่นขึ้นมา
ชุดเสือเหลืองทองไหวสะบัด หยวนชิงหลิงคุกเข่าลง “หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จพ่อ”
น้ำเสียงอบอุ่นแฝงแววเคร่งขรึมส่งผ่านมา “ลุกขึ้น”
หยวนชิงหลิงกล่าวขอบคุณพร้อมลุกขึ้น ยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยม
ฮ่องเต้หมิงหยวนก้าวเท้าก้าวใหญ่ๆเดินเข้าไป ยกชายชุดมังกรและนั่งลง มองไปทางหยวนชิงหลิง “มานั่งสิ”
หยวนชิงหลิงออหนึ่งเสียง เดินเข้าไปนั่งลงตรงที่เดิมที่เคยนั่ง
มู่หรูกงกงเดินเข้ามาถาม “ฮ่องเต้ จะให้ทรงตั้งโต๊ะเลยหรือไม่”
“เรียกเข้ามา”ฮ่องเต้หมิงหยวนพูด
หยวนชิงหลิงอึ้ง เอ่ยอย่างจงรักภักดีว่า “เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดเพคะ ท่านอ๋องนั้นเคารพเสด็จพ่อเป็นอย่างยิ่ง”
ฮ่องเต้หมิงหยวนยิ้มเย้ย “เคารพ เจ้าเด็กนั้นด่าข้าอยู่ในใจไม่น้อย ข้าจะจัดการเขา กำราบความฮึกเหิมของเขาซะบ้าง”
หยวนชิงหลิงดวงตาไหววูบ พูดว่า “เสด็จพ่อ เขาไม่ได้มีความฮึกเหิมอะไรหลงเหลือแล้ว เสด็จพ่อได้ขัดเกลาเขาเป็นอย่างดีไปแล้ว แม้แต่เหลี่ยมที่มีก็ยังจะขัดจนแบนราบ เช่นนั้นคงไม่ดี คนกับหินก็เหมือนกัน หากขัดจนเกลี้ยงเกลากลมมนไร้เหลี่ยมขึ้นมา ก็คงได้แต่เอาไว้ให้คนอื่นนั่ง”
ฮ่องเต้หมิงหยวนฮึเสียงขึ้นจมูก “เจ้านี่ช่างปกป้องเขาจริงเชียว”
“เรียนเสด็จพ่อ การปกป้องสามี คือหน้าที่ของภรรยา ”หยวนชิงหลิงกำลังครุ่นคิดว่าการเปิดหัวข้อสนทนานั้นช่างธรรมดาเกินไปแล้ว ธรรมดาจนเหมือนจะคุยเล่นกันเกี่ยวกับเรื่องในบ้านเท่านั้น
ฮ่องเต้หมิงหยวนอืมหนึ่งเสียง สายตากวาดมองนางเรียบๆแวบหนึ่ง “อืม วันนี้ที่เรียกเจ้าเข้าวัง เพราะมีเรื่องหนึ่งอยากจะถามเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าฉู่หมิงชุ่ยตายอย่างไร”
หยวนชิงหลิงเลิกคิ้วครู่หนึ่ง “เรื่องนี้ ได้ยินว่า เป็นการฆ่าตัวตายในคุก”
ฮ่องเต้หมิงหยวนครางหนึ่งเสียง “ในคุกหลวง ปล่อยให้คนร้ายฆ่าตัวตายตามอำเภอใจ นับว่าบกพร่องต่อหน้าที่”
“เพคะบกพร่องต่อหน้าที่”หยวนชิงหลิงรีบพูดขึ้น “ตอนนี้เสด็จพ่อได้ให้เขาพักงานเพื่อตรวจสอบแล้วมิใช่หรือเพคะ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนมองนาง สายตามีแววลึกล้ำขึ้น มองไม่เห็นก้นบึ้ง “หากแค่บกพร่องในหน้าที่ก็จัดการง่าย มากสุดก็แค่ปลดเขาออกจากตำแหน่งเจ้ากรมการพระนคร แต่เมื่อวานมีคนถวายฎีกา มีคนเห็นกับตาว่าเขาฆ่าฉู่หมิงชุ่ยด้วยตนเอง แม้ฉู่หมิงชุ่ยจะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ยังไม่ได้รับการสอบสวน ไม่ได้คาดโทษไม่นับว่ามีโทษ และนางกับเจ้าเจ็ดก็ยังไม่ได้เลิกร้างกัน ฉะนั้น เจ้ารู้หรือไม่ เจ้าห้านั้นมีโทษฐานฆ่าคนตาย และคนที่ฆ่าตายยังเป็นพระชายาของราชวงศ์”
หยวนชิงหลิงสีหน้าขาวซีด มองฮ่องเต้หมิงหยวนด้วยความนิ่งอึ้ง
ฮ่องเต้หมิงหยวนน้ำเสียงขรึมลง “ตามกฎมนเทียรบาล องค์ชายทำผิดก็ต้องได้รับโทษดุจปุถุชนคนธรรมดา เขาฆ่าพระชายาอ๋อง มีโทษถึงประหาร”
หยวนชิงหลิงรู้สึกตกตะลึงในใจ แต่ว่า ใบหน้านางยังคงสงบนิ่ง เอ่ยอย่างแยกแยะว่า “เสด็จพ่อ คนที่ถวายฎีกาบอกว่ามีคนเห็นกับตา พยานบุคคลที่ว่าเห็นเองกับตาเป็นไปได้ว่ากำลังใส่ร้ายท่านอ๋อง ขอเสด็จพอตรวจสอบให้ชัดเจนด้วย ”
ฮ่องเต้หมิงหยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง “ข้าย่อมต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงได้เรียกให้เจ้าเข้าวังเพื่อสอบถามยังไงเล่า”
หยวนชิงหลิงค่อยๆหายใจหนึ่งเฮือก หัวใจเต้นจนจะทะลุคอหอยแล้ว รู้สึกโมโห นางพูดว่า “กระหม่อมรู้แค่ว่า ฉู่หมิงชุ่ยฆ่าตัวตายในคุก ไม่ได้มีใครฆ่านาง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัลลังก์หมอยาเซียน
OMG ไม่คิดว่าจะอ่านจบ 2105 หน้าสุดปัง เรื่องสนุกมาก ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีความเรียลจนบางตอนมีน้ำตาซึมตามเพีาะความประทับใจ สนุกมากจริงๆทอยากให้มีภาคลูกไปบ้าง...
กลับมาอ่านอีกครั้ง สนุกจริง...
สนุกมากค่ะ มีต่อไหมคะ...
สองขาของหยู่เหวินเห้าก็คดงอคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ เอ่ยอย่างไม่เต็มใจเลยสักนิดว่า “ลูกยินดียอมรับโทษทัณฑ์ที่เหลือของเสด็จพ่อ ชอบข้อความบทนี้ตลกดีคะพระเอก ตอน 394...
1...
1...
เพิ่งอ่านได้ 2ร้อยกว่าหน้า สนุกน่าติดตามมาก แต่ทั้งเรื่องมี2พันกว่าหน้า ทำไงจะอ่านจบ...
ขอบคุณผู้แต่ง และ novelones มากๆค่ะ ดีที่สุด อ่านรอบที่ 4 แล้วก็ยังสนุกครบรส ❤️...
เรื่องนี้ถือว่าสมบูรณ์มากสนุกต้นถึงจบ อยากให้เป็นซีรี่ย์...
สนุก ตลกดี เนื้อเรื่องชวนติดตามแต่คำผิดเยอะไปหน่อยค่ะ...